หากเส้นผมเริ่มบางลง คือมีจำนวนเส้นผมลดลง และขนาดของเส้นผมเล็กลง ความยาวก็สั้นลง พื้นที่ผิวของเส้นผมบนศีรษะย่อมจะลดลงไปด้วย เหมือนไม้กวาดที่เก่าแล้วการดูดซับน้ำมันของเส้นผมจึงทำได้จำกัดหรือดูดซับไม่หมด ทำให้มีน้ำมันเหลือค้างบนหนังศีรษะ ดังนั้น คนที่ผมบางถึงจุดหนึ่งจะรู้ตัวว่า หนังศีรษะนั้นมีความมันด้วยกันทุกคน นอกจากนี้แล้ว เส้นผมที่ขาดความสมบูรณ์จะไม่สามารถทำหน้าที่ปกป้อง และควบคุมอุณหภูมิของหนังศีรษะได้เหมือนเดิม เส้นผมที่ดกดำจะดูดซับแสงแดด ทำให้เกิดความร้อนบนเส้นผม (ไม่ใช่บนหนังศีรษะ) ความร้อนนี้เชื่อกันว่าจะทำให้เหงื่อออกและซึมเข้าไปในผิวของเส้นผมโดยตรง ทำให้ความร้อนลดลงในที่สุด แต่หากไม่มีเส้นผมปกคลุมมากพอ ความร้อนจากแสงแดดจะสะสมบนหนังศีรษะแทน ซึ่งก็ทำให้เหงื่อออกเหมือนกัน แต่เหงื่อจะค้างอยู่บนหนังศีรษะ เพราะไม่มีเส้นผมมาดูดซับเหงื่ออย่างในภาวะปกติ เหงื่อผสมกับน้ำมันที่เหลือค้างทำให้เกิดการเยิ้ม และเหนอะหนะ เป็นที่น่ารำคาญทั้งสำหรับตนเองและผู้พบเห็น เม็ดเหงื่อที่กระจายอยู่บนเส้นผม เมื่อเจอะเจอละอองน้ำมัน กลับจะทำให้แตกกระจาย และระเหยแห้งด้วยลมโกรกได้ง่าย ส่วนเหงื่อที่คลุกเคล้ากับน้ำมันบนหนังศีรษะนั้น มีแต่ความเหนอะหนะดังที่กล่าว และไม่สามารถแห้งหายไปได้ง่ายด้วยลมที่พัดโกรกเหมือนอย่างในสภาวะปกติ ความเหนอะหนะนั้นทำให้การจับตัวของมลภาวะและสิ่งสกปรกเกิดขึ้นได้ง่าย เป็นที่มาของอาการหนังศีรษะอักเสบหรือตุ่มคัน …
Continue reading