แชร์สินค้าให้ขายได้

17 เทคนิคการแชร์สินค้าให้ขายได้

การสร้างความสนใจและเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจของคุณในยุคที่เติบโตของสื่อสังคมออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญ การใช้แนวทางที่ถูกต้องในการโฆษณา และการติดต่อกับลูกค้า สามารถช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความน่าสนใจให้กับสินค้าหรือบริการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ดังนั้นนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยคุณในการสร้างความสำเร็จในการขายสินค้า ในตลาดออนไลน์: เลือกสินค้าที่เราสนใจ เพราะเราจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญ สามารถตอบลูกค้าได้อย่างมีความมั่นใจและเป็นองค์ความรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ เลือกเข้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เข้าร่วมกลุ่มและชุมชนที่มีความสัมพันธ์กับสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อเข้าร่วมการสนทนาและแบ่งปันความรู้กับผู้อื่นในวงกลมเป้าหมายของคุณ ใส่แฮชแท็คที่เกี่ยวข้องกับสินค้า การใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณจะช่วยให้ผู้คนที่สนใจสามารถค้นหาและเข้าถึงโพสต์ของคุณได้ง่ายขึ้น โพสในเวลาให้ถูกต้อง ลงสินค้าให้เยอะ ลูกค้าจะมีโอกาสเห็นมากกว่า ถ้าสินค้าแพง เลือกสินค้าที่มีแบรนด์ไปเลย เพราะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า โพสกระตุ้นให้คนซื้ออยากได้ โพสรูปให้ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าเอารูปมา ก็นำมาตกแต่งเพิ่มเติม โพสรูปสินค้าจริง โพสรูปรีวิว โพสมีพาดหัว ลด โปรโมชั่นพิเศษ ลิมิเตดเอดิชั่น โพสบ่อยๆ แต่ห้ามโพสรูปซ้ำ ขายในมาร์เก็ตเพลสเป็นหลัก ลงสินค้าให้เยอะ ตอบลูกค้าให้ไว …

Continue reading
เทคนิคโพสสินค้าลงเฟซบุ๊ก

12 เทคนิคโพสสินค้าลงเฟซบุ๊กมาร์เก็ตเพลส กระตุ้นยอดสั่งซื้อ

ในปัจจุบันนี้ เป็นที่ทราบว่าแพลตฟอร์มเฟสบุ๊ค ยังเป็นแหล่งรายได้ที่เราสามารถใช้หาลูกค้าได้อย่างเป็นจำนวนมากอยู่ เพราะคนไทยที่เล่นอินเตอร์เนต ก็ต้องมีบัญชีบนเฟสบุ๊กกันทั้งนั้น การขายสินค้า ไม่ว่าเราจะเป็นผู้ขายโดยตรง หรือว่า เป็นตัวแทนจำหน่าย Affiliate ให้กับเจ้าของสินค้าอื่นๆ บน Shopee หรือว่า Lazada เราจึงควรเรียนรู้ว่ามีเทคนิคอย่างไร ที่จะช่วยให้เราขายดีขึ้น ได้รับผลตอบรับที่ดีมากขึ้นนั่นเอง มาดูกันดีกว่า ในเทคนิคเหล่านี้ เราได้ใช้กันครบแล้วหรือยัง ในการเสนอขายสินค้าแต่ล่ะครั้ง 1. หาสินค้าขายดี สินค้าโปรโมชั่น และสินค้ารีวิวดี ข้อนี้ไม่ว่าเราจะขายสินค้าเอง หรือเป็นตัวแทนจำหน่าย เราก็ควรเลือกสินค้าที่มีผู้ให้ความสนใจ มีผู้ทีจะต้องซื้อใช้เป็นประจำอยู่แล้ว สินค้าที่ขายดี และมีรีวิวดี เราสามารถหาได้จากการดูสินค้าในช็อปปี้หรือลาซาด้าได้ทั่วไปเลย โดยเฉพาะหากเราเป็น Affiliate …

Continue reading
 ความรู้เบื้องต้นเรื่อง แรงงานสัมพันธ์

เงื่อนไขที่จำเป็นบางประการต่อการสร้างและรักษาระบบแรงงานสัมพันธ์

เงื่อนไขที่จำเป็นบางประการต่อการสร้างและรักษาระบบแรงงานสัมพันธ์ การยอมรับจากฝ่ายนายจ้างว่าลูกจ้างหรือคนงานเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่พยายามทำงาน ให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร ทัศนคติคนงานหรือพนักงานที่จะผลิตผลงานหรือสินค้าให้คุ้มค่ากับค่าตอบแทนที่ได้รับจากนายจ้าง ควรจัดให้มีกระบวนการร้องทุกข์ และรับฟังความคิดเห็นจากพนักงานเกี่ยวกับสภาพการทำงาน เครื่องอำนวยความสะดวก ทัศนคติของผู้บังคับบัญชาและสิทธิโดยชอบธรรมต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงการถูกครอบงำโดยอิทธิพลของนักการเมืองที่ผลักดันให้มีการนัดหยุดงาน หรือการประท้วงเพื่อผลทางการเมือง ควรจัดโครงสร้างค่าจ้างเงินเดือนที่มีความยุติธรรมและเหมาะสม ตลอดจนมีสภาพการทำงานที่น่าพอใจ ควรมีนโยบายที่ปันส่วนกำไร (Profit Sharing) ควรจัดให้มีระบบการศึกษาและฝึกอบรมแก่พนักงานทุกระดับโดยเฉพาะในหลักสูตรมนุษยสัมพันธ์ แรงงานสัมพันธ์ รวมทั้งการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ควรจัดให้มีระบบการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพให้พนักงานได้รับทราบถึงการดำเนินงานต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อเขา การสร้างบรรยากาศการทำงานแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) เช่น อาจประยุกต์ใช้การบริหารงานโดยยึดวัตถุประสงค์ (Management by Objective )  การสร้างกลุ่มคุณภาพงาน (Quality Control Circle : QCC) …

Continue reading
สวัสดิการการบริการให้พนักงาน

12 สวัสดิการการบริการให้พนักงาน

สวัสดิการการบริการให้พนักงาน เป็นสิ่งที่องค์กรให้เพื่อเสริมสร้างความพึงพอใจและความสุขของพนักงานในการทำงาน ต่ละองค์การสามารถจัดหาได้มากหรือน้อยได้ตามความเหมาะสมขององค์การ ซึ่งสิ่งที่ให้เป็นสวัสดิการอาจมีหลายรูปแบบและประเภทตามแต่ละองค์กร เช่น เครดิตยูเนียน ( Credit unions ) โบนัสปีใหม่หรือตรุษจีน ( New year’s bonus ) อาหารกลางวันหรือเย็น ( Food service ) เสื้อทำงาน ( Career clothing ) การให้คำปรึกษาหารือ ( Counseling ) รถรับส่ง ( Transportation ) ที่จอดรถ …

Continue reading
กฎหมายแรงงาน เวลาพัก

กฎหมายแรงงาน | เวลาพัก

มาตรา 27 * ในวันที่มีการทำงาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ลูกจ้างทำงานมาแล้วไม่เกิน*ห้าชั่วโมง*  ติดต่อกัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้มีเวลาพักครั้งหนึ่งน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงได้ แต่เมื่อรวมกันแล้ววันหนึ่งต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง ในกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาพักระหว่างการทำงานตามวรรคหนึ่งเป็นอย่างอื่น ถ้าข้อตกลงนั้นเป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง ให้ข้อตกลงนั้นบังคับได้ เวลาพักระหว่างการทำงานไม่ให้นับรวมเป็นเวลาทำงาน เว้นแต่เวลาพักที่รวมกันแล้วในวันหนึ่งเกินสองชั่วโมง ให้นับเวลาที่เกินสองชั่วโมงนั้นเป็นเวลาทำงานปกติ ในกรณีที่มีการทำงานล่วงเวลาต่อจากเวลาทำงานปกติไม่น้อยกว่าสองชั่วโมงนายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักไม่น้อยกว่า*ยี่สิบนาที* ก่อนที่ลูกจ้างจะเริ่มทำงานล่วงเวลา ความในวรรคหนึ่งและวรรคสี่มิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะ หรือสภาพของานต้องทำติดต่อกันไปโดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้างหรือเป็นงานฉุกเฉิน บทบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองลูกจ้าง มิให้นายจ้างใช้ลูกจ้างทำงานในชั่วโมงทำงานอันยาวนานโดยไม่มีเวลาหยุดพัก โดยกำหนดให้นายจ้างใช้ลูกจ้างทำงานในชั่วโมงทำงานอันยาวนานโดยไม่มีเวลาหยุดพัก โดยกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักในระหว่างเวลาทำงานอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง โดยเวลาพักนี้อาจกำหนดเป็นหลายครั้งก็ได้ แต่รวมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ถ้ามีข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง (แต่ละคน) ในการกำหนดเวลาพักเป็นอย่างอื่น ที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง (เช่น พักเพียงครึ่งชั่วโมง …

Continue reading
 ความรู้เบื้องต้นเรื่อง แรงงานสัมพันธ์

ความรู้เบื้องต้นเรื่อง แรงงานสัมพันธ์

 ความรู้เบื้องต้นเรื่อง แรงงานสัมพันธ์ *คำว่า “แรงงานสัมพันธ์” นั้นหมายถึง* ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายนี้ได้มีผลกระทบต่อกระบวนการบริหาร กระบวนธุรกิจของนายจ้าง และมีผลต่อการทำงานและความเป็นอยู่ของลูกจ้างรวมทั้งมีผลต่อสภาพทางเศรษฐกิจสังคม และความมั่นคงของประเทศชาติด้วย นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างแล้ว แรงงานสัมพันธ์ในความหมายอย่างกว้างยังหมายความรวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรของฝ่ายนายจ้าง(สมาคมนายจ้าง สหพันธ์นายจ้างสภาองค์การลูกจ้าง) ที่เข้ามามีบทบาทตามกฎหมายและยังรวมไปถึงบทบาทของรัฐบาลในการจัดระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอันก่อให้เกิดความสงบสุขทางอุตสาหกรรมของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะ   “ทวิภาคี” (สองฝ่าย) ส่วนความสัมพันธ์ที่มีรัฐบาลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้นจะมีลักษณะเป็น “ไตรภาคี” (สามฝ่าย) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคณะกรรมการร่วมที่เป็นองค์การถาวรและมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แรงงานสัมพันธ์ (Labour Relations) ในที่นี้มีความหมายอย่างเดียวกับอุตสาหกรรมสัมพันธ์ (Industrial Relations) หรือความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานกับฝ่ายจัดการ (Labour management Relations) กล่าวโดยสรุปวิชาแรงงานสัมพันธ์ จึงเป็นวิชาที่ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง …

Continue reading
หน่วยงานทางด้านแรงงานสัมพันธ์

หน่วยงานทางด้านแรงงานสัมพันธ์

กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อให้มีการปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายฉบับนี้ด้วย คือ 1. สำนักงานทะเบียนกลาง มีหน้าที่ในการควบคุมการจดทะเบียนสมาคมนายจ้างสหภาพแรงงานสหพันธ์นายจ้าง สหพันธ์แรงงาน รวมทั้งสภาองค์การนายจ้างและสภาองค์การลูกจ้างด้วย ซึ่งปรากฏอยู่ในมาตรา 7 2. สำนักงานคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ มีหน้าที่ในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับคำร้องและข้อพิพาทแรงงาน หรือดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ซึ่งปรากฏอยู่ในมาตรา 8 3. สำนักงานผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน มีหน้าที่ในการจัดทำบัญชีรายชื่อและคุณสมบัติของผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานเพื่อเสนอให้คู่กรณีเลือกตั้ง และควบคุม ดำเนินการทางวิชาการและธุรการเกี่ยวกับการชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ซึ่งปรากฏอยู่ในมาตรา 9

Continue reading
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง

ระยะเวลาใช้บังคับของ ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง

*มาตรา 12* ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง มีผลใช้บังคับในระยะเวลาที่นายจ้างและลูกจ้างได้ตกลงกัน แต่จะตกลงกันให้มีผลใช้บังคับเกินกว่าสามปีไม่ได้ ถ้ามิได้กำหนดระยะเวลาไว้ ให้ถือว่าข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับหนึ่งปีนับแต่วันที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน หรือนับแต่วันที่นายจ้างรับลูกจ้างเข้าทำงาน แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ระยะเวลาที่กำหนดตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างสิ้นสุดลง ถ้ามิได้มีการเจรจาตกลงกันใหม่ ให้ถือว่าข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้นมีผลใช้บังคับต่อไปอีกคราวละหนึ่งปี ระยะเวลาในการใช้บังคับของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง แบ่งออกได้เป็น 3 กรณี คือ กรณีแรก  ถ้านายจ้างและลูกจ้างได้ตกลงกันกำหนดระยะเวลาใช้บังคับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างไว้เช่นใดก็ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในข้อตกลงฉบับนั้น ซึ่งจะกำหนดระยะเวลาให้ใช้บังคับในระยะเวลาเท่าใดก็ได้ เช่น 6 เดือน 1 ปี  3 ปี แต่จะตกลงให้มีระยะเวลาใช้บังคับเกินกว่า 3 ปีไม่ได้ เหตุที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาไว้ไม่ให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลให้ระยะเวลาบังคับเกินกว่า 3 ปี ก็ด้วยมีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองฝ่ายลูกจ้าง ถ้าให้ใช้บังคับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในระยะเวลาเกินกว่า …

Continue reading
การปรับค่าจ้างและการจ่ายโบนัส

การนำผลการปฏิบัติงานไปใช้ในการปรับค่าจ้างและการจ่ายโบนัสประจำปี

การนำผลการปฏิบัติงานไปใช้ในการปรับค่าจ้างและการจ่ายโบนัสประจำปี ในทางปฏิบัติแล้ว หลายองค์การมุ่งเน้นการนำเอาผลการปฏิบัติงานที่ได้ไปใช้เฉพาะการ ปรับค่าจ้างเพียงอย่างเดียว หรืออาจจะนำไปใช้ในการจ่ายโบนัสเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วผลการปฏิบัติงานที่ได้นั้น สามารถนำไปใช้ได้ในอีกหลายๆเรื่อง เช่น การพัฒนาฝึกอบรมเพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของบุคลากร หรือใช้ในการบริหารความก้าวหน้าในอาชีพ (Career Development) นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในการประเมินศักยภาพขององค์การได้อีกด้วย โดยดูว่ามีคนกี่เปอร์เซ็นต์ที่ช่วยกันสร้างความก้าวหน้าให้กับองค์การจริงๆ ทั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ขององค์การต่อไป การนำผลการปฏิบัติงานไปใช้ในการปรับค่าจ้างประจำปี จะต้องเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของการประเมินผลการปฏิบัติงานดังนี้ 1.   การประเมินผลการปฏิบัติงานคือการเปรียบเทียบระดับผลของงานที่เกิดขึ้นกับเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ว่าอยู่ในระดับใด 2.   การประเมินผลการปฏิบัติงานจะต้องทำอย่างอิสระไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างมา เกี่ยวข้อง เช่น มีระดับผลงานดีมาก หรือ  A กี่คน ถ้าทุกคนทำดีหมดทุกคนควรจะมีสิทธิได้ผลงานดีมากหรือผลงานระดับ A หมด 3.   ผลงานที่ได้มาเป็นผลงานที่น่าเชื่อถือ ไม่มีการปรับปรุงในภายหลัง เพราะผลงานที่ได้มาจากระบบที่มีการกระจายเป้าหมายจากระดับองค์การลงมาสู่ระดับผู้ปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ *ดังนั้น …

Continue reading

วิธีการอื่นที่ใช้ทดแทนการสรรหาพนักงาน

วิธีการสรรหาจะถูกนำมาใช้เมื่อองค์การตัดสินใจจ้างพนักงานใหม่ทำงานเต็มเวลาในบางครั้งอาจพบว่าถึงแม้ว่าการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ได้ชี้ให้เห็นความต้องการพนักงานเพิ่มขึ้น แต่องค์การอาจตัดสินใจเลือกที่จะไม่จ้างพนักงานเพิ่ม ด้วยเหตุผลความจำเป็นทางสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการลดขนาด (Downsizing) ขององค์การฝ่ายบริหาร จึงยังไม่เห็นสมควรจ้างพนักงานใหม่ถาวร เพราะเมื่อมีการจ้างแล้วไม่สามารถจะไล่ออกได้(ไล่ได้แต่ต้องเสียเงินค่าชดเชยและอื่นๆตามกฎหมาย) แม้ว่าจะมีผลการ ปฏิบัติงานไม่เป็นที่น่าพอใจก็ตาม องค์การอาจต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสำหรับการฝึกอบรมที่จะตามมา ดังนั้น องค์การจำเป็นต้องพิจารณาหาวิธีการอื่นทดแทนการสรรหาเพิ่ม วิธีการที่ใช้กันทั่วไปมี 5 วิธี ได้แก่ 1. การทำงานล่วงเวลา (Overtime) เมื่อหน่วยงานมีปริมาณงานมากขึ้นในบางช่วงเวลา วิธีการแก้ปัญหาที่นิยมใช้กันมาก คือ การให้พนักงานทำงานล่วงเวลา ซึ่งเป็นการอำนวยประโยชน์แก่ทั้งพนักงานและนายจ้าง กล่าวคือ นายจ้างไม่ต้องดำเนินการสรรหา คัดเลือก และฝึกอบรมพนักงานใหม่ ส่วนพนักงานก็มีรายได้เพิ่มขึ้นและบรรลุเป้าหมายในการผลิตขององค์การ แต่จากการศึกษาพบว่าการทำงานอันยาวนานของพนักงานทำให้หน่วยงานจ่ายเงินเพิ่มขึ้นแต่กลับได้ผลตอบแทนน้อยกว่าที่ควรจะได้ เนื่องจากพนักงานมีความเมื่อยล้า มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น และขาดงานเพิ่มขึ้น จึงควรพิจารณาให้มีการทำงานล่วงเวลาในระยะเวลาสั้น ซึ่งจะเป็นทางเลือกทดแทนการสรรหาได้ …

Continue reading

การตักเตือนด้วยลายลักษณ์อักษร

การตักเตือนด้วยลายลักษณ์อักษร (Written Warning) การตักเตือนด้วยลายลักษณ์อักษร  ถือเป็นขั้นตอนแรกของการปฏิบัติเกี่ยวกับระเบียบวินัยอย่างเป็นทางการ เพราะการตักเตือนด้วยลายลักษณ์อักษรผู้บริหารหรือผู้รักษาวินัยจะแจ้งสาเหตุของความบกพร่องของการกระทำผิดพร้อมอธิบายให้เข้าใจถึงแนวทางที่ควรแก้ไขปรับปรุงให้พนักงานผู้นั้นเข้าใจและบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงในแฟ้มประวัติส่วนตัวของพนักงานผู้กระทำผิดนั้นพร้อมทั้ง ส่งสำเนาต่อไปให้กับหน่วยบริหารงานบุคคลเพื่อเก็บไว้เป็นประวัติการทำงานของพนักงานผู้นั้น โดย  : รองศาสตราจารย์สุดา  สุวรรณาภิรมย์

Continue reading
การสรรหาและเลือกสรรบุคคล

การสรรหาและเลือกสรรบุคคลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในระบบราชการ

E-Recruitment การสรรหาและเลือกสรรบุคคลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในระบบราชการ ระบบราชการที่เป็นเลิศจำเป็นต้องมีข้าราชการที่เป็นคนดีและคนเก่ง  ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนกลไกของระบบราชการให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล  สามารถนำพาประเทศชาติให้มีศักยภาพที่จะแข่งขันในเวทีโลกได้ การสรรหาและเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการจึงต้องมีการพัฒนาให้มีความสอดคล้องกับยุคสมัยและสภาพการณ์ในโลกของข้อมูลข่าวสารและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  เพื่อให้ได้มาซึ่งข้าราชการที่เป็นมืออาชีพและมีศักยภาพสูง กระบวนการสรรหาและเลือกสรรจึงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและให้เท่าทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิตอล  โดยการนำเทคนิค วิธีการและกลยุทธ์ใหม่ ๆ มาปรับใช้  การสรรหาและเลือกสรรถือเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการบริหารทรัพยากรบุคคล อีกทั้งยังถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการดำเนินการพัฒนาบุคลากรในระยะยาวเพราะการสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานจะก่อเกิดผลสัมฤทธิ์ของงานที่มีประสิทธิภาพและจะช่วยให้บุคลากรสั่งสมความรู้ให้มากขึ้นเพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญในอาชีพของตน ซึ่งจะทำให้บุคลากรมีความสุขในการทำงานและทำงานได้เต็มกำลังความสามารถ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสภาวะแวดล้อมต่างๆของหน่วยงาน สภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมการเมือง และเทคโนโลยี ล้วนเป็นสิ่งกระตุ้นให้บุคลากรมีการปรับปรุงตนเอง องค์กรต้องปรับรูปแบบการทำงานและการบริหารจัดการเสียใหม่  ดังจะเห็นได้ว่าไม่ว่าในภาคเอกชนหรือราชการต้องมีการปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้สนองต่อความต้องการของลูกค้าเพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานระหว่างกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเสริมความคล่องตัวและการติดต่อสื่อสารนั้นก็คือ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการด้านเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการทำงานให้มีความรวดเร็ว ถูกต้อง และทันสมัย ทั้งนี้การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานในทุกๆด้าน ต้องตระหนักถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ผลดีและผลเสียของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการทำงานด้วย หากเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จะต้องมีการศึกษาค้นคว้าให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อน …

Continue reading
ค่าจ้างที่ยุติธรรม

ทฤษฎีค่าจ้างที่ยุติธรรม (The Just Price Wage)

ทฤษฎีค่าจ้างที่ยุติธรรม (The Just Price Wage) ค่าจ้างที่ยุติธรรมหรือ Just Wage คือ ค่าจ้างที่ทำให้บุคคลสามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสมกับสถานะตำแหน่งในการทำงาน นั่นคือ ถ้าเขามีตำแหน่งสูงขึ้น ค่าจ้างก็ควรสูงตาม ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีค่าจ้างที่เก่าแก่ เชื่อกันว่าเริ่มมาจากแนวคิดของ เพลโต (427 – 347BC) และ อริสโตเติล (384 – 322 BC)  ซึ่งเซนต์ โทมัส อควินัส (1225 – 1247AD)    ได้เป็นผู้นำมาปรับปรุงใช้ในยุคกลาง ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างสูง เพราะในยุคนั้นมีการจ้างช่างศิลป์ และช่างฝีมือจำนวนมาก …

Continue reading
กรรมการสัมภาษณ์

3 องค์ประกอบของกรรมการสัมภาษณ์งานตามแนวหลักปฎิบัติที่ดี

องค์ประกอบของกรรมการสัมภาษณ์งาน มีดังต่อไปนี้ค่ะ 1. กรรมการคนที่ 1 ได้แก่ ผู้บริหารของหน่วยงานหรือองค์การที่เปิดรับตำแหน่งนั้น บุคคลที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้าไปปฏิบัติงานด้วย นอกจากจะเป็นการให้เกียรติ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจคัดเลือกบุคคลที่ผู้บริหาร (ผู้อำนวยการ , ผู้จัดการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย) เห็นสมควรว่ามีความเหมาะสมกับลักษณะงานความรับผิดชอบแล้วยังเป็นกลวิธีของการสร้างความเข้าใจ การยอมรับแนวปฏิบัติของการสัมภาษณ์งานแบบมีโครงสร้างให้แก่หน่วยงานนั้นๆ อีกทางหนึ่ง รวมทั้งเพื่อการพัฒนาบุคลากรขององค์การต่อไปด้วย 2. กรรมการคนที่ 2 ได้แก่ นักจิตวิทยา หรือผู้ที่มีความรู้ ความสนใจด้านพฤติกรรมศาสตร์และการประเมินบุคคล เพื่อที่จะประเมินความเหมาะสมโดยภาพรวม ภาษาท่าทางของผู้สมัคร หากกรรมการคนที่ 2 นี้เป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับลักษณะงาน ความเป็นมาและนโยบายต่างๆขององค์การด้วยก็จะเป็นการดี 3. กรรมการคนที่ 3 ได้แก่ …

Continue reading
การวางแผนทรัพยากรมนุษย์

5 ประโยชน์ของการวางแผนทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Planning) เป็นกระบวนการวางแผนการจัดหาและบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร เพื่อให้มีพนักงานที่มีความสามารถและสมรรถนะเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ โดยการวางแผนทรัพยากรมนุษย์จะรวมถึงการประเมินความต้องการทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร การวิเคราะห์ความสามารถและทักษะของพนักงานที่มีอยู่แล้ว การวางแผนการจัดหาพนักงานใหม่ การพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะของพนักงาน และการจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้เหมาะสมกับกิจกรรมขององค์กร เพื่อให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวขององค์กร 1. ช่วยปรับปรุงการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้ดีขึ้น โดยอาศัยวิธีการประเมินผลจากการใช้การบริหาร การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ ตามปกติจะกำหนดยุทธศาสตร์การวางแผนเป็นระยะ 3 ปี หรือ 5 ปี ซึ่งอาศัยผ่านกระบวนการยุทธศาสตร์การวางแผน เจ้าหน้าที่ผู้วางแผนทรัพยากรมนุษย์มีขีดความสามารถพัฒนาหน้าที่การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ให้ดีขึ้น และการวางแผนทรัพยากรมนุษย์เหล่านี้ จะมีความเหมาะสมกับการวางแผนขององค์การทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 2.  ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการประสานงานทั้งด้านกิจกรรมทรัพยากรมนุษย์และวัตถุประสงค์ขององค์การในอนาคต เพราะว่า องค์การจะต้องมีการพัฒนา และขยายการดำเนินงานให้มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น จึงต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ในขณะเดียวกันทางด้านกิจกรรมทรัพยากรมนุษย์จะต้องมีการวางแผนควบคู่ และให้มีความสอดคล้องกับการวางแผนการดำเนินงานขององค์การในอนาคต กล่าวได้ว่า …

Continue reading