ข้อควรปฏิบัติเมื่อเด็กดื่มสารพิษ
ให้ดื่มนมมากเท่าที่เด็กจะดื่มได้ หรือดื่มน้ำอาจใช้ไข่ขาวตีกับน้ำหรือหรือแป้งมันให้ดื่มลด ความเป็นพิษ อาจใช้มือล้วงคอถ้าคุณทำเองได้ หรืออาจใช้ยากระตุ้นการอาเจียน ถ้าลูกอายุต่ำกว่า 2 ปีให้ 2 ช้อนชา คอยดูอาการใน 15 นาที ถ้าเด็กไม่อาเจียนก็อาจซ้ำยาได้อีก แล้วรีบมาโรงพยาบาล
ห้ามทำเด็กให้อาเจียนถ้าอยู่ในภาวะ
- เด็กหมดสติ ไม่รู้สึกตัว
- เด็กมีอาการชักกระตุก
- สารนั้นเป็นด่างหรือกรดมีฤทธิ์ในการทำลายสูง เช่น น้ำยาล้างท่อน้ำ ประเภท DRAINO
- สารประเภทน้ำมัน เช่น น้ำมันก๊าด
เมื่อลูกศีรษะฟาดพื้น
เด็ก ๆเกือบทุกคนเคยล้มกลิ้งศีรษะฟาดพื้นมาก่อนไม่มากก็น้อย ครั้งแรกจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กรู้จักกลิ้งและกลิ้งรอบตัวเองจนตกจากขอบเตียง ระยะเด็ก ออกวิ่งได้จะล้มเก่ง โดยเฉพาะเด็กซนๆ จะวิ่งทั้งวัน
ถ้าเด็กล้มศีรษะพาดพื้นแล้วไม่หมดสติ ร้องจ้า ไม่เกิน 5 -10 นาที ไม่มีอาการอาเจียน ไม่เบื่ออาหาร ไม่ซีด แข็งแรง ร่าเริงเหมือนเดิมคิดว่าสมองไม่น่าจะมีอันตราย
ถ้าเด็กล้มแล้วศีรษะฟาดพื้นแล้วหมดสติไป ต้องพาไปพบแพทย์ อาจจะต้องเอ๊กซเรย์ดูกระโหลกศีรษะว่าแตกหรือไม่ เด็กบางคนล้มฟาดแล้วไม่หมดสติ แต่มีอาการอาเจียน ดูซึมเซาง่วงนอน หน้าซีดเซียว อย่างนี้ต้องพบแพทย์ เพราะอาจจะมีการกระทบกระเทือนต่อสมอง
แผลน้ำร้อนลวก
ลูกเกิดสะดุดกาน้ำร้อน โอวัลตินร้อนๆ หกรดลูก สิ่งเหล่านี้เกิดได้ยิ่งในวัย 2- 4 ปี เมื่อลูกเดินเก่งและช่างเสาหหาของเล่นที่แปลก ๆ น้ำร้อนลวกแผลเด็ก ๆ ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องเอาสบู่ไปฟอกหรือยาทิงเจอร์ไปใส่ เพราะทำให้แผลถลอกออกมากขึ้น อาจใช้ วาสลิน เยลลี่ หรือ น้ำมันพืชธรรมดา ทาบนผิว ถ้าเป็นแผลพองใส อย่าเจาะเป็นอันขาด ทาด้วยน้ำมันแล้วไปพบแพทย์
ลูกชอบกลืนของแปลกๆ
เด็กเล็ก ๆ บางคนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเห็นเข้าไปในปากได้แก่ ขี้ผฝ กระดุม จุกขวด เม็ดยา ฯลฯ แกจะกลืนอย่างง่ายกายไม่น่าเชื่อ เม็ดผลไม้เล็ก ๆก้อนๆ ก็ชอบ ข้อควรปฏิบัติคือ
- ถ้าเป็นของไม่มีคม เช่น กระดุม เม็ดผลไม้ ไม่ต้องทำอะไร จะออกทางอุจจาระเอง
- ถ้าเป็นของมีคมเด็กมีอาการเจ็บปวดต้องพบแพทย์ เพราะอาจติดอยู่กับกระเพาะหรือลำไส้
- ข้อสำคัญ ถ้าลูกกลืนของแปลกๆ เข้าไปอย่าให้ลูกรับประทานยาระบาย เพราะจะไม่ช่วยอะไรเลย และอาจเป็นอันตรายแก่ลูกด้วย