สมองเสื่อม

เขาหาว่าเราสมองเสื่อม

“เขาหาว่าเราสมองเสื่อม”

ถ้าเราถูกกล่าวหาว่าเป็นโรคสมองเสื่อม หรือที่ฝรั่งเรียกว่า อัลไซเมอร์ (เรียกตามชื่อของนายแพทย์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบโรคนี้ เมื่อปีพ.ศ. 2445) แล้วละก็ ลองสังเกตตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้ บ้างหรือไม่

ระยะแรก ใช้ระยะเวลานานประมาณ 7 ปี จะมีอาการหลงลืมเหตุการณ์ในการดําเนินชีวิตประจําวัน แต่จําเหตุการณ์ในอดีตได้อย่างแม่นยํา มักแสดงพฤติกรรมต่างๆ เช่น การแสดงออก โดยคําพูด มักจะมีคําถามวกไปวนมาซ้ำ ๆ อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ไม่คงที่ อาจมีอาการซึมเศร้าหรือกระวนกระวาย มีจิตใจอ่อนไหวง่าย โกรธง่าย แม้ใครพูดว่ากล่าวเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะมีอารมณ์ ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที จําเกี่ยวกับทิศทางสถานที่ต่าง ๆ ไม่ได้ทั้ง ๆ ที่เคยไปมาอยู่เป็นประจํา แม้ว่าสถานที่ ๆ ไปนี้มีบริเวณคล้ายคลึงกัน

การสื่อสารพูดคุยโต้ตอบกับบุคคลเริ่มช้าลง ใช้คําพูด ไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ ภาษาที่ใช้ คําพูดอาจผิดเพี้ยนบ่อยขึ้น ๆ ไม่สามารถเรียนรู้เข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ หรือเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตที่เคยปฏิบัติ เมื่อนําเอามาปฏิบัติใหม่ อีกก็ทําได้ยากกว่าที่เคยปฏิบัติ

ระยะที่สอง การดําเนินของโรคใช้ระยะเวลายาวนานประมาณ 8 ปี อาการจะเป็นมากขึ้นกว่าระยะแรก ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การ ปฏิบัติงานภารกิจต่างๆ ในชีวิตประจําวันขาดความกระตือรือร้น เชื่องช้า เฉื่อยชา มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อารมณ์ ไม่มั่นคง โมโหฉุนเฉียวง่าย พฤติกรรมโดยรวมแสดงออกไม่ถูกกาลเทศะ เช่น เวลาปวดถ่ายปัสสาวะจะไม่คํานึงถึงสถานที่ว่าเหมาะสมถูกต้อง จะยืนถ่ายในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยไม่อายใคร

นอกจากนี้ยังมีอาการทางประสาทร่วมด้วย ด้านการรับรู้ เสื่อมถอยลง เช่น ประสาทตาอาจทําหน้าที่ผิดปกติ มองเห็นสิ่งของ ไม่ค่อยชัดเจน ประสาทหูเสื่อมทําให้หูตึง โรคนี้จะพบมากใน ผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง ซึ่งมีอายุก่อนวัยปลดเกษียณ หรือผู้ที่มี อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจตกต่ําของไทย ในยุคค่าเงินบาทลอยตัว ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพ จิตของคนไทยในประเทศโดยรวม

สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ อาจมาจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนจากการได้รับอุบัติเหตุหรือได้รับสารพิษต่าง ๆ จาก สิ่งแวดล้อม เช่น การรับประทานอาหารริมทางที่ปนเปื้อนของสาร ตะกัวและอลูมิเนียมในปริมาณที่ปะปนมากับอากาศ และเกิดการสะสมในร่างกายเป็นระยะเวลานานๆ ในเด็กอาจขาดสารอาหาร ติดต่อเป็นเวลานาน ทําให้พัฒนาการของเด็กไม่สมบูรณ์ในแต่ละช่วงนั้น ๆ ซึ่งมีผลต่อสมองของเด็ก ทําให้สมองเสื่อมเร็ว อาจมีภาวะเครียดตามมา หรือจากพันธุกรรมโรคนี้สามารถถ่ายทอดไปสู่บุตรหลานได้

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าโรคนี้เกิดกับผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยว กับการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาสัมผัส ร่างกายเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดสามารถบําบัดรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ผล ทําได้ก็แต่เพียงบรรเทาอาการไม่ให้เป็นเร็วหรือมากขึ้น โดยใช้ยาในรูปของวิตามินอี นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญทางโรคนี้ยังแนะนําใช้การ กระตุ้นให้ผู้ป่วยใช้ความพยายามติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่าง เพียงพอ พยายามฝึกใช้สมอง คิดในสิ่งที่สร้างสรรค์ อย่าหยุดคิด หยุดเขียน หยุดคํานวณ ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องหากหยุดเมื่อไร อาการจะทรุดลง

ทราบคําตอบแล้วคุณลองสํารวจตัวเองและปฏิบัติตาม คําแนะนําข้างต้นคุณจะได้ไม่เป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคนี้

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.