สูตรทำแกงเลียง

ผักที่เป็น Basic ของ แกงเลียง สมัยก่อนซึ่งจะขาดไม่ได้เลยก็คือ น้ำเต้า บวบเหลี่ยม ใบตำลึง แล้วก็ใบแมงลัก ถ้าเป็นแกงเลียงที่ให้แม่ลูกอ่อนรับประทาน เขาจะใส่ ผักโขม ยอดฟักทอง หรือว่าหัวปลีลงไปด้วย นัยว่าช่วยประสะน้ำนมดีนัก แกงเลียงที่ดีต้องหอมกะปิ มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย และน้ำแกงข้นด้วยกุ้งแห้งป่น หรือ ปลาป่น แ

จะทำแกงเลียงแบบโบราณมิใช่เรื่องยาก เริ่มต้นก็หงายครกเข้า เอาหัวหอมแดงซอยใส่ลงไปสัก 5 – 7 หัว พริกไทยใส่ลงไปสัก 20 เม็ดหรือชอบร้อน ๆ ก็ใส่ลงไปอีก แต่ระหว่างให้ลูกกินนม ไม่ควรใส่พริกไทยให้เผ็ดร้อนมากนัก โบราณท่านว่า เด็กจะปวดท้อง

บางรายบอกว่า กระชายช่วยรักษาท้องไม่ให้ขึ้น เขาก็ใส่กระชายซอยลงไปด้วยสัก 1 ช้อนโต๊ะ

บางคนอีกเหมือนกัน ชอบเผ็ด จะใส่พริกเหลืองลงไปด้วยสัก 2 เม็ด พอให้คล่อง ๆ จมูก ก็เชิญตามสบาย แต่คุณแม่ลูกอ่อน อย่าไปเอาตามเขาล่ะ เดี๋ยวลูกจะกวนแย่

ทีนี้ก็โขลกให้เข้ากัน แล้วก็ใส่กุ้งแห้งลงไปสัก 3 ช้อนโต๊ะ เลือกกุ้งแห้งที่จืด ๆ นะ หรือจะใส่ปลากรอบก็ได้ หรือถ้าชอบแบบหรู ๆ ก็ใส่กุ้งสดลงไปด้วยสักขีดหนึ่ง ก็จะทำให้น้ำแกงอร่อยเริดสะแมนแตน มากขึ้นไปอีก จากนั้นก็เติมกะปิที่เผาไฟพอหอมลงไปสัก 1 / 2 ช้อนโต๊ะ โขลกให้เข้ากัน

ระหว่างที่ตำเครื่อง ก็เอาหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำซุปลงไปสัก 3 ถ้วย กว่าจะตำเครื่องเสร็จ น้ำแกงก็จะเดือดพอดี ตักเครื่องที่เราตำไว้ลงไปละลายในน้ำแกง พอเดือด ก็จัดแจงปรุงรส โดยเติมน้ำปลาดีลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แต่ถ้ากะปิมันเค็มก็ลดน้ำปลาลงหน่อยก็ได้ แล้วจึงใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน อย่างเช่นพวก น้ำเต้า บวบ (อย่างละ 1 / 2 ถ้วย) สำหรับผักใบบาง ๆ เช่นผักโขม หรือผักตำลึง (1 / 2 ถ้วยอีกเหมือนกัน) ผักพวกนี้เมื่อใส่แล้วต้องรีบยกลงเลย อย่าไปเคี่ยว จะไม่อร่อย

พอยกลง ก็โรยด้วยใบแมงลักสัก 1 / 4 ถ้วย กลิ่นจะหอมน่าซดยิ่งขึ้น

ถ้าจะทำแกงเลียงแบบอื่นๆ ก็เพียงแต่เพิ่มผักที่ชอบลงไป อย่างบางคนชอบใส่ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน หรือว่า เห็ดฟาง ฟักทองที่ใช้ควรจะเป็นฟักทองต้มสุกแล้ว ขืนไปใช้ฟักทองดิบ ๆ มีหวังกว่าฟักทองจะสุก ผักอื่น ๆ เละกันพอดี แล้วใส่ฟักทองลงไปพร้อมบวบ หลังจากนั้นเติมเห็ดฟาง กับข้าวโพดอ่อนลง ไป ตอนนี้ถ้าอยากจะใส่กุ้งสดก็เชิญใส่ได้ตามใจชอบเลยค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.