เครื่องปรุง
บอน หรือ หลี่บอน คือยอดอ่อนของบอนที่อยู่ หนังวัวหรือหนังควาย พริกแห้ง 5–7 เม็ด หัวหอม กระเทียม เกลือ กะปิ ปลาร้า มะขามเปียก ใบมะกรูด
วิธีทำ
นำพริกแห้ง หัวหอม กระเทียม เกลือ กะปิ ปลาร้า โขลกรวมกันให้ละเอียดเป็นน้ำพริกแกง เอาหนังวัวหรือหนังควายเผาไฟ ขูดทำความสะอาดดีแล้วเอาหั่นเป็นชิ้น ๆ ต้มจนเปื่อยแล้วเอาน้ำพริกลงละลายให้เข้ากัน หลี่บอนและต้นบอนอ่อนที่ล้างเรียบร้อยแล้วตัดเป็นท่อน ๆ เอาลงต้มกับหนังวัวหรือควาย เคี่ยวจนเละ โดยบางคนอาจใช้ทัพพีคนบ่อย ๆ หรืออาจใช้ไม้ปั่นให้บอนเละ ใส่น้ำมะขามเปียกคั้นเล็กน้อย ก่อนยกลงใส่ใบมะกรูดลงไป บางคนเมื่อแกงเสร็จแล้ว เอาผัดน้ำมันอีกที พบว่าบางสูตรจะใส่มะเขือด้วยด้วย บางท่านจะนำบอนและหลี่บอนนั้นจะนึ่งให้สุกก่อนแล้วจึงนำไปคนกับเครื่องแกงให้เข้ากัน แล้วจะนำไปผัดในน้ำมัน พร้อมด้วยมะเขือเทศ ใส่น้ำมะขามเปียก ตามด้วยใบมะกรูด
แกงบอนนี้ บางคนถือเคล็ดห้ามพูดว่า “แกงบอน” ให้เรียกว่า “แกงผักหวาน” เพราะกลัวว่าจะทำให้คันปาก บางบ้านจะแขวนบอนผึ่งลมไว้ 1 คืน ก่อนที่จะนำมาปรุงอาหาร
หมายเหตุ : จะใช้ใบและยอดอ่อนของเผือกแทนบอนก็ได้ และใช้ยอดส้มป่อยปรุงให้แกงมีรสเปรี้ยวแทนมะขามเปียกก็ได้ หากไม่มีหนังวัวหรือควาย จะใช้แคบหมู หรือกระดูกหมูแทนได้
จากการศึกษาอาหารไทยพื้นบ้านภาคเหนือของ เสาวภา ศักยพันธุ์ (2534) พบว่าแกงบอนในปริมาณ 100 กรัม มี 63.02 แคลอรี โปรตีน 2.50 กรัม ไขมัน 2.18 กรัม คาร์โบไฮเดรท 8.69 กรัม แคลเซียม 72.01 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 51.66 มิลลิกรัม เหล็ก 1.53 มิลลิกรัม วิตามินเอ 40.88 อาร์อี วิตามินบีหนึ่ง 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.04 มิลลิกรัม ไนอะซิน 0.68 มิลลิกรัม และวิตามินซี 8.71 มิลลิกรัม