ขนมลา

  • This topic is empty.
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
  • ผู้เขียน
    ข้อความ
  • #7930
    Thanaki
    Keymaster

    ขนมลา

    เครื่องผสม

    แป้งข้าวจ้าว 11 ลิตร
    แป้งข้าวเหนียว 11 ลิตร
    น้ำตาลทราย 2 ก.ก.
    น้ำตาลปีบ 1 ก.ก. เคี่ยวผสมเข้าด้วยกัน
    น้ำมันพืช 1 1/2 ขวด
    ไข่ต้มสุกใช้เฉพาะไข่แดง 3 ฟอง
    ไม้เหลากลม ๆ 2 อัน สําหรับ ไว้แซะขนม

    วิธีทํา

    1. นําแป้งทุกชนิดแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง
    2. สรงแป้งขึ้นใส่ตะกร้ารองกันด้วยใบไม้ เช่น ใบมะละกอ และใบคูระ ปิดด้วยใบไม้ชนิดเดียวกัน เพื่อให้แป้งร้อนระอุ ทิ้งไว้ ประมาณ 3 วัน
    3. นําแป้งไปโม่ให้ละเอียด หรือจะทําด้วยครกตําข้าวก็ได้
    4. นําแป้งมากรองด้วยผ้าขาวธรรมดาจนหมดแป้ง ทิ้งให้ แห้งตกตะกอน แล้วรินน้ำใส ๆ เททิ้ง
    5. แป้งแบ่งออกเป็นห่อ ๆ ด้วยผ้าขาวธรรมดา ผูกด้วยเชือก แขวน ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หรือ จะใช้ไม้ดอกหนีบจนแป้งแห้ง ทิ้งไว้ ประมาณ 3 วัน ระยะทิ้งไว้นี้จะต้องคอยหมั่นกลับแป้ง ช่วยให้แป้ง แห้งสนิทดี
    6. น้ำตาลทราย เคี่ยวรวมกับน้ำตาลปีบ ใส่น้ำพอประมาณ อย่าให้เหลวเกินไปหรือข้นเกินไป
    7. นําแป้งที่แห้งสนิทดีแล้วมาตํา ใส่น้ำตาลที่เกี่ยวไว้ลงเล็กน้อย โขลกจนเข้ากันดี เอาขึ้นใส่ภาชนะ นํามาเคล้าเติมน้ำตาลลงอีก คะเนดูใช้ฝ่ามือตบแป้งจนเข้ากันดี ยกขึ้นดูแป้งเป็นเส้นไม่ขาดก็ใช้ได้
    8. กะทะตั้งไฟ ใช้ถ่านอ่อนๆ ทาด้วยน้ำมันพืชผสมไข่ต้มสุก เช็ดให้ทั่วกะทะ (การลงไข่ทําเมื่อตอนขนมติดกะทะ นอกจากนั้น ใช้น้ำมันเปล่า ๆ เช็ด)
    9. ตักแป้งใส่พิมพ์ละเลงในกะทะที่ร้อน คะเนดูพอเส้นขนม เหลืองเป็นไยไหมใช้ไม้กลม ๆ ที่เตรียมไว้แซะพับเป็นรูปสามเหลี่ยม ขึ้นจากกะทะ

    หมายเหตุ

    – เมื่อแซะขนมขึ้นจากกะทะจะต้องทาน้ำมันทุกครั้งก่อนจะ ลงขนม และในกรณีที่ขนมติดกะทะให้ใช้ไข่ลงทาให้ทั่ว อาการจะหายไป
    – การผสมแป้ง ถ้าขนมหวานจัดจัดเส้นขนมจะขาดขณะที่ ละเลง และลักษณะของเส้นจะไม่เป็นไยไหม
    – การเคี่ยวน้ำตาล ไม่ควรเคี่ยวให้ข้นเกินไป และใสเกินไป
    – เคล้าแป้งอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นแป้งจะนอนก้น ทําให้ เส้นขนมขาดได้
    – พิมพ์ขนมเจาะรูแบบพิมพ์ซ่าหริ่ม ช่วงห่างกัน 1 นิ้ว จะใช้กะลามะพร้าวขัดสวย ๆ หรือกระป๋องก็ได้

    วิธีทํากรอบ

    นําขนมมาพับครึ่งเข้าหากัน พับ 2 ครั้ง โดยด้วยน้ำตาล ทรายเม็ด แล้วม้วนให้แน่นกลมเท่าหัวแม่มือ นําไปตากแดด ประมาณ 3 ชั่วโมง เก็บใส่โหลหรือภาชนะอื่นใดที่กันลมได้ เก็บไว้ รับประทานนานวัน

กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
  • คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อตอบกลับกระทู้นี้