การผสมวงดนตรีนั้นมีหลักที่สำคัญอยู่ ๒ อย่างเท่านั้น คือ
๑. เครื่องสำหรับทำลำนำ
๒. เครื่องสำหรับบังคับจังหวะ เครื่องส่วนที่สำหรับทำลำนำนั้น ก็ยังมีหน้าที่แตกต่างออกไปอีก เช่น เป็นผู้นำ เป็นผู้ทำความโหยหวน เป็นผู้หลอกล่อ เป็นผู้แทรกแซงเหล่านี้ เครื่องส่วนที่สำหรับบังคับจังหวะ เพื่อให้เครื่องที่ทำลำนำดำเนินไปโดยพร้อมเพรียงกันนั้น ก็ยังมีหน้าที่ต่างๆกันอีกเหมือนกัน คือ เดินจังหวะโดยตรงห่างๆ เดินจังหวะย่อยให้รู้จังหวะหนักเบา หลอกล้อในจังหวะ ควบคุมจังหวะใหญ่ๆ เป็นประโยค วรรคตอน ดังนี้
นอกจากจะวางหน้าที่ต่างๆแล้ว การที่จะผสมวงดนตรียังต้องพิจารณาถึงเสียงของเครื่องดนตรีนั้นๆอีก ว่าถ้าผสมกันเข้าแล้ว จะมีความไพเราะกลมกลืนกันหรือไม่ ข้อนี้เป็นข้อสำคัญมากสำหรับการผสมวง เมื่อมีสิ่งที่เสียงสูง ก็ต้องมีสิ่งที่เสียงต่ำ เมื่อมีสิ่งใดที่เสียงแหลม ก็ต้องมีสิ่งที่เสียงนุ่มนวลประกอบ เพื่อให้รับ และตัดเสียงซึ่งกันและกัน
๑. วงปี่พาทย์ (เครื่องใหญ่)
ปี่ใน ผู้นำ เก็บบ้างโหยหวนบ้างตามทำนองเพลง (ลำนำ)
ปี่นอก เก็บบ้างโหยหวนบ้าง ล้อๆไปกับปี่ใน และทำนองเพลง
ระนาดเอก ผู้นำ เก็บแทรกแซงตามทำนองเพลง
ระนาดเหล็ก (ถ้าทำด้วยทองเหลืองเรียกว่า “ระนาดทอง”) เก็บแทรกแซงตามทำนองเพลง
ฆ้องวงใหญ่ เป็นหลักของพวกลำนำ เดินเนื้อเพลง
ฆ้องวงเล็ก เก็บแทรกแซงตามทำนองเพลง แต่ละเอียดกว่าระนาด
(ระนาด) ทุ้มไม้ หลอกล้อ ยั่วเย้า ไปกับพวกทำลำนำ
(ระนาด) ทุ้มเหล็ก หลอกห่างๆไปกับลำนำ
ตะโพน ควบคุมจังหวะหน้าทับ เป็นผู้นำกลองทัด
(กลอง) สองหน้า ควบคุมจังหวะหน้าทับ (ใช้เวลาบรรเลงรับร้อง บางทีก็ใช้กลองแขกแทน)
กลองทัด เดินตามจังหวะบ้าง เดินตามไม้กลองประจำเพลงบ้าง
ฉิ่ง ควบคุมจังหวะย่อย แสดงจังหวะหนักเบาด้วย
ฉาบเล็ก หลอกล้อไปกับพวกประกอบจังหวะ
ฉาบใหญ่ ควบคุมจังหวะห่างๆ
โหม่ง ควบคุมจังหวะห่างๆ
ถ้าเรียกว่าปี่พาทย์เครื่องคู่ก็ลดเหลือ ปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ทุ้มไม้ ตะโพน สองหน้า กลองทัด ฉิ่ง ฉาบเล็ก ฉาบใหญ่ โหม่ง บางทีก็มีปี่นอกด้วย แต่ถ้าเรียกว่าปี่พาทย์เครื่องห้า ก็ลดเหลือ ปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน สองหน้า กลองทัด ฉิ่ง ฉาบเล็ก (ฉาบใหญ่กับโหม่ง บางทีก็มี บางทีก็ไม่มี)
๒. วงเครื่องสาย
ซอด้วง ผู้นำ เป็นหลัก เก็บบ้างโหยหวนบ้างตามลำนำ
จะเข้ เก็บแทรกแซงตามลำนำ
ขลุ่ยเพียงออ เก็บบ้างโหยหวนบ้างตามลำนำ
ขลุ่ยหลิบ เก็บบ้างโหยหวนบ้างตามลำนำ ล้อๆไปกับขลุ่ยเพียงออ และลำนำ
ซออู้ หลอกล้อ ยั่วเย้าไปกับพวกทำลำนำ
โทน, รำมะนา ควบคุมจังหวะหน้าทับ (บางทีก็ใช้กลองแขกแทน)
ฉิ่ง ควบคุมจังหวะย่อย และแสดงจังหวะหนักเบาด้วย
ฉาบเล็ก หลอกล้อไปกับพวกประกอบจังหวะ
สมัยนี้มีผู้เอาไวโอลินกับขิมเข้าผสมในวงเครื่องสายนี้อีก ไวโอลินก็ทำหน้าที่คล้ายซอด้วงนั่นเอง แต่มิใช่เป็นผู้นำวง ส่วนขิมก็มีหน้าที่ทั้งเก็บแทรกแซง และหลอกล่อไปในตัวด้วย กับมีอีกชนิดหนึ่งเอาปี่ชวาเข้าผสม เรียกว่าเครื่องสายปี่ชวา หน้าที่ของปี่ชวาก็แทนซอด้วงทีเดียว ในวงเครื่องสายปี่ชวานี้ เครื่องกำกับจังหวะหน้าทับใช้กลองแขกแทนโทน รำมะนา และโดยมากขลุ่ยเพียงออไม่ใช้ ใช้แต่ขลุ่ยหลิบ
๓. วงมโหรี (เครื่องใหญ่)
ระนาดเอก เล็กกว่าระนาดเอกของปี่พาทย์ หน้าที่เช่นเดียวกัน
ระนาดทอง เล็กกว่าระนาดเหล็กของปี่พาทย์ หน้าที่เช่นเดียวกัน
ฆ้องกลาง หน้าที่เหมือนฆ้องวงใหญ่ปี่พาทย์ แต่ถี่กว่านิดหน่อย
ฆ้องเล็ก เล็กกว่าฆ้องวงเล็กปี่พาทย์
(ระนาด) ทุ้มไม้ เล็กกว่าของปี่พาทย์ หน้าที่เช่นเดียวกัน
(ระนาด) ทุ้มเหล็ก เล็กกว่าของปี่พาทย์ หน้าที่เช่นเดียวกัน
ซอสามสาย คลอเสียงคนร้อง โหยหวนไปตามลำนำ บางทีก็เก็บบ้าง
ซอด้วง หน้าที่เช่นเดียวกับในวงเครื่องสาย
จะเข้ เก็บแทรกแซงตามลำนำ
ขลุ่ยเพียงออ เก็บบ้างโหยหวนบ้างตามลำนำ
ขลุ่ยหลิบ เก็บบ้างโหยหวนบ้างตามลำนำ ล้อๆไปกับขลุ่ยเพียงออ และลำนำ
ซออู้ หลอกล้อ ยั่วเย้าไปกับพวกทำลำนำ
โทน, รำมะนา ควบคุมจังหวะหน้าทับ (บางทีก็ใช้กลองแขกแทน)
ฉิ่ง ควบคุมจังหวะย่อย และแสดงจังหวะหนักเบาด้วย
ฉาบเล็ก หลอกล้อไปกับพวกประกอบจังหวะ
ถ้าเรียกว่าเครื่องคู่ก็ลดระนาดทองกับทุ้มเหล็กออก หากเรียกว่าเครื่องเล็ก ก็ลดฆ้องเล็กกับฆ้องกลางออก (บางทีก็ลดทุ้มไม้ออกเสียด้วย)