สภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ทำให้บริษัทจำนวนนับพันหมื่น ต้องล้มละลายหายลงไปกับมรสุมที่ถาโถมเข้ามา แต่นั่นไม่ใช้สิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิต แม้ว่าคุณอาจจะเป็นพนักงานคนหนึ่งที่เคยร่วมหัวจมท้ายกับธุรกิจเหล่านั้นมาก่อน และกำลังมองหาทางออกที่สวยๆ ให้กับชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ก็ตาม อย่าเพิ่งท้อถอยครับ เพราะยังมีโอกาสเสมอสำหรับคนที่ต่อสู้ด้วยความตั้งใจ
ทางออกอย่างหนึ่ง ก็คือการหันมาทำธุรกิจส่วนตัว หรือที่เขาเรียกกันซะหรูเลิศว่าการทำธุรกิจประเภท SME นั่นแหละครับ เป็นเถ้าแก่ เป็นเจ้าของร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านออกแบบทรงผม หรือธุรกิจใดๆ ที่ปิ๊งเข้ามาในหัว
อย่ามัวรอช้าเลยครับ รีบนำเอาไอเดียดีๆ ที่จะสร้างความแปลกใหม่ออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง ดีกว่าคิดฝันไปเรื่อยเปื่อย เพราะสังคมนี้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะทรงหรือทรุด ก็ไม่เคยอยุดการเคลื่อนไหว เพียงแต่จะเคลื่อนไหวช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
และธุรกิจคุณจะไปได้ดีหรือไม่ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ซึ่งมีวิธีการเตรียมตัวคร่าวๆ ดังนี้
- เริ่มต้นจากไอเดียคุณนั่นแหละครับ…ต้องแน่ใจว่าธุรกิจที่อยากทำไม่ใช่ประเภทมีให้เห็น หรือเปิดให้บริการอยู่ดาษดื่นแล้วทั่วไป ควรเป็นธุรกิจแนวใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ด้วย หรือถ้าเป็นธุรกิจที่มีคนทำอยู่แล้ว ก็ควรเป็นธุรกิจยอดฮิต ที่คาดว่าจะคืนทุนได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เช่น เพาะปลูกผักผลอดสารพิษส่งขาย เป็นต้น
- เมื่อคุณมีเป้าหมายฝนการทำธุรกิจที่แน่นอนชัดเจนแล้ว ว่าจะทำเกี่ยวกับอะไร ควร ศึกษาถึงธุรกิจนั้นๆ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยจะเริ่มทำแบบสอบถามกับเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้องก่อน หรือถ้าจะลงทุน ก็อย่าเพิ่งลงทุนจนหมด ลองธุรกิจเล็กๆ ทดสอบตลาดว่ามีการตอบรับดีแค่ไหน แล้วค่อยลงมือขยายทีหลังก็ยังไม่สาย
- สิ่งสำคัญต่อมาถือ สถานที่…การเลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับธุรกิจ มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจอยู่มาก คุณจึงไม่ควรมองข้าม เช่น ถ้าต้องการเปิดร้านอาหาร ก็ควรเลือกสถานที่ที่อยู่ใกล้โรงเรียน หรือใกล้แหล่งชุมชน ใกล้สถานที่ตั้งบริษัทใหญ่ๆ หรือถ้าอยากจะเปิดร้านขายหนังสือ ก็เลือกใกล้มหาวิทยาลัย, บนห้างสรรพสินค้า หรือใกล้กับแหล่งปัญญาชน เป็นต้น
- เมื่อหาสถานที่ได้แล้ว ก็มาสำรวจเงินในกระเป๋า ว่ามีพอจะลงทุนเสี่ยงในช่วง 1 ปี แรกหรือไม่ ถ้าไม่ (คุณคิดการณ์ใหญ่เกินไป) ก็ควรเปลี่ยนแนวทางธุรกิจดีกว่า อย่าเสียเวลาหรือผลาญเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เงินทุนเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรอบคอบไม่น้อย เพราะสิ่งที่คุณคิดหรือคาดหวัง อาจไม่มีทางเป็นจริงได้ ฉะนั้นต้องตรองให้ดีก่อนควักเงินออกจากกระเป๋าครับ
- หาที่ปรึกษา ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือเข้าใจในธุรกิจของคุณไว้บ้างก็ดี แม้ว่าความเชื่อมั่นในตัวเอง คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจก้าวสู่ความสำเร็จ แต่ควรจำไว้ว่า ทุกสิ่งควรยืนอยู่บนพื้นฐานของความ “พอดี” ความเชื่อมั่นก็เช่นเดียวกัน คุณจะเชื่อแต่ตัวเองโดยไม่ฟังความคิดเห็นคนอื่น (ถึงจะมีประสบการณ์มาแล้วมากมายแค่ไหนก็ตาม) ก็อาจล้มเหลวได้ เพราะโลกทุกวันนี้หมุนเร็วกว่า 5 ปีที่แล้วมากครับ
- ถ้าจำเป็นต้องหาเพื่อร่วมทุน ต้องใช้ความรอบคอบและระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพื่อนฝูงโกงกันเองมีให้เห็นบ่อยไป ไหนๆ จะต้องลงทุนลงแรงเสี่ยงทำธุรกิจทั้งที อย่าให้ต้องระวังหลังจะหักเพราะคนร่วมทุนอีกเลย มันเหนื่อยเปล่า แถมยังทำให้เจ็บแค้นแน่นอกอีกต่างหาก เลือกคนที่คุณไว้ใจได้และเขาก็ควรไว้ใจคุณได้ด้วยเช่นกัน
- เริ่มธุรกิจจากเล็กๆ ก่อน อย่าเชื่อมั่นจนทำอะไรเกินตัว เกินความสามารถ หรือเกินกว่าตลาดจะรับได้ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่นัก
- ก่อนจะเลือกรับสมัครพนักงาน ควรศึกษาว่า คุณต้องการลุกน้องประเภทไหน และทำงานในส่วนไหน มีความจำเป็นต่อบริษัทหรือไม่ ถ้าธุรกิจยังมีขนาดเล็กอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีลูกน้องประดับบารมีเหมือนมีบอดี้การ์ดหรอกครับ สิ้นเปลืองค่าแรงค่าใช้จ่ายเปล่าๆ
- ถ้าคุณเลือกทำธุรกิจขายบริการกับลูกค้า อย่างเช่น บริการซัก อบรีด, รับจ้างส่งเอกสาร, บริการขนส่งสินค้าเฉพาะชิ้นสำคัญพร้อมประกันภัย ฯลฯ สิ่งสำคัญต้องพิจารณาก่อนการลงทุนทำธุรกิจ คือ สำรวจตัวเองก่อนว่า คุณมีหัวใจของการให้บริการหรือไม่ ถ้าไม่มี เปลี่ยนแนวคิดดีกว่าครับถ้าผู้บริหารไม่สามารถติดต่อหรือให้บริการกับลูกค้าได้แล้ว จะให้ลูกน้องพาธุรกิจก้าวไป คงไม่ไหวกระมังครับ คุณควรมีความเชื่อมั่น มีความเป็นผุ้นำ ชัดเจนในทิศทาและนโยบาย และพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าได้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้น ยากที่จะประสบความสำเร็จในยุคนี้ได้
อย่าคิดสั้น เพียงเพราะไม่มีงานทำ หรือผลีผลามลงทุนในสิ่งที่คุณไม่ได้ศึกษาลู่ทางไว้ล่วงหน้า ควรคิดเตือนสติอยู่เสมอว่า ไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไรก็ตาม คุณสามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแค่รถเข็นหรือแผงลอย หรือในตึกแถวติดแอร์เย็นฉ่ำ ยังไงคุณก็คือเจ้าของธุรกิจเหมือนกันแหละครับ