หลังคา ส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน นอกจากหลังคาจะมีหน้าที่กันแดด กันฝนแล้ว หลังคาที่สวยงามยังเป็นตัวเสริมความสง่าให้แก่บ้าน หลังคาที่ดีจึงควรมีความแข็งแรง คงทน ใช้การมุงโดยผู้เชี่ยวชาญ การเกยหรือรอยต่อของกระเบื้องจะต้องวางในลักษณะที่ถูกต้องหรือมีการยาแนวอย่างเรียบร้อย และเพราะว่าหลังคาแบบต่างๆนั้นย่อมมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไปวัสดุมุงหลังคาที่จะนำมาใช้จึงต้องเลือกพิจารณาให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานหรือเป็นไปตามแบบโครงสร้างของอาคาร จะเป็นการยืดอายุของวัสดุมุงหลังคาให้ยาวนานด้วย
การเลือกประเภทหลังคาในการใช้งานรูปแบบต่างๆเพื่อให้ตรงตามประเภทการใช้งานนั้น ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักหลังคารูปทรงหลากหลายกันพอสังเขป ดังนี้ หลังคาแบน มีลักษณะแบนราบ ส่วนมากใช้กับหลังคาที่จอดรถ หรือหลังคาคลุมทางเดิน จะไม่เน้นความสวยงาม เพราะใช้งานแบบชั่วคราวเท่านั้น
หลังคาชนิดนี้มีข้อเสียคือ ฝนตกมากๆจะกันฝนไม่ค่อยได้ ส่วนหลังคาทรงจั่ว เป็นที่นิยมกันมากเนื่องจากประหยัดค่าก่อสร้าง สร้างง่าย สวยงาม คงทน ใช้ประโยชน์ได้มาก เน้นความสวยงาม ลูกเล่นสีสรร โดยต้องคำนึงถึงการกำหนดความลาดชันของหลังคาให้เหมาะสมด้วยหรือจะเป็นหลังคาแบบเพิงหมาแหงน ประยุกต์มาจากหลังคาแบบแบนราบ โดยยกด้านหนึ่งของหลังคาให้สูงขึ้น หลังคาชนิดนี้สามารถระบายน้ำฝนได้ดี มองดูแปลกตา นิยมสร้างกับบ้านหลังเล็ก เพราะประหยัดและทำการก่อสร้างได้ง่าย ถ้าหมั่นดูแลรอยรั่วสม่ำเสมอ ปัญหาน้ำฝนรั่วซึมก็จะไม่เกิด
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลังคาเห็นทีจะไม่พ้นเรื่องของหลังคารั่วซึม เมื่อเกิดฝนตก ปัญหาน้ำฝนไหลเข้ามาตามผนังบ้านหรือหยดลงบนฝ้าเพดาน การแก้ไขจึงต้องหาจุดที่น้ำฝนไหลซึมเข้าบ้านให้ได้ก่อนแล้วค่อยหาแนวทางแก้ไขให้ตรงจุด เช่น ถ้าหากเป็นกระเบื้องที่มีรอยแตกร้าวก็ต้องเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ กระเบื้องต่อหรือเกยกันไม่สนิทก็รีบแจ้งให้ช่างตรวจสอบและแก้ไขให้เรียบร้อย ปัญหาน้ำฝนไหลเข้าทางหมวกสลักยึด แก้ไขได้คือ เสริมยางรองหมวกสลักเกลียวและขันยึดให้แน่น
ถ้าเป็นกรณีโครงสร้างชำรุด เช่น ทรุด หย่อน ต้องรีบแก้ไขโครงสร้างให้เรียบร้อยและมุงหลังคาใหม่ ตรวจสอบรอยต่อและรอยยาของกระเบื้องให้เรียบร้อย หากเป็นรอยรั่วที่เกิดจากความลาดเอียงของหลังคาน้อยเกินไป ทำให้น้ำฝนไหลย้อนขึ้น มีวิธีการแก้ไขได้คือ การซ้อนกระเบื้องให้สูงขึ้น ยึดกระเบื้องให้แน่นทุกจุด สำหรับความร้อนที่ส่งผ่านมาจากหลังคานั้น ใช้แผ่นสะท้อนความร้อนแบบอลูมิเนียม 2 ด้าน
ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ ด้วยการปูแผ่นฉนวนบนจันทันแล้ววิ่งตีแปทับฉนวนหรือใช้ลวดตาข่ายขึงรองรับฉนวนก่อนปูบนจันทัน ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิได้มากถึง 9 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถติดตั้งได้ในระหว่างการก่อสร้างอาคารหรือเพิ่มเติมหลังจากสร้างอาคารเสร็จแล้วก็ได้
ในกรณีเป็นอาคารห้องริม น้ำที่รั่วและหยดจากโครงหลังคา น้ำฝนอาจเข้าบริเวณครีบคอนกรีตที่ปิดตลอดแนวริมของกระเบื้อง ทำให้น้ำฝนหยดลงฝ้าเพดานบริเวณใกล้แนวผนังด้านในหรือไหลย้อยลงมาตามผนัง สาเหตุเกิดมาจากตัวครีบมีรอยแตกร้าว ความกว้างของครีบน้อยเกินไป แก้ไขโดยการใช้ผ้าดิบปิดทับตามแนวแตกร้าวของครีบ พร้อมทาทับด้วยวัสดุประเภทฟลินท์โค็ทก็ได้ แต่เป็นการแก้ปัญหาเพียงชั่วคราวเท่านั้น ทางที่ดีหากมีเวลามากพอจึงควรสกัดซ่อมทำครีบใหม่เป็นการแก้ปัญหาได้ถาวร
ทั้งนี้ถ้าผนังอาคารห้องริมที่มีรอยแตกร้าวภายนอก บริเวณใต้คาน ส่วนต่อของผนังก่ออิฐชนใต้ท้องคาน น้ำฝนจะไหลเข้าตามรอยแตกร้าว การแก้ไขจึงต้องซ่อมรอยแตกร้าว อาจใช้วิธีสกัดผิวพร้อมเสริมลวดตาข่ายและฉาบปูนทับ หรือใช้สีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติกันน้ำซึมผ่าน มีการยืดหยุ่นตัวได้ดี โดยทาทับรอยบริเวณที่แตกร้าวนั้น ก็จะเป็นการแก้ปัญหาได้วิธีหนึ่ง
นอกจากนี้การสร้างหลังคา ควรคำนึงถึงโครงสร้างเป็นหลัก ควรสร้างเป็นไปตามแบบโครงสร้างอาคารและหลังคาที่กำหนดไว้ การกำหนดการยื่นของชายคาจะต้องได้ขนาดของโครงสร้างว่าควรยื่นได้แค่ไหน ถ้ายื่นมากไปชายคาอาจจะตก ยื่นน้อยไปก็กันแดด กันฝนไม่ได้ ปัญหาเล็กๆน้อยๆก็เกิดขึ้นตามมาให้ตามแก้ไขภายหลัง เสียทั้งเงินและเวลา เพราะฉะนั้นจึงเป็นการดีหากใส่ใจเสียตั้งแต่แรก
หลังคาเป็นส่วนที่สำคัญในบ้านที่จะต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะมีแดดก็ช่วยบังแดด มีฝนก็ช่วยกันฝน มีลมก็ช่วยต้านลม แล้วหากหน้าที่เหล่านั้นเกิดข้อบกพร่องเราจะทำเช่นไรดี
ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบพูดแล้วเห็นภาพทันที คือ หลังคารั่ว หลังคารั่วมีสาเหตุมาจากหลายประการด้วยกัน
เนื่องจากการลาดเอียงของโครงหลังคา
โดยทั่วไปแล้วหลังคาจะต้องมีมุมลาดเพื่อช่วยในการระบายน้ำฝนให้สามารถระบายได้โดยไม่ไหลย้อนกลับในองศาที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไปแบบที่ไม่สามารถวางให้วัสดุมุงหลังคาทรงตัวอยู่ได้หรือน้อยจนไม่สามารถระบายน้ำได้เลย เพราะมีบางคนถามว่าถ้าเราทำโครงหลังคาลาดเอียงจะต้องใช้วัสดุมากกว่าที่เราจะทำแบบราบ ๆ ซึ่งการประหยัดในเรื่องนี้ใช้ประโยชน์ไม่ได้
เนื่องจากการบิดตัวของโครงสร้างหลัก
ปกติสาเหตุดังกล่าวจะเกิดขึ้นน้อยมากเพราะหากมีเกิดขึ้นจริงก็แสดงว่าบ้านคุณจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนโดยที่ไม่ต้องมามองที่หลังคา
การแตกร้าวของวัสดุมุงหลังคา
สาเหตุยอดฮิตที่พบบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเนื่องจากการขึ้นไปทำงานบนหลังคาแล้วเหยียบหรือยืนในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง หรือมีวัตถุแข็ง ๆ มากระทบ ซึ่งท่านสามารถแก้ไขได้โดยการอุดรอยรั่วดังกล่าวได้จากวัสดุกันซึม เช่น ซิลิโคล หรือยางมะตอยเหนียว หรือเปลี่ยนใหม่ในกรณีที่เสียหายมาก ๆ
รอยต่อของตะเข้ราง
ส่วนมากเเล้วบริเวณนี้จะมีปัญหามากสำหรับโครงหลังคาที่มีส่วนประกอบของตะเข้รางด้วย เพราะจะเป็นส่วนที่รับน้ำโดยมีรางน้ำรองรับอยู่ใต้กระเบื้อง หากช่างทำงานไม่เรียบร้อยในส่วนรอยต่อที่ป้องกันน้ำมักจะเกิดการรั่วขึ้นได้ ท่านสามารถที่จะสันนิฐานสาเหตุของการรั่วเพื่อเรียกช่างมาตรวจสอบและแก้ไขในส่วนดังกล่าวนี้ได้เป็นสาเหตุต้น ๆ เลยทีเดียวครับหลายต่อหลายสาเหตุที่เราเองเมื่อทราบแล้วก็สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยตัวเองหรือเรียกช่างเข้ามาช่วยแก้ไขได้อย่างถูกจุด แล้วไม่ต้องเกิดปัญหารำคาญใจซ้ำ ๆ อีก แถมยังสามารถป้องกันตัวเองจากช่างที่ชอบเอาเปรียบเราได้อีกทางด้วย
หลังคาหรือดาดฟ้า ที่เป็นส่วนบนสุดขององค์อาคารที่มีหน้าที่รองรับน้ำฝน แดด และสิ่งภายนอกที่มากระทบ ส่วนมากแล้วนั้นพื้นดาดฟ้า มักจะเกิดปัญหาเรื่องของการรั่วซึมผ่านของน้ำมากที่สุด ดังนั้นการหาวิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำพื้นดาดฟ้านั้น เป็นพื้นคอนกรีตที่มีทั้งแบบที่ทำขัดมัน ปูพื้นกระเบื้อง เมื่อใช้งานไปนานวันหรือในการก่อสร้างไม่ได้ผสมน้ำยากันซึมปัญหาของการรั่วซึมจากพื้นดาดฟ้าลงมายังห้องด้านล่างก็จึงสามารถเกิดขึ้นได้
ดังนั้นเราจะมีวิธีการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างไรบ้างวัสดุประเภท ACRYLIC BASE เป็นวัสดุที่จะนำมาใช้เพื่อทาเคลือบผิวป้องกันการรั่วซึมของน้ำไม่ให้ผ่านเข้ามายังเนื้อของพื้นคอนกรีต วัสดุประเภทดังกล่าวใช้ทาเคลือบผิว เมื่อแห้งตัวจะมีผิวเป็นลักษณะฟิล์ม ไม่มีรอยต่อคล้ายกับการทาสี มีการยึดหยุ่นและแรงยึดเกาะสูง สามารถใช้ทาทับลงบนกระเบื้องกระดาษ อิฐ กระเบื้อง สังกะสี คอนกรีต
เมื่อเราสามารถป้องกันน้ำที่เกิดจากดาดฟ้า หลังคาอาคารได้แล้วในแบบที่ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะต้องมาทำการเทคอนกรีตทับผิวหน้าใหม่แล้วเพิ่มน้ำหนักกระทำต่อโครงสร้างก็หมดห่วงครับ เพราะวิธีการดังกล่าวน้ำหนักเบาแต่สามารถแก้ปัญหาเรื่องแบบเดียวกันได้