สูตรหมูสะเต๊ะแบบเข้มข้น
อุปกรณ์หรือวัตถุดิบ
1. เนื้อหมู (ส่วนสะโพก) 1 กก.
2. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
3. ข่าแก่ๆหั่นละเอียด 0.6 ชต.
4. ขมิ้นหั่นละเอียด 0.6 ชต.
5. ตะไคร้หั่นบางๆ 1.6 ชต.
6. ลูกผักชีคั่วป่น 1.6 ชต.
7. ยี่หร่าคั่วป่น 0.4 ชต.
8. น้ำตาลทราย 1.6 ชต.
9. เกลือป่น 0.6 ชต.
10. พริกไทป่น 0.4 ชช.
11. ไม้เสียบประมาณ 100 ถึง 120 ไม้
สูตรน้ำจิ้มสะเต๊ะ
1. หัวกะทิ 1 ถ้วย
2. หางกะทิ 1 ถ้วย
3. แกงขั้ว 20 กรัม
4. น้ำมันพืช 1 ชต.
5. ถั่วลิสงขั้ว 5 ชต.
6. ลูกผักชีขั้วป่น 2 ชช.
7. ยี่หร่าขั้วป่น 1.5 ชช.
8. น้ำตาลปี๊บ 3 ชต.
9. เกลือป่น 0.5 ชต.
10. น้ำมะขามเปรียก 3 ชต.
วิธีทำ
แบ่งเป็น 2 ขั้นตอนครับ
ขั้นตอนที่ 1 คือการหมักหมู
ขั้นตอนที่ 2 คือการทำน้ำจิ้ม
จากขั้นตอนที่ 1
(A) นำหมูมาล้างน้ำให้สะอาดและพักไว้
(B) ข่าที่หั่นละเอียด, ขมิ้นที่หั่นละเอียด, ตะไคร้ที่หั่นางๆ นำเข้าเครื่องปั่นจนละเอียดและพักไว้ภาชนะ
(C) ลูกผักชีคั่วป่น, ยี่หร่าคั่วป่นนำเข้าเครื่องปั่นจนละเอียดและพักไว้ภาชนะ
(D) ให้นำ (B)กับ(C) มาผสมกับหัวกะทิและใส่น้ำตาล,เกลือ,พริกไทป่นและคนให้เข้ากันดี จากนั้นให้เอาไปเท
ใส่ในข้อ (A) และคลุกเคล้านานๆจนเข้ากันดี
(E) ให้นำใส่ช่อง frish ในตู้เย็น 2 ชม.
(F) นำออกจากช่อง Frish มาเสียบไม้และเข้าช่อง Frish
ต่ออีก 1 คืน
(G) จากนั้นนำออกมาจากช่อง Frish ให้คลายตัวก่อน
ถึงนำมาย่างเตาถ่านใช้ไฟกลางๆและขณะย่างให้พรมน้ำกระทิหรือนมสดก็ได้
ขั้นตอนที่ 2 น้ำจิ้ม
(A) นำน้ำมันพืชใส่กระทะและตั้งไฟและเทพริกเครื่องแกงลงไปผัดให้หอม
(B) เอาลูกผักชีขั้วและยี่หร่าขั้วที่ปั่นไว้มาเทใส่
(C) นำหัวกระทิผสมกับหางกระทิคนให้เข้ากันดีและทะยอยเทใส่กระทะไปเรื่อยๆพร้อมคนไปด้วยจนหมด
(D) พอเขี้ยวจนแตกมันให้ใส่น้ำตาลปี๊บและเกลือป่นและน้ำมะขามเปรียกคนสักพักพอเข้ากันใส่ถั่วลิสงปิดไป
และคนสักพักให้ถั่วลิสงกรจายเข้ากันดี
หมายเหตุ
1. ให้ใส่ถั่วลิสงสุดท้ายในการทำน้ำจิ้มเนื่องจากถั่วมีคุณสมบัติดูดน้ำจะทำให้ข้นเกินไปน้ำจิ้มจะเป็นก้อนๆ
2. อย่าใส่พริกเครื่องแกงมากไปน้ำจิ้มจะเผ็ดไม่อย่อย
3. ถั่วลิสงหลังจากขั้วแล้วให้ปั่นให้ละเอียดมิเช่นนั้นน้ำจิ้มจะไม่เป็นครีม
การทำอาจาด
(A) น้ำส้มสายชู 0.5 ถ้วย
(B) เกลือ 0.5 ชต.
(C) น้ำตาลทรายขาว 1.5 ถ้วย
(D) น้ำเปล่า 1.5 ถ้วย
(E) หอมแดงซอย ตามชอบ
(F) พริกขี้ฟ้าหั่น 2 เม็ด
(G) แตงกวาตามชอบ
นำ A – D มาผสมกันและเขี้ยวไฟจนเดือดจากปิดไฟ
และใส่ E – G เป็นอันเสร็จ….