หลังแต่งงานใหม่ ฝ่ายสามีซึ่งเป็นชาวนาได้ตกลงจะย้ายไปอยู่กับภรรยาที่บ้านแม่ยาย แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามผูกมิตรสักแค่ไหน แม่ยายก็ไม่เคยเห็นความดี คอยจ้องจะกดขี่และฉกฉวยโอกาสหาประโยชน์จากพวกเขาอยู่เสมอ แถมยังเข้ามาจู้จี้บงการจนชีวิตแต่งงานพวกเขาหาความสุขแทบไม่เจอ
และวันหนึ่ง.. ระหว่างทำงานกลางแจ้ง เจ้าวัวของชาวนาก็ออกอาการคลั่งขึ้นมาอย่างไม่ทันมีใครได้ตั้งตัว มันเตะกระหม่อมแม่ยายเข้าเต็มแรงเพียงครั้งเดียว หญิงวัยเกือบชราก็ถึงตายคาที่ทันที!
แน่นอน.. เรื่องช็อกครั้งนี้ สร้างความยินดีแก่ผู้เป็นลูกเขยอย่างที่สุด
ระหว่างพิธีศพ.. ลูกเขยบ้านนาจึงฮัมเพลงอย่างพึงใจไปพลางๆ
กระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง เขาจึงพยักหน้า และตอบว่า “ใช่ครับ” ต่อจากนั้น มีผู้ชายอีกคนเข้ามีกระซิบบางอย่างกับเขาเหมือนกัน แต่คราวนี้.. เขากลับสั่นศีรษะและบอกว่า “ไม่ใช่” พร้อมพึมพัมอะไรต่อท้าย ซึ่งเพื่อนบ้านที่สังเกตอยู่ห่าง ๆ ได้ยินไม่ถนัด
ด้วยความฉงนบวกอยากรู้อยากเห็นสุด ๆ เพื่อนบ้านจึงตัดสินใจถามถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขยชาวนา
เขาจึงเฉลยในที่สุดว่า “อ้อ.. ผู้หญิงคนแรกแค่มาทักฉันว่า ‘น่าเศร้าจังเลยนะ’ ฉันก็เลยตอบไปว่า ‘ใช่’
แต่ผู้ชายอีกคนมาถามว่า ‘ขอยืมวัวตัวนั้นบ้างได้ไหม?’ ฉันเลยต้องส่ายหน้า ตอบไปว่า ‘เห็นจะไม่ได้ เพราะคิวของฉัน ยังต้องจองล่วงหน้าตั้งปี’”