สูตรแกงชักส้มพริกสด
แกงชักส้มไม่ใช่แกงใหม่ แต่เป็นแกงโบราณ หน้าตาและรสชาติคล้าย ๆ แกงส้ม แต่ต่างจากแกงส้มตรงที่แกงชักส้มจะต้องหอมน้ำมะกรูด นอกจากนี้ยังต้องใส่ใบมะกรูด และลูกมะกรูดในน้ำแกงด้วย
ตามปกติแกงชักส้ม นิยมแกงกับผักบุ้งไทย (แบบที่ใช้ใส่เย็นตาโฟ) เท่านั้น แต่แกงชักส้มสูตรนี้เพิ่มผักกระเฉดเข้ามาอีกหนึ่งอย่าง ผักบุ้งนั้นให้วิตามินเอสูงกว่าผักกระเฉด แต่ผักกระเฉดให้วิตามินซีมากกว่าผักบุ้ง และผักกระเฉดยังมีไฟเบอร์สูงถึง 3.6 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ส่วนผสม
ปลาช่อน 1 ตัวใหญ่
ใบมะกรูดฉีก 3 – 5 ใบ
มะกรูด 2 ลูก
น้ำมะกรูด 1 ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนชา
ผักบุ้งไทยหั่นเป็นท่อน 2 ถ้วย
ผักกระเฉดหั่นเป็นท่อน 2 ถ้วย
น้ำ 3 + 1/ 2 ถ้วย
วิธีทำ
ล้างปลาช่อนให้หมดเมือก หั่นเป็นชิ้นตามขวางลำตัว กว้างประมาณ 1/ 2 นิ้ว เหลือส่วนหางไว้เป็นชิ้นใหญ่ แล้วนำท่อนหางมาต้มกับน้ำ 3 + 1/ 2 ถ้วยให้สุก แล้วตักขึ้นจากหม้อ แกะเอาแต่เนื้อโขลกรวมกับน้ำพริก แล้วตักน้ำพริกละลายในน้ำต้มหางปลา ตั้งไฟให้เดือด
ปรุงรสด้วย น้ำมะกรูด น้ำมะขาม น้ำปลา น้ำตาลปีบ ปรุงให้ออกรสเปรี้ยว เค็ม หวาน พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง จึงใส่เนื้อปลาสดที่หั่นเอาไว้ลงไป ต้มต่อไปจนปลาใกล้จะสุก ใส่ผักบุ้ง ใบมะกรูด ลูกมะกรูด พอเดือด ใส่ผักกระเฉด คนพอเข้ากัน ปิดไฟ ยกลง
ส่วนผสมน้ำพริก
พริกชี้ฟ้า 7 เม็ด
พริกขี้หนู 3 – 5 เม็ด
เกลือ 1 ช้อนชา
กะปิ 1 ช้อนชา
หัวหอมแดง 1 /4 ถ้วย
กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
ข่า 3 แว่น
ตะไคร้ 3 ช้อนโต๊ะ
โขลกส่วนผสมน้ำพริกให้ละเอียด
มีข้อควรระวังคือ วิตามินซีในผักจะสลายง่ายเมื่อโดนความร้อน ดังนั้นเมื่อใส่ผักแล้ว ควรรีบใช้ทัพพีคนให้ผักสุกเร็ว ๆ แล้วเสิร์ฟทันที อย่าทิ้งไว้นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักกระเฉด เพราะถ้าทิ้งไว้นานแล้ว ผักกระเฉดจะเหนียวหนึบหนัง เคี้ยวลำบาก