นายอินสนธิ์ วงศ์สาม ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) พ.ศ. ๒๕๔๒
โดย นิติกร กรัยวิเชียร
แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของศิลปินแต่ละคนนั้นเกิดมาจากปัจจัยที่ต่างกันออกไป ส่งผลให้เกิดความหลากหลายขึ้นในวงการศิลปะ คุณอินสนธิ์ วงศ์สาม เป็นศิลปินอีกท่านหนึ่งที่ได้นำเอาประสบการณ์ในการเดินทางไกลที่ยาวนานมาสร้างผลงานที่โดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะในระดับสากลจนได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ประสบการณ์ชีวิตของท่านนั้นไม่ธรรมดาเลย ดังที่ผมจะได้นำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ครับ
คุณอินสนธิ์ วงศ์สาม เป็นชาวลำพูนโดยกำเนิด ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๗๗ ปัจจุบันอายุ ๖๕ ปี บิดาของท่านมีอาชีพเป็นช่างฝีมือทอเครื่องทองเครื่องเงินอยู่ที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนอันเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คุณอินสนธิ์รักและสนใจในงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ระหว่างเรียนอยู่ในระดับมัธยม ท่านก็มักจะวาดภาพส่งเข้าประกวดเสมอเมื่อมีโอกาส ดังนั้น เมื่อท่านจบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนจักรคำคณาทร จังหวัดลำพูนแล้ว ท่านจึงตัดสินใจเดินทางสู่กรุงเทพมหานครเพื่อเข้าศึกษาศิลปะที่โรงเรียนศิลปะศึกษา (ปัจจุบันคือวิทยาลัยช่างศิลป์) จากนั้นได้เข้าศึกษาที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร จนจบการศึกษาและได้รับปริญญาตรี สาขาประติมากรรม เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ หลังจากที่จบการศึกษาแล้ว ท่านต้องการหาประสบการณ์เพิ่มเติม จึงได้ออกเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อทำงานศิลปะและเก็บเกี่ยวข้อมูลตลอดจนแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงานจนสามารถจัดนิทรรศการภาพเขียนชื่อ ไทยแลนด์ พานอรามา ขึ้น โดยจัดแสดงที่องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
หลังจากที่ได้เดินทางท่องเที่ยวจนทั่วประเทศไทยแล้ว คุณอินสนธิ์ก็มีความตั้งใจที่จะเดินทางไปหาประสบการณ์ทางศิลปะยังต่างประเทศบ้าง แต่ตัดขัดในเรื่องทุนที่จะใช้ในการเดินทาง ท่านจึงได้นำผลงานไปประมูลที่คริสเตียน เซนเตอร์ ร่วมกับศิลปินอื่นๆ จนได้เงินมาก้อนหนึ่งซึ่งก็ไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางในเบื้องต้น การเดินทางของท่านในครั้งนั้นค่อนข้างที่จะแปลกและแหวกแนวกว่าคนทั่วๆ ไป คือท่านใช้วิธีที่สกุตเตอร์คู่ใจออกเดินทางจากกรุงเทพ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศอิตาลี สัมภาระสำคัญนอกเหนือจากของใช้ที่จำเป็นในการยังชีพแล้ว ท่านได้บรรทุกผลงานศิลปะใส่กระบอกติดตัวไปด้วยเป็นจำนวนมาก วัตถุประสงค์สำคัญก็คือเพื่อจัดแสดงผลงานตามที่โอกาสนอำนวยในลักษณะของศิลปินพเนจร และขายผลงานเหล่านั้นเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อไปให้ถึงจุดหมายอันยาวไกล
ท่านได้ขี่สกุตเตอร์มุ่งลงทางใต้ผ่านชายแดนไทยสู่เกาปีนังเพื่อลงเรือโดยสารไปขึ้นบกที่ประเทศอินเดีย แล้วขี่ต่อไปยังประเทศปากีสถาน อิหร่าน ตรุกี กรีซ และในที่สุดก็เดินทางถึงอิตาลีสมดังที่ใฝ่ฝันเอาไว้ ตลอดระยะเวลาของการเดินทาง คุณอินสนธิ์ต้องประสบกับอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่าย จนบางครั้งเกือบจะหมดทุน แต่ด้วยความสามารถประกอบกับโชคช่วย ท่านก็สามารถขายผลงานพอช่วยต่ออายุของการเดินทางไปได้เสมอ
ตลอดเส้นทางที่เดินทางผ่านไป คุณอินสนธิ์ วงศ์สาม ได้สั่งสมประสบการณ์หลากหลายรูปแบบเอาไว้อย่างเต็มที่ ท่านได้ตระเวณศึกษาหาความรู้และสเก็ตซ์ภาพทุกๆ สิ่งที่ท่านประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศอิตาลีนั้น ท่านได้ใช้เวลาตระเวณดูงานศิลปกรรม สถาปัตยกรรม และโบราณสถานอย่างเต็มอิ่ม เพราะนอกเหนือจากการเป็นศูนย์กลางศิลปะที่ยิ่งใหญ่ของโลกแล้ว อิตาลียังเป็นประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี อาจารย์ผู้ประสิทธิ์ ประสาทวิชาความรู้ให้แก่ท่านเมื่อครั้งที่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรอีกด้วย จากอิตาลี ท่านได้ออกเดินทางต่อไปยังประเทศออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศสตามลำดับ
คุณอินสนธิ์ วงศ์สามได้ใช้ชีวิตในช่วงที่อยู่ประเทศฝรั่งเศสอยู่นานหลายเดือนด้วยการทำงานต่างๆ อย่างหนักเอา เบาสู้เพื่อเลี้ยงชีพ และเพื่อเป็นทุการศึกษาศิลปะที่ L Ecole Nationale Suprieure Des Arts Decoratifs ซึ่งท่านได้สมัครเข้าเรียนเพื่อเพิ่มเติมความรู้ทางศิลปะ ที่ประเทศฝรั่งเศสนี้ ท่านได้พบรักและแต่งงานครั้งแรกกับ Babara Wood สาวอเมริกัน จนมีทายาทด้วยกัน ๑ คน ซึ่งต่อมาภายหลังทั้ง ๒ ก็ได้แยกทางกัน
หลังจากที่ได้แสวงหาประสบการณ์และศึกษาเล่าเรียนอยู่ในยุโรปเป็นเวลานานถึง ๔ ปีจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว คุณอินสนธิ์จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปใช้ชีวิตต่อที่เมืองนิวยอร์คประเทศสหรัฐอเมริกาอีกกว่า ๖ ปี โดยเริ่มต้นด้วยการรับจ้างทำเครื่องประดับสตรีด้วยโลหะ จนสามารถเปิดกิจการของตนเองได้ นอกจากนั้น ท่านยังได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะขึ้นมากมาย ผลงานชุดสำคัญชุดหนึ่งคือผลงานประติมากรรมโลหะขนาดเล็กจำนวน ๔๐๘ ชิ้น อันเป็นจินตนาการของท่านในเรื่องการใช้ชีวิตของมนุษย์ใต้ท้องทะเล และในอวกาศ ซึ่งผลงานทั้งหมดเป็นแบบจำลองที่พร้อมจะขยายเป็นขนาดใหญ่
คุณอินสนธิ์เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตในต่างแดนอันยาวนาน ประกอบกับเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นตกต่ำลง ทำให้ยากลำบากกับการครองชีพ จึงได้ตัดสินใจหวนกลับคืนประเทศไทยเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ สิ่งที่ท่านนำติดตัวกลับมาหาใช่ทรัพย์สมบัติหรือเงินทองอันเป็นรูปธรรมไม่ หากแต่ท่านได้นำเอาประสบการณ์อันหาค่ามิได้จากการใช้ชีวิตต่างแดนมากว่า ๑๐ ปีของท่าน ซึ่งมีค่ามากกว่าอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้ กลับมาเพื่อสร้างงานในแนวทางที่ท่านค้นพบเองต่อไป โดยได้สร้างสตูดิโอขึ้นที่จังหวัดลำพูนบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน ผลงานศิลปะที่ท่านทำขึ้นในช่วงที่กลับมาจากต่างประเทศนี้ ส่วนใหญ่เป็นงานประติมากรรมประเภทงานแกะสลักไม้ ในรูปทรงที่แปลกใหม่ดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่เปี่ยมไปด้วยความงามของรูปทรงและองค์ประกอบที่ลงตัวน่าสนใจ ผลงานชุดนี้ท่านได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านทางเหนือของไทย อันเป็นสิ่งที่ท่านคุ้นเคยและคลุกคลีอยู่ด้วยตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งต้องจากไปเป็นเวลานาน และได้หวนกลับมาพบอีกครั้งซึ่งท่านได้นำเอาทักษะแนวความคิด เทคนิค และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ท่านได้รับจากต่างประเทศ มาประสานรวมกันเข้ากับวัฒนธรรมและจิตวิญญาณแห่งท้องถิ่น ได้อย่างนุ่มนวลกลมกลืนและมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองอย่างโดดเด่น นอกจากงานแกะสลักไม้แล้ว ผลงานเด่นอีกด้นหนึ่งของคุณอินสนธิคือผลงานประติมากรรมโลหะ ซึ่งท่านได้ขยายแบบมาจากผลงาน โลหะชิ้นเล็กๆ ที่ได้ทำเอาไว้ขณะที่พำนักอยู่ที่นิวยอร์คสหรัฐอเมริกา ผลงานชุดนี้สะท้อนจินตนาการของท่านต่อปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งท่านได้พบเห็นมา โดยนำเอาแนวคิดเกี่ยวกับที่หลบภัยจากมลพิษและสิ่งแวดล้อม อันไม่พึงปรารถนาทั้งปวงตามจินตนาการของท่านมาใช้ในการสร้างผลงาน ท่านได้สร้างงานประติมากรรมขนาดใหญ่ด้วยเหล็ก แล้วทาสีเป็นสีสันต่างๆ งดงามและได้ติดตั้งเอาไว้ในสวนประติมากรรมที่บ้านของท่านจำนวนหลายชิ้น นอกจากนั้นแล้ว บริเวณบ้านของท่านเองซึ่งใช้เป็นทั้งที่ทำงานศิลปะ และที่พักอาศัย ก็ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างงดงามยิ่งเป็นเสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งทีเดียว โดยท่านได้จัดสร้างกลุ่มเรือนไม้หลายหลัง วางตำแหน่งและจังหวะได้อย่างลงตัวท่ามกลางแมกไม้ที่บรรจงปลูกไว้อย่างร่มรื่น เรือนไม้ทุกหลังจะมีฝีมือการแกะสลักของท่านผู้เป็นเจ้าของฝากเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นบานประตู หน้าต่าง เสาเรือน เครื่องเรือน ตลอดจนรายละเอียดอื่นๆ อย่างสวยงามแปลกตา และพอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และยิ่งเมื่อได้ผนวกรวมกับสวนประติมากรรมที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ยิ่งทำให้บ้านของท่านมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง
คุณอินสนธิ์ วงศ์สาม ได้จัดแสดงผลงานศิลปะทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ และเคยได้รับเกียรติคุณและรางวัลเกียรติยศในทางศิลปะหลายครั้ง ได้แก่
-รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงินประเภทเอกรงค์จากจิตรกร ประติมากรสมาคม เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๐
รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๓ เหรียญทองแดงประเภทประติมากรรม จากจิตรกร ประติมากรสมาคมเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๐
-รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๓ เหรียญทองแดงสาขามัณฑนศิลป์ ในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ ๙ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๐
-รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงินสาขาภาพพิมพ์ในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ ๑๒ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ จากผลงานชื่อ ภาคเหนือ
-รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๓ เหรียญทองแดง สาขาภาพพิมพ์ในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ ๑๓ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๕ จากผลงานชื่อ ท่าพร
-ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ที่มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๐
คุณอินสนธิ์ วงศ์สามเป็นศิลปินที่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ท่านได้ขวนขวายค้นหาประสบการณ์และแนวทางใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน จากเกียรติคุณทั้งหมดที่กล่าวมา ส่งผลให้ท่านได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๒
เมื่อผมได้อ่านประวัติของคุณอินสนธิ์ วงศ์สาม หลังจากที่ท่านได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติเมื่อต้นปีนี้ ผมก็ได้พบว่าภรรยาคนปัจจุบันชาวอังกฤษของท่านที่ชื่อว่าคุณวินิเชีย วอล์กีนั้น เป็นผู้ที่ผมเคยพบและรู้จักมาตั้งแต่ผมอายุได้เพียงสิบกว่าขวบ เนื่องจากเธอเคยฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์เขียน ยิ้มศิริ ประติมากรเอกท่านหนึ่งของเมืองไทยผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเป็นเพื่อนรักเก่าแก่ของคุณพ่อผมตั้งแต่ครั้งที่ท่านทั้ง ๒ ยังศึกษาอยู่ในต่างประเทศด้วยกัน เมื่อเกือบ ๕๐ ปีก่อน ผมยังจำได้ดีว่าคุณวินิเชียเคยปั้นรูปเหมือนคุณพ่อผมด้วย แต่ผมก็ไม่ได้พบเธออีกเลยเป็นเวลานานกว่า ๒๐ ปี เมื่อได้ทราบว่าเธอได้แต่งงานกับคุณอินสนธิ์ ผู้ซึ่งผมจะต้องไปถ่ายภาพในครั้งที่เดินทางไปถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติทางภาคเหนือแล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นกำลัง ผมได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อคุณวินิเชียซึ่งพำนักอยู่กับคุณอินสนธิ์ที่จังหวัดลำพูน เพื่อเรียนให้ทราบถึงเรื่องงานที่ผมทำอยู่แต่ก็ติดต่อไม่สำเร็จ แม้จะพยายามหลายครั้งก็ไม่เป็นผล ในที่สุดจึงตัดสินใจมุ่งตรงไปยังบ้านคุณอินสนธิ์ ก่อนที่จะเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อตระเวณถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติท่านอื่นๆ ต่อไป เมื่อจักรกฤษณ์และผมเดินทางไปถึงจังหวัดลำพูน ก็ได้สอบถามทางจากชาวบ้านเป็นระยะยาวๆ จนกระทั่งพบบ้านคุณอินสนธิ์ เมื่อเข้าไปในบริเวณบ้าน ก็รูสึกว่าช่างเป็นสถานที่ที่ร่มรื่นดีจริงๆ ความรู้สึกขณะนั้นคือความสบายใจที่มีมุมดีๆ สวยๆ ให้ใช้ถ่ายภาพศิลปินได้หลายมุม จากนั้นผมก็ได้พบกับคุณวินิเชีย ซึ่งดูแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยจากเมื่อครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน แต่เธอจำผมไม่ได้เพราะผมได้เปลี่ยนแปลงไปมากเกินกว่าที่ปุถุชนที่ไม่ได้เจอกันกว่า ๒๐ ปีจะจำได้ ส่วนจะเปลี่ยนแปลงไปทางใดนั้น ไม่ขอกล่าวให้เคืองใจตนเองครับ แต่เมื่อผมได้แนะนำตนเองแล้ว คุณวินิเชียก็จำชื่อผมได้ และนึกออกในทันที เธอได้ต้อนรับจักรกฤษณ์และผมด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดียิ่ง จากนั้นไม่นาน ผมก็ได้พบกับคุณอินสนธิ์ซึ่งเพิ่งขี่จักรยานกลับมาจากตลาด ภายหลังจากที่คุณวินิเชียได้แนะนำผมให้คุณอินสนธิ์รู้จักแล้ว เธอก็ปล่อยให้เราทั้ง ๒ คุยกันต่อไป คุณอินสนธิ์ได้พาผมชมรอบบริเวณบ้านอย่างทั่วถึงก่อนที่จะเริ่มถ่ายภาพกัน ในเบื้องต้นผมได้ขอถ่ายภาพคุณอินสินธิ์ในมุมต่างๆ โดยใช้แสงตามธรรมชาติที่มีอยู่ในขณะนั้น จนกระทั่งแสงแดดอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จึงได้ย้ายเข้าไปถ่ายภาพกันต่อในเรือนหลังหนึ่งที่ท่านได้จัดแสดงผลงานแกะสลักไม้ชิ้นน้อยใหญ่ รูปทรงหลากหลายแปลกตาจำนวนมากมาย รูปที่ผมเลือกมาลงเป็นภาพหลักในฉบับนี้ ก็คือรูปที่ผมถ่ายในห้องนี้เอง ในภาพ ผมได้จัดให้คุณอินสนธิ์นั่งบนเก้าอี้ไม้แกะสลักฝีมือของท่านเอง ในท่าทางสบายๆ แวดล้อมไปด้วยผลงานที่บรรจงสลักเสลาด้วยฝีมือของท่านอีกเช่นกัน โดยผมได้แนวคิดในการถ่ายภาพนี้มาจากการที่ได้เห็นผลงาน ชีวิตความเป็น ตลอดจนสภาพแวดล้อมของตัวถ่ายทอดมาเป็นภาพท่านดังที่ท่านเห็นอยู่นี่แหละครับ ในการนี้ ผมได้นำเอาภาพในแง่มุมอื่นๆ ที่ผมได้ถ่ายมาให้ดูด้วยครับ
ท่านที่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของคุณอินธิ์ วงศ์สามนี้แล้วและอยากได้เห็นผลงานจริงของท่าน หากมีโอกาสเดินทางผ่านไปทางจังหวัดลำพูนก็สามารถแวะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และสวนประติมากรรมส่วนตัวของท่านได้ ที่นั่น ท่านจะได้พบกับผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมหลายรูปแบบ และท่านจะพบว่าถ้อยคำที่ผมบรรยายเกี่ยวกับความงามของบ้านและศิลปกรรมฝีมือของคุณอินสนธิ์ วงศ์สามนั้น ไม่ได้เกินความจริงเลยแม้แต่น้อย