สุเทพ วงศ์กำแหง

นายสุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล – ขับร้อง) พุทธศักราช 2533

แม้ว่าในปัจจุบันนี้ เราจะมีนักร้องเพลงไทยสากลที่มีชื่อเสียงและความสามารถอยู่นับไม่ถ้วน แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอยู่เพียงช่วงสั้นๆ แล้วก็จืดจางหายไปจากวงการ มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่จะสามารถคงความเป็นที่นิยมยาวนานจนถึงขั้นที่เรียกว่าเป็น “อมตะ” ได้ แน่นอนที่สุด หนึ่งในจำนวนน้อยนั้นก็คือ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ผู้โลดแล่นอย่างโดดเด่นอยู่ในวงการเพลงไทยสากลมาแล้วกว่า 60 ปี

คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พุทธศักราช 2477 ที่จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 67 ท่านได้รับการศึกษาตั้งแต่เบื้องต้นจนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ที่จังหวัดบ้านเกิด ความมีแววของการเป็นนักร้องเริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยที่เป็นนักเรียน โดยมักจะได้รับมอบหมายให้เป็นต้นเสียงร้องเพลงชาติที่โรงเรียนเสมอๆ

ครั้นเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 แล้ว คุณสุเทพก็ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพมหานคร และด้วยนิสัยรักการวาดเขียนและงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท่านจึงได้สมัครเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง ซึ่งระหว่างที่เรียนอยู่นั้นนอกจากท่านจะแสดงฝีมืออย่างโดดเด่นในทางศิลปะแล้ว ท่านยังเป็นนักร้องเสียงดีประจำห้องเรียนอีกด้วย ในยามว่างท่านมักจะฝึกซ้อมร้องเพลงเสมอตามแบบอย่างของนักร้องที่ท่านชื่นชอบ เช่น วินัย จุลบุษปะ สถาพร มุกดาประกร ปรีชา บุณยเกียรติ ฯลฯ

คุณสุเทพได้มีโอกาสรู้จักและคุ้นเคยกับครูไศล ไกรเลิศ นักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงเนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กัน เมื่อครูไศลมองเห็นแววความสามารถของคุณสุเทพก็คิดจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมจึงชักชวนให้มาช่วยงาน เช่น ช่วยเขียนโน้ตเพลง เขียนตัวหนังสือ ตลอดจนติดตามไปช่วยงานในธุรกิจบันเทิงต่างๆ เสมอ ทำให้คุณสุเทพเริ่มคุ้นเคยกับบุคคลในวงการเพลงมากหน้าหลายตา ทั้งยังได้รับโอกาสให้ร้องเพลงสลับฉากละคร ร้องเพลงตามงานบันเทิงต่างๆ รวมไปถึงการทดลองเสียงแทนนักร้องตัวจริงก่อนที่จะทำการอัดเสียงเสมอ จากการที่ร้องเพลงได้อย่างดีเด่น ทำให้คุณสุเทพได้ร้องเพลงบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับคัดเลือกให้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงของตนเองบ้าง ต่อมาท่านได้รับการสนับสนุนจาก พลอากาศเอก ทวี จุลละทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบการร้องเพลงของท่านโดยช่วยส่งเสริมท่านในทางต่างๆ ครั้นคุณสุเทพมีอายุครบกำหนดกฎเกณฑ์ทหาร พลอากาศเอกทวีจึงได้ชักชวนให้ท่านเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ โดยได้ประจำอยู่ที่วงดุริยางค์ทหารอากาศ ซึ่งมี ครูปรีชา เมตไตรย์ เป็นผู้ควบคุมวง ระหว่างนั้น คุณสุเทพได้บันทึกแผ่นเสียงมากขึ้นอีก และสถานีวิทยุต่างๆ ก็ได้นำเพลงที่ท่านร้องบันทึกแผ่นเสียงนี้ไปเปิดจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างรวดเร็ว

ภายหลังจากออกจากกองทัพอากาศแล้ว คุณสุเทพก็ได้ร้องเพลงเป็นอาชีพหลักอย่างเต็มตัว ท่านได้เข้าร่วมกับคณะชื่นชุมนุมศิลปิน และได้มีโอกาสร้องเพลงทั้งในรายการวิทยุและโทรทัศน์อยู่เนืองๆ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเริ่มเพิ่มขึ้น งานต่างๆ จึงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และยิ่งในช่วงนั้น วงการภาพยนตร์ไทยกำลังเฟื่องฟู ท่านจึงได้งานร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้ร่วมแสดงภาพยนตร์บางเรื่องด้วย ท่านได้มีโอกาสร้องเพลงคู่กับนักร้องรุ่นพี่ท่านหนึ่งคือ คุณสวลี ผกาพันธุ์ อยู่เสมอ ในเวลานั้น คุณสวลีเป็นนักร้องยอดนิยมแห่งยุคที่มีแฟนเพลงชื่นชอบมากมาย ดังนั้นเมื่อใครซื้อแผ่นเสียงของคุณสวลีไป ก็มักจะมีเสียงคุณสุเทพติดไปด้วย ชื่อเสียงของคุณสุเทพจึงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณสุเทพจึงถือว่าความสำเร็จในเบื้องต้นส่วนหนึ่งของท่านนั้น ได้รับอานิสงส์มาจากการที่ได้ร้องเพลงคู่กับคุณสวลีด้วย

จุดเด่นของคุณสุเทพก็คือการที่ท่านมีน้ำเสียงที่ดีเป็นเลิศ มีลีลาในการร้องเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนุ่มนวลชวนฟัง อีกทั้งอารมณ์ที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงและสีหน้านั้นก็สามารถสะกดใจผู้ฟังให้คล้อยตามและเข้าถึงอารมณ์ของเพลงนั้นได้อย่างพิเศษ ประกอบกับการที่ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่อย่างจริงจังในการทำงาน ทำให้ท่านเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายในระยะเวลารวดเร็ว

ในช่วงก่อนปีพุทธศักราช 2500 คุณสุเทพได้ร่วมเดินทางไปฮ่องกง และสาธารณรัฐประชาชนจีนกับศิลปินแขนงต่างๆ กลุ่มใหญ่ จากนั้น ท่านก็ได้เดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อศึกษาทางด้านการวาดรูปที่ท่านเคยรักมาก่อนในอดีต ระหว่างนั้นท่านก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลงคนไทยที่นั่น ท่านได้เรียนวาดรูปตามความประสงค์และร้องเพลงขับกล่อมคนไทยที่ไปพำนักยังแดนอาทิตย์อุทัยประมาณ 3 ปี จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย

งานร้องเพลงของ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง สามารถแบ่งออก 3 ช่วง ตามช่วงเวลาดังนี้

– งานในช่วงแรก คือช่วงเริ่มต้นก่อนที่จะเดินทางไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น งานส่วนมากเป็นงานร้องเพลงประกอบละครและภาพยนตร์ งานอัดแผ่นเสียง และงานร้องเพลงตามไนต์คลับ เพลงดังที่สร้างชื่อเสียงให้คุณสุเทพมากเป็นพิเศษในช่วงนั้นก็คือเพลง รักคุณเข้าแล้ว ซึ่งเป็นผลงานแต่งทำนองโดย ครูสมาน กาญจนผลิน และแต่งคำร้องโดย สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เพลงๆ นี้ถือได้ว่าเป็นเพลงอมตะที่ยังเป็นที่นิยมต่อเนื่องตลอดมาจนทุกวันนี้ นอกจากนั้นยังมีเพลงคุณจะงอนมากไปแล้ว ผมต้องวิวาห์เสียที เพียงคำเดียว นางอาย สวรรค์มืด เท่านี้ก็ตรม และลาก่อนสำหรับวันนี้ เป็นต้น

– งานช่วงที่ 2 อยู่ในช่วงเวลาประมาณปี 2503 ภายหลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงนั้น แฟนเพลงให้การต้อนรับการกลับบ้านของคุณสุเทพอย่างอบอุ่น คุณสุเทพจึงมีงานร้องเพลงเข้ามามากมายไม่ขาดสาย งานเพลงดังๆ ที่ท่านขับร้องในช่วงนั้นได้แก่เพลง เกิดมาอาภัพ อาลัยโตเกียว อนิจจา น้ำตาลใกล้มด สัญญารัก เธออยู่ไหน และเย้ยฟ้าท้าดิน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลงเย้ยฟ้าท้าดินนั้นเป็นเพลงที่นับว่าทำให้คุณสุเทพประสบความสำเร็จมากที่สุดเพลงหนึ่งในชีวิต

– ช่วงที่สาม ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณปี ๒๕๑๒ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนั้น นับว่าเป็นช่วงที่คุณสุเทพก้าวไปถึงจุดสูงสุดแล้วทั้งด้านชื่อเสียงและผลงาน ดังเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

กล่าวได้ว่า คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นนักร้องเพลงไทยสากลฝ่ายชายที่ร้องเพลงไว้มากที่สุดถึงกว่า 3,000 เพลง ในจำนวนนี้มีเพลงที่นับว่าเป็นเพลงยอดนิยมในประเภทต่างๆ มากมายนับไม่ถ้วนนับตั้งแต่

เพลงประเภททั่วไป เช่นเพลง ในโลกแห่งความฝัน ดาวลอย เพียงคำเดียว ดอกแก้ว คำคน ลาก่อนสำหรับวันนี้ ครวญ ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก ชั่วนิจนิรันดร โลกนี้คือละคร คนจะรักกัน บทเรียนก่อนวิวาห์ คืนหนึ่ง วิญญาณในภาพถ่าย หวานรัก ชื่นรัก ฯลฯ

เพลงที่ร้องประกอบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เช่นเพลง

ป่าลั่น จากภาพยนตร์เรื่อง เทพบุตรนักเลง
สกาวเดือน จากภาพยนตร์เรื่อง สกาวเดือน
สุรีรัตน์ล่องหน จากภาพยนตร์เรื่อง สุรีรัตน์ล่องหน
แผ่นดินของเรา จากภาพยนตร์เรื่อง โพระดก
มนต์รักบ้านนา จากภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักบ้านนา
ดอกอ้อ จากภาพยนตร์เรื่อง ดอกอ้อ
แววมยุรา จากภาพยนตร์เรื่อง แววมยุรา
ยอดพธูเมืองแปร จากละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ
ปองใจรัก จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคูณ
จุฬาตรีคูณ จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคุณ

ฯลฯ

เพลงประเภทปลุกใจและศาสนา เช่น เทิดพระเกียรติพระปิยมหาราช สดุดีมหาราชา พลังไทย พระรัตนตรัย พุทธธรรม เดือนเพ็ญตรัสรู้ องคุลีมาร ฯลฯ

จากพรสวรรค์ ความสามารถ และความมุ่งมั่นในการทำงาน ทำให้คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน และรางวัลเสาอากาศทองคำ หลายครั้ง ดังนี้

รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน

ปีพุทธศักราช 2506 จากเพลง ในโลกแห่งความฝัน
ปีพุทธศักราช 2506 จากเพลง ใจพี่
ปีพุทธศักราช  2512 จากเพลง ม่านประเพณี
ปีพุทธศักราช 2522 จากเพลง ตัวไกลใจยัง

รางวัลเสาอากาศทองคำ

ปีพุทธศักราช 2508 จากเพลง ดาวลอย
ปีพุทธศักราช 2521 จากเพลง เพียงคำเดียว

นอกจากรางวัลดังกล่าวแล้ว คุณสุเทพยังได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ และโล่เกียรติยศอันแสดงถึงเกียรติคุณและความสามารถของท่านอีกหลายรายการ

เมื่อประสบความสำเร็จในทางการงานและมีฐานะที่มั่นคงพอสมควรแล้ว คุณสุเทพก็คิดว่าน่าจะได้สนองคุณประเทศชาติทางด้านการเมืองบ้าง จึงตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้งจนประสบความสำเร็จ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เมื่อปี 2522 และอีกสมัยหนึ่งก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครเมื่อราวสิบกว่าปีก่อน

ในด้านชีวิตครอบครัว คุณสุเทพได้สมรสกับคุณผุสดี อนรรฆมนตรี และมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ในปัจจุบัน คุณสุเทพยังคงประกอบอาชีพร้องเพลงอยู่เช่นเดิม อีกทั้งอุทิศตนช่วยเหลือกิจกรรมการกุศลอย่างสม่ำเสมอไม่ว่างเว้น ท่านได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติเมื่อปีพุทธศักราช 2533 นับเป็นนักร้องเพลงไทยสากลท่านแรกที่ได้รับเกียรติอันสำคัญนี้

ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ได้พิสูจน์ให้แฟนเพลงชาวไทยเห็นแล้วว่า ท่านไม่ได้เป็นเพียงนักร้องธรรมดาคนหนึ่ง หากแต่ท่านเปรียบเสมือนพระเอกในตำนานอมตะแห่งวงการเพลงไทยสากล ที่จะต้องได้รับการกล่าวขานถึงไปอีกตราบนานเท่านานอย่างแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.