สุรเดช แก้วท่าไม้
โดย นิติกร กรัยวิเชียร
ที่มา สกุลไทย ฉบับที่ 2469 ปีที่ 48 ประจำวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ 2545
หากจะถามผมว่าในบรรดาศิลปินหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมคนใดบ้างที่ผมชื่นชอบผลงานเป็นพิเศษแล้ว ต้องบอกว่า “สุรเดช แก้วท่าไม้” เป็นคนแรกๆที่ผมจะนึกถึง เพราะงานของเขาส่วนใหญ่เป็นงานจิตรกรรมที่เน้นภาพบุคคลที่ดูมีชีวิตชีวา มีเนื้อหาที่ดูง่ายชวนให้สบายใจไม่ซับซ้อนยุ่งเหยิงหรือชวนให้หดหู่ และมีโครงสีที่มีความสวยงามเป็นพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นงานในแนวทางที่ผมชอบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
คุณสุรเดช แก้วท่าไม้ จิตรกรหนุ่มวัย ๓๘ ปี คนนี้เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันร่มรื่นของบ้านสวนริมแม่น้ำท่าจีน ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๖ วิถีชีวิตของเขาตั้งแต่วัยเด็ก ก็ดูจะไม่แตกต่างไปจากศิลปินที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายมากนัก คือมีความรักในเรื่องของการขีดๆเขียนๆ รูปภาพเป็นชีวิตจิตใจ และให้ความสนใจในวิชาวาดเขียนมากกว่าวิชาอื่นใดในสารบบของการศึกษา ครั้งหนึ่ง เขาได้เห็นภาพเขียนนางในวรรณคดีผลงานของอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ที่ตีพิมพ์อยู่ในปฏิทินก็เกิดความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจให้เขามุ่งมั่นที่จะเดินเข้าสู่โลกแห่งศิลปะอย่างเต็มตัว
ด้วยความสนับสนุนและส่งเสริมอย่างเต็มที่ของทั้งครอบครัวและครูศิลปะที่โรงเรียน เขาได้เดินทางเข้ามาศึกษาศิลปะที่วิทยาลัยช่างศิลป์ กรมศิลปากร ก่อนที่จะสอบเข้าเรียนต่อที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรได้สมดังใฝ่ฝัน ตลอดระยะเวลา ๕ ปีในรั้วศิลปากร เขาได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม เมื่อจบแล้วเขาก็ได้เริ่มทำงานศิลปินอิสระเขียนภาพในแนวทางที่เขาถนัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่มีเนื้อหาหลักเป็นภาพคนที่แฝงไว้ด้วยแนวความคิดที่น่าสนใจ ในด้านการใช้สีนั้น เขาได้รับอิทธิพลมาจากงานแบบอิมเพรสชันนิสม์ของตะวันตก แต่นำมาประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบตะวันออกได้อย่างงดงามกลมกลืมยิ่ง จนเกิดผลงานดีๆประดับวงการศิลปะบ้านเรามากมาย เขาได้ร่วมแสดงผลงานภาพเขียนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ งานสำคัญงานหนึ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คืองานเขียนภาพประกอบในนิตยสารพลอยแกมเพชร ซึ่งเขาได้ทำต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งทุกวันนี้ นอกจากนั้น เขายังเป็นอาจารย์พิเศษของคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรอีกด้วย ในปัจจุบันภาพเขียนของเขาเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักสะสมและคนที่รักงานศิลปะเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากการเป็นจิตรกรและอาจารย์แล้ว คุณสุรเดชยังเคยเป็นทั้งนักแสดงและนักร้องสมัครเล่นมาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา หากท่านผู้อ่านเคยดูภาพยนตร์เรื่อง “กลิ่นสีและกาวแป้ง” และยังพอจำตัวละครที่ชื่อ “ชำนัญ” ในเรื่องดังกล่าวกันได้ดี ก็จะต้องร้อง อ๋อ! ว่าเขาหาใช่ใครอื่นไม่ ที่แท้ก็คือ คุณสุรเดช แก้วท่าไม้ ที่ผมกำลังเล่าถึงนี่เอง นอกจากเรื่องกลิ่นสีและกาวแป้งแล้ว เขายังเล่นเรื่อง “พริกขี้หนูกับหมูแฮม” “น้องเมีย” และอื่นๆ รวมแล้วกว่า ๑๐ เรื่อง แต่ก็เพียงเพื่อความสนุกสนาน หาได้คิดจะเอาจริงเอาจังกับงานแสดงแต่อย่างใดไม่
ผมถ่ายรูปคุณสุรเดชหน้าผลงานภาพเขียนรูปเด็กบ้านสวนที่เขาได้แรงบันดาลใจและความประทับใจมาจากชีวิตในวัยเด็กที่แสนสุขของเขาเอง เพราะภาพๆนี้มีองค์ประกอบและโครงสีส่วนรวมที่บ่งบอกถึงความเป็น “สุรเดช แก้วท่าไม้” ได้อย่างชัดเจน และเมื่อลองมองดูตัวเขาเมื่ออยู่กับภาพแล้ว ก็เห็นว่าหากถ่ายภาพเขาในลักษณะที่ไม่ใส่เสื้อ น่าจะดูกลมกลืนกับบรรยากาศของภาพได้ดี ซึ่งเขาเองก็ไม่ขัดข้อง วันนี้คุณสุรเดชจึงมีงานอดิเรกใหม่ขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ คือการเป็นนายแบบนู้ดจำเป็นนี่เอง
นอกจากรูปที่ผมถ่ายแล้ว ผมยังได้ขอรูปคุณสุรเดชในช่วงต่างๆของชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัยมาให้ชมกัน เมื่อดูแล้วก็ยิ่งทำให้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของภาพถ่ายมากขึ้นไปอีก ว่าแม้อดีตและความทรงจำดีๆหลายอย่างจะผ่านเลยไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่ก็ยังสามารถบันทึกภาพเอาไว้ให้ชื่นชมได้ตราบนานเท่านาน