สตรีที่มีประจำเดือนแล้วคงจะเคยมีอาการ ปวดประจำเดือน บ้างไม่มากก็น้อย บางคนเป็นบ่อยแทบทุกเดือน
อาการปวดประจำเดือน เกิดจากกล้ามเนื้อมดลูกบีบเกร็งตัวอย่างแรง ทำให้รู้สึกปวดหน่วง ตรงกลางท้องน้อย เริ่มปวดขณะก่อนจะมีเลือดประจำเดือน เมื่อประจำเดือนมาให้เห็นแล้วอาการปวดมักทุเลาหรือหายไปโดยไม่ต้องใช้ยาอะไร
บางคนอาจมีอาการปวดมากจนไม่สามารถทำกิจวัตรตามปกติได้ ต้องนอนพักและรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล คนที่มีอุปนิสัยเครียดง่ายอาจมีแนวโน้มที่จะปวดประจำเดือนง่ายหรือมากกว่าคนอื่น จึงอาจใช้ยาคลายเครียดร่วมด้วยได้
ยาอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้ได้ผลดี คือ กลุ่มแอสไพริน ได้แก่ แอสไพริน และมีเฟนนามิก แต่ควรรับประทานตั้งแต่เริ่มมีอาการปวดจะได้ผลดีกว่ารับประทานเมื่อปวดมากแล้ว และพึงระวังอันตรายหรืออาการข้างเคียงที่เกิดจากยากลุ่มนี้ไว้ด้วย
นอกจากนี้ยังอาจรับประทานยาต้านอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ (คือกล้ามเนื้อของอวัยวะภายใน) เสริมด้วยได้ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด (ชนิดรับประทานทุกวัน) ก็จะช่วยป้องกันอาการปวดประจำเดือนในรอบนั้นได้
สตรีที่ปวดประจำเดือน โดยไม่มีโรคอื่นของระบบสืบพันธุ์แอบแฝงอยู่ มักเริ่มปวดประจำเดือนตั้งแต่วัยรุ่น และอาการมักดีขึ้นหรือหายไปหลังจากเคยตั้งครรภ์และคลอดบุตร
ผู้ที่เริ่มปวดประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุมากกว่า 25 ปี อาจจะมีโรคอื่นอยู่ เช่น มีเนื้องอกของมดลูกหรือรังไข่ มีการอักเสบติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ หรือ มีเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่ อาการปวดมักจะเป็นอยู่นาน ครั้งละหลายวัน อาจมีอาการปวดด้านข้างของท้องน้อยและมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย จึงสมควรได้รับการตรวจร่างกายเป็นพิเศษ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันอาการปวดประจำเดือนในกรณีผิดปกติเหล่านี้ได้