4 กลยุทธ์ การบริหารนาย เคล็ดลับง่ายๆ ของผู้ชายวัยทำงาน
ไม่ว่าจะมีการอบรมสัมมนาที่ไหน หัวข้อประเภทว่า..จะบริหารบุคคลอย่างไรดี มักมีให้เห็นอยู่ดาษดื่น แต่ยังไม่เคยเห็นคอร์สประเภทที่ว่าด้วยเรื่อง “การบริหารนาย” เลยสักนิด
จะว่าไปเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการที่พนักงานอย่างเราๆ ท่านๆ จะได้รับการบริหารจากนาย ในทางกลับกัน เพื่อการทำงานที่สอดประสานกันอย่างคล้องจอง ทางฝ่ายของพนักงานนั้น ควรจะมีการฝึกฝนเรื่องการบริหารนายตัวเองไว้บ้าง ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก นอกจากการทำงานเป็น “ทีมเวิร์ก” นั่นเอง
การบริหารนายนั้น จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับนายของคุณราบรื่นขึ้น และแน่นอนว่าการทำงานของคุณ ก็จะพัฒนาไปในทางที่ราบรื่นขึ้นด้วย เรียกว่าเป็นแบบวิน-วิน ซิตทุเอชั่นทีเดียว เพียงแต่คุณตอบคำถามดังต่อไปนี้เท่านั้นเอง
คำถามที่ 1…นายของคุณเป็นคนประเภทไหน
เจ้านายของคุณเป็นคนช่างจำรายละเอียดหรือเปล่า หรือเป็นคนที่ชอบดูเฉพาะเพียงแค่บทสรุปเท่านั้น ซึ่งหากคุณเกิดเผลอไปให้ข้อมูลที่จุกจิกกับนายประเภทนี้ คงเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ทีเดียว เนื่องจากเจ้านายคุณจะคิดว่า นี่คือส่วนความรับผิดชอบของคุณ ไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย ต้องมาให้รับรู้ทำไม นอกจากนี้คุณอาจจะคิดมาก หากเจ้านายของคุณไม่มีทีท่าว่าใส่ใจเอาเสียเลย ว่าคุณจะทำงานหนักสักเพียงไร
นั่นเป็นเพียงเพราะว่า นายประเภทนี้จะมองก็เฉพาะผลงานที่ออกมาเท่านั้น เกิดคุณไปคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้านายแบบนี้ คุณเองนั่นแหละที่จะสติแตกแต่เพียงผู้เดียว ข้อดีของเจ้านายประเภทไม่จู้จี้จุกจิกแบบนี้ ก็คือเขาจะไว้วางใจให้คุณทำงานต่างๆ ไปในวิถีทางของคุณเอง จะไม่เข้ามายุ่งจนกว่าจะเป็นกระบวนการสุดท้ายของโปรเจ็กต์ และมักจะช่วยเหลือคุณในเรื่องของภาพรวมเท่านั้น ถ้าหากคุณเข้าใจธรรมชาติในการทำงานของเจ้านาย คุณทั้งคู่ก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข
คำถามที่ 2…นายของคุณเป็นคน “ยามเช้า” หรือ “ช่วงบ่าย”
ถ้าคุณรู้ว่า นายของคุณไม่ใช่คนประเภทที่ตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้า และกลับบ้านตรงเวลา แบบคนทำงานประจำทั่วไป ก็พยายามอย่าจัดตารางนัดใครให้เจ้านายในช่วงเช้า หรือแม้แต่จะนัดถกปัญหากับเจ้านาย ก็ไม่ควรจัดเวลาเอาไว้ช่วงก่อนกินข้าวกลางวันอย่างเด็ดขาด
คุณอาจจะแปลกใจในช่วงแรกๆ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แล้วเจ้านายยังคงใจเย็น ก่อนที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้คุณราวๆ บ่าย 2 โมง หลังจากที่คุณเพิ่งจะดื่มกาแฟแก้วที่ 2 เสร็จไปพอดิบพอดี
คำถามที่ 3 …คุณสามารถช่วยเจ้านายให้บรรลุเป้าหมายได้หรือยัง
คำถามนี้คือคำถามของลูกน้องที่ดี เพราะว่าการที่เจ้านายจ้างคุณเข้ามา ก็เพื่อจะให้คุณช่วยทำงานของเขาหรือของบริษัทให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ต่างๆ หากคุณมีความเข้าใจได้อย่างดีว่า เจ้านายแผนกหรือบริษัทของคุณ ต้องการจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ในด้านใดเป็นพิเศษ คุณก็ควรที่จะอาศัยข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นเข้ามาช่วย และมีบทบาทในการสนับสนุนการทำงานของเจ้านายให้เต็มที่ เพื่อที่จะส่งเสริมให้บริษัทของคุณ ได้ไปถึงเป้าหมายและบรรลุวัตถุประสงค์ได้เร็วยิ่งขึ้น
ผลพลอยได้ที่คุณจะได้รับ นอกจากความภาคภูมิใจในชิ้นงานงามๆ ที่ออกมาแล้ว คุณยังจะกลายเป็นพนักงานที่โดดเด่น กลายเป็นขวัญใจของเจ้านายอีกต่างหาก และเมื่อเกิดการเลื่อนตำแหน่งของเจ้านายขึ้นมาหล่ะก็ เชื่อแน่ว่าคุณจะต้องได้รับการโปรดมทตามขึ้นมาติดๆ อย่างแน่นอนทีเดียว
คำถามข้อที่ 4…คุณได้พยายามทำการส่งเสริม ให้เจ้านายหรือบริษัทดูดีขึ้นอย่างเต็มความสามารถหรือยัง
ประเด็นนี้คือสิ่งสำคัญและไม่ควรจะมองข้าม เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้านายและบริษัทของคุณมีภาพลักษณ์ที่ดี คุณเองก็จะมีภาพลักษณ์ที่ดีตามไปด้วย เพราะฉะนั้น หากคุณมีความคิดดีๆ อะไร ที่จะสามรถปรับปรุงบริษัทให้ดีขึ้น อย่าลืมนำไปเสนอเจ้านาย เพื่อที่จะรีบปรับเปลี่ยนให้หน้าตาของบริษัทดูดีขึ้น
แต่กระนั้นก็อย่ากระทำการกระโตกกระตาก พยายามใช้การกระซิบเจ้านาย เวลาที่บริษัทดูดีขึ้น ไม่ต้องห่วง… ท่านจะต้องชมเชยคุณ และอาจตบรางวัลให้เป็นพิเศษ เพราะว่าคุณได้ยกเครดิตทั้งหมดให้เป็นของเจ้านายนี่นา
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกำลังเริ่มต้น “บริหารนาย” คุณจะรู้สึกว่า คุณสามารถทำงานได้อย่างสะดวกกายสบายใจขึ้น เนื่องจาก “เจ้านาย” ที่เคยทำให้คุณเกร็งและเกรงมาตลอดนั้น กลับกลายเป็นคนที่ทำงานร่วมกันกับคุณ แบบเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดสนิทสนมเสียแล้ว เมื่อนั้น เจ้านายจะเพิ่มหน้าที่ความรับผิดชอบให้คุณมากขึ้นกว่าเก่า
และแน่นอนว่า ย่อมเป็นหนทางที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางการงาน และคุณยังมีควาามสุขในการทำงานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และนั่นก็คือวัตถุประสงค์สำคัญที่สุดสำหรับการนี้