แมวต้องการสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุไม่ต่างไปจากคนเท่าใดนัก การรู้จักสารอาหารต่างๆที่มีผลต่อสุขภาพของแมวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ศูนย์ผู้บริโภคเนสท์เล่ จึงได้เรียนเชิญ นายสัตวแพทย์ชาลี ลีละสิริ มาเป็นผู้ให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ในหัวข้อ “แมวน้อย แมวใหญ่…สารอาหารอะไรที่สำคัญ”
ไขมันและกรดไขมัน
ในร่างกายของทั้งคนและสัตว์ต้องการไขมัน ซึ่งจะทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวกันกระแทกของอวัยวะหลาย ๆ ส่วนภายในร่างกาย กรดไขมันที่แมวต้องการ คือ กรดไลโนลิอิก และกรดอะราชิโดนิค เพื่อนำไปสร้างคลอเรสเตอรอล และฮอร์โมนเพศ ซึ่งถ้าไม่มีกรดตัวนี้ระบบสืบพันธุ์จะทำงานผิดปกติ
โดยปกติกรดไขมันส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เกี่ยวกับผิวหนังและขน หากมีกรดไขมันน้อยเกินไป นอกจากจะทำให้แมวมีน้ำหนักลดลงแล้ว ขนของแมวจะด้านไม่เป็นมัน ขนร่วง และผิวหนังอักเสบเยิ้ม นอกจากนี้ การขาดไขมันในลูกแมวจะทำให้มีการเจริญเติบโตผิดปกติ หรือถ้าได้รับไขมันไม่อิ่มตัวมากๆ เมื่อมีการย่อยในร่างกายจะทำให้เกิดการหืนเป็นพิษต่อร่างกาย และเกิดอาการโรคไขมันอักเสบในตับและไต
หากมีไขมันมากเกินไป เมื่อร่างกายย่อยไม่หมด แมวจะเกิดอาการท้องเสีย เนื่องจากน้ำดีย่อยไขมันได้ไม่หมด และถ้าแมวกินไขมันไม่อิ่มตัวเข้าไปมาก ๆ ร่างกายก็ต้องการวิตามินอีเพิ่มขึ้น เพราะวิตามินอี คือสารกันหืนในร่างกาย วิตามินอีเมื่อถูกออกซิเดชั่นแล้วจะไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ในไขมันของปลาทูน่าจะมีวิตามินอีน้อยแต่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาทูน่าในน้ำมันที่แมวชอบกินนั้น หากให้กินมากไปจะทำให้ร่างกายขาดวิตามินอี เป็นโรค pansteatitis หรือ Yellow fat disease
โปรตีนและกรดอะมิโน
ร่างกายของสัตว์ทุกชนิดมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนใหญ่ และเป็นสารอาหารที่ต้องคำนึงถึง มากที่สุด ว่าเพียงพอหรือไม่ มีสัดส่วนของกรดอะมิโนสมดุลหรือไม่ ส่วนประกอบที่สำคัญของโมเลกุลโปรตีน คือ ไนโตรเจน ซึ่งร่างกายมีการขับส่วนเกินหรือที่เป็นพิษซึ่งเรียกว่ายูเรียออกทางปัสสาวะ ความสำคัญประการหนึ่งของการบริโภคโปรตีน คือไม่มีการเก็บไว้ หากกินเกินก็จะขับออกมาเป็นยูเรีย สำหรับลูกแมวที่กำลังเจริญเติบโตจะขับยูเรียออกมาน้อย เนื่องจากร่างกายต้องนำไปสร้างเนื้อเยื่อ แต่สำหรับแมวที่โตแล้วและไม่ได้ท้อง การขับไนโตรเจนออกมาจะอยู่ในภาวะสมดุล คือการกินเข้าไปและการถ่ายออกมามีปริมาณพอๆ กัน ถ้าแมวถ่ายยูเรียออกมามากๆ แสดงว่าป่วยหนัก ไตวาย ขาดอาหารเพราะร่างกายสูญเสียโปรตีนไปเรื่อย ๆ
กรดอะมิโนที่สำคัญอีกสองตัว คือ กรดอะมิโนอาจีนีน และกรดอะมิโนทอรีน กรดอะมิโนอาจีนีนมีความสำคัญในขบวนการขับแอมโมเนียออกจากร่างกายในรูปของยูเรียทางปัสสาวะ เพราะแอมโมเนียเป็นสารพิษที่เกิดขึ้นในขบวนการย่อยสลายโปรตีน กรดอะมิโนอาจีนีน มีความสำคัญมากในอาหารแมว เพราะถ้าให้แมวกินอาหารที่ไม่มีกรดอาจีนีน จะแสดงอาการเป็นพิษเนื่องจากแอมโมเนียในเลือดจะสูงขึ้นทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมง อาการจะประกอบด้วย อาเจียน กล้ามเนื้อเกร็ง กระตุก ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจถึงตายได้
สำหรับกรดอะมิโนทอรีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกล้ามเนื้อหัวใจ และจอรับภาพในเรติน่า ซึ่งจะมีทอรีนอยู่เป็นปริมาณมากเป็น 100 – 400 เท่าของเนื้อเยื่ออื่น หน้าที่ของทอรีน คือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของการสร้างน้ำดี การรับภาพของลูกนัยน์ตา และการทำงานที่เป็นปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ นอกจากนี้ ทอรีนยังมีส่วนสำคัญในขบวนการสืบพันธ์ของแมว แมวใช้กรดอะมิโนตัวอื่นแทนการสังเคราะห์น้ำดีไม่ได้เหมือนสัตว์อื่นๆ ดังนั้นแมวจึงเป็นสัตว์ขนิดเดียวที่พบอาการขาดทอรีนได้ และทอรีนจะพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น เช่นเนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อปลา
หากแมวขาดกรดอะมิโนทอรีนจะทำให้จอภาพเรติน่าเสื่อม ซึ่งจะสังเกตได้ยาก จะรู้ได้ก็เมื่อแมวตาบอดไปแล้ว นอกจากนี้การขาดทอรีนยัง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจของแมวเต้นผิดจังหวะ ทำให้หัวใจวายได้ AAFCO กำหนดไว้ว่าต้องมีทอรีนในอาหารแมวกระป๋องอย่างน้อย 2000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม หรือ 1000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในอาหารแห้ง
สำหรับท่านที่ชอบให้แมวกินช็อคโกแล็ต ถ้าให้กินมากเกินไปแมวจะรู้สึกมึน อาจถึงตายได้ เพราะแมวจะขับถ่ายออกจากร่างกายได้เพียง 1 ใน 10 ของคน
ขอของคุณ Friskies ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล