แพ้ท้องแทนเมีย เกิดจากอะไร คุณพ่อก็แพ้ท้องได้เหมือนกัน
การแพ้ท้องของคุณพ่อ หรือผู้ชาย มันเกิดขึ้นได้นะคะ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องขำ มีคุณพ่อหลายคนได้เกิดอาการทางร่างกายต่าง ๆ เช่นนอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน มีอาการเครียดไปพร้อมกับคุณแม่ด้วย ในเรื่องนี้หากคุณพ่อ คุณแม่ได้พูดคุยให้เข้าอกเข้าใจในอารมณ์ความรู้สึกซึ่งกันและกัน ตัวคุณพ่อ และคุณแม่เองก็จะเครียดน้อยลง
รู้ไหมคะ คนที่กำลังจะเป็นพ่อ อาจมีอารมณ์อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปได้ ตั้งแต่กระตือรือร้นมองโลกในแง่ดี จนกระทั่งถึงกระวนกระวายและอาจจะถึงขั้นสิ้นหวัง นอกจากนั้นแล้ว มีคุณพ่อจำนวนมากเลยทีเดียวที่ยังประสบกับความงุนงง และสับสนจนเกินไป และก็มีคุณพ่ออย่างน้อยหนึ่งในสิบคน ที่มักจะมีอาการแพ้ท้องคล้ายๆกับคุณแม่ด้วย คืออาการอาหารไม่ย่อย แสบหน้าอก ท้องผูก ปวดหลัง และกินอาหารไม่ได้ อาการดังกล่าวส่วนมากเกี่ยวข้องกับความเครียด และไม่จำกัดเฉพาะคนที่กำลังจะเป็นพ่อเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น อาการแพ้ที่ทำให้ปวดท้อง อาจเกิดขึ้นกับคนที่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการงานที่ทำ กล่าวกันว่าผู้ชายที่มีอาการแพ้ท้องนั้น มักจะเป็นคนที่มีความกระวนกระวายมากกว่าคนทั่วไป ทั้งยังมีปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์ที่อ่อนไหวปรวนแปรอย่างมากอีกด้วย โดยจะแกว่งไปมาระหว่างความเชื่อมั่น กับความไม่พึงพอใจในตนเอง แต่อาการเช่นนี้อาจทำให้คุณพ่อ และคุณแม่เกิดความเห็นอกเห็นใจได้เป็นอย่างดี จึงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ถ้าการรับรู้ปัญหาซึ่งกันและกันจะช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นคุณพ่อจึงควรพูดคุยกับคุณแม่ เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของคุณและเธออย่างเปิดเผย
ความเครียดกับคุณพ่อ
มีข่าวฝากถึงคุณพ่อทั้งหลาย (ที่บ้างาน) เค้าบอกว่ามีผู้ชายส่วนเยอะเลยที่มักจะบ้างาน ทำงานหักโหมมากเกินไป และมักจะพกพาเอา ความเครียดและความกดดันที่ได้มาจากที่ทำงานโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว และด้วยนิสัยของผู้ชายเลยทำให้กลายเป็นคนเก็บกดความรู้สึก ไม่ระบายออกมาให้ได้รับรู้ ซึ่งมันมีแต่จะทำลาย ระบบภูมิต้านทานของร่างกาย และนำไปสู่ความป่วยไข้ได้ในที่สุด ฉะนั้นแล้วคุณพ่อขา อย่าหักโหมมากเลยค่ะทำงานแต่พอดี พอดีและหัดออกกำลังกายบ้าง รู้มั้ยค่ะว่ามีคนอยู่ข้างหลังคอยเป็นห่วงอยู่
พาภรรยาไปคลอดที่ไหนดี
เมื่อตั้งครรภ์ใหม่ๆก็จะต้องช่วยกันตัดสินใจว่าจะไปคลอดลูกที่ไหน จึงจะดีที่สุด การจะเลือกสถานที่เกิดให้ลูกของคุณนั้น ไม่ใช่เลือกเพียงแค่โรงพยาบาลใกล้บ้านเท่านั้น ยังต้องมีการตัดสินใจอีกหลายขั้นตอนเลย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ หรือราคา และถึงแม้ว่าจะสามารถคลอดตามคลีนิกได้ แต่ส่วนใหญ่แพทย์มักจะแนะนำให้ไปคลอดที่โรงพยาบาลซึ่งมีเครื่องมือเครื่องใช้ครบครัน โดยแพทย์ผู้รับฝากครรภ์จะเป็นผู้ดูแลรักษา และทำคลอดให้ ทั้งนี้โดยคิดค่าฝากครรภ์และคนไข้ต้องจ่ายค่าโรงพยาบาลเอง และสิ่งที่คุณจะต้องตัดสินใจร่วมกันเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ก็คือจะไปฝากครรภ์กับแพทย์หรือผดุงครรภ์คนไหนดี ถ้าต้องการแพทย์ผู้มีชื่อเสียงก็จ่ายแพงหน่อยค่ะ
และการตัดสินใจว่าจะไปคลอดลูกที่ไหน เป็นสิ่งที่ต้องกระทำร่วมกัน ต้องพยายามรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พูดคุยปรึกษาหารือกับเพื่อนๆและร่วมอารมณ์ความรู้สึกกับภรรยาของคุณ เพราะในท้ายที่สุดคุณก็จะต้องสนับสนุนการเลือกของภรรยา เพราะเธอจะเป็นคนไปคลอด การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจึงเป็นเรื่องของเธอ คุณอาจจะต้องคุยกันถึงการใช้ยาชาหรือยาสลบเมื่อจำเป็นต้องผ่าตัดด้วยก็ได้ แต่ก็ต้องให้คนที่กำลังจะเป็นคุณแม่นั่นแหละตัดสินใจ แพทย์ผู้ที่คุณเลือกฝากครรภ์ ควรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานประจำในโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือบริเวณที่คุณอาจพาภรรยาไปถึงได้สะดวกรวดเร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะเข้าใจ และสามารถจองห้อง เตียงและให้คำแนะนำได้โดยตลอด ที่สำคัญควรเลือกแพทย์ที่คุณแน่ใจว่าจะดูแล ให้ความเอาใจใส่คนไข้เป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องเหล่านี้คุณพ่อจะถามจากเพื่อนๆที่มีประสบการณ์มาก่อนก็ได้ค่ะ
เป็นคุณพ่อที่ดีได้อย่างไร
เรามาทำตัวเองให้เป็นคุณพ่อคนใหม่กันดีกว่าด้วยการ ถามจากลูกๆและภรรยาของเราว่า เราควรจะปรับปรุงตัวอย่างไร ประมาณว่าเป็นวันสำรวจพฤติกรรมของคุณพ่อซะเลย เพื่อที่ว่าคุณพ่อจะได้ลดช่องว่างระหว่างลูก และอาจจะลดความมึนตึงระหว่างคุณกับภรรยาได้อีกด้วย แต่ว่าคุณต้องรู้ตัวนะคะว่าคุณสามารถยอมรับความคิดเห็นเหล่านี้ได้ ไม่งั้นแทนที่ทุกอย่างจะดีขึ้น อาจจะทำให้เรื่องต่างๆมันเลวร้ายลงก็ได้