เด็กรุ่นใหม่เป็นหนุ่มสาวเกินวัย จะเลี้ยงอย่างไรดี
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์จิตติวัฒน์ สุขประสงค์สิน ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อในเด็ก จากสำนักงานวิจัยภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
นายแพทย์สุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์
พิธีกร หลายคนบอกว่าเด็กสมัยนี้เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าคนรุ่นก่อนๆเยอะเลย มันมีสาเหตุจากอะไร เพราะก่อนหน้านี้กว่าคนเราจะโตเป็นหนุ่มเป็นสาว กว่าจะมีประจำเดือน กว่านมจะแตกพาน ตัวเลขต้องเข้าใกล้ๆยี่สิบ แต่เดี๋ยวนี้ลดลงมาใกล้ๆเลขสิบ ก็เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว หลายคนโทษว่า เป็นเรื่องของอาหารการกิน โทษว่าเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม โทษว่าเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูใช่หรือไม่ วันนี้เราจะมาพูดคุยกันครับ และผลกระทบที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นจริง การที่เขาเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าปกติ จะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ เราจะได้ผู้ใหญ่ที่เร็วขึ้นอีกสิบปีหรือเปล่า หรือเราจะได้ปัญหาของเด็กที่โตขึ้นแต่สมองเขาไม่โต นี่คือสิ่งที่เราจะคุยกันในวันนี้ครับ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงเป็นผลกระทบต่อสังคมจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะคุยเจาะลึกลงไปทั้งรายการเลยครับ
U-NEWS ข่าวแรก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรมสุขภาพจิตได้จัดสัมมนาวิกฤติสุขภาพจิตระดับชาติ ครั้งที่1. โดยมีนายอนุทิน ชาลวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ภายในงานมีการนำเสนอผลงานของศูนย์วิกฤติสุขภาพจิตและการดำเนินการการจัดตั้งศูนย์เพิ่มเติมตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ ศูนย์วิกฤติสุขภาพจิตนั้นมีหน้าที่หลักก็คือ 1.การเจรจาต่อรองในภาวะวิกฤติ 2.ให้บริการจิตเวชฉุกเฉิน 3.การให้บริการช่วยเหลือและการปรึกษาในด้านสุขภาพจิต ในภาวะวิกฤติ โดยทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพจิตของประชาชนโดยรวมครับ
ข่าวที่สอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกันครับ เนื่องในโอกาสการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของนายอนุทิน ชาลวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกรมสุขภาพจิต โดยมีนายแพทย์ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตให้การต้อนรับ หลังจากฟังบรรยายสรุปและการดำเนินงานของกรมสุขภาพจิตทั้งหมดแล้ว ก็ได้ให้นโยบายที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรี คือ การแก้ไขปัญหาในด้านพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธุ์และการขายบริการทางเพศของวัยรุ่น วัยเรียน ให้กรมสุขภาพจิตได้เร่งรัดดำเนินการต่อไปครับ
พิธีกร ภาพรวมเดี๋ยวนี้เป็นอย่างนั้นจริงๆหรือไม่ครับ
นพ.สุกมล เวลาที่พูดถึงเด็กที่โตเกินวัยหรือเป็นหนุ่มเป็นสาวเกินวัย คนมักจะมองในเรื่องของพฤติกรรม ว่าเด็กๆเดี๋ยวนี้ในเรื่องของพฤติกรรมอะไร เขาเกินวัยอย่างที่คนจะขาดหวังว่า ถ้าเป็นเด็กเรียนชั้นมัธยมต้น มัธยมปลาย เขายังน่าจะเป็นเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์ นั่นคือภาพที่ผู้ใหญ่ยังคาดหวังอยู่ แต่ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วครับ เด็กในตัวเมืองหรือเด็กในต่างจังหวัด เขาอาจจะเรียนหนังสือไป เขาอยู่หอพักเดียวกัน อันนี้เป็นเรื่องที่เราพูดถึงกัน เรื่องของการมีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งถ้าถามว่าวัยอันควรคือเมื่อไหร่ ก็ยังไม่มีใครรู้ครับ
พิธีกร แต่เป็นไปได้ใช่ไหมครับ ที่ว่าเด็กโตวัยเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วขึ้นกว่าเดิม
นพ.สุกมล ผมคิดว่าเขามีพฤติกรรมในเรื่องทางเพศไวขึ้น เช่น สถิติสมัยก่อนอาจจะบอกว่ามีเซ็กซ์ครั้งแรกอาจจะอายุ 18-19 ปี เดี๋ยวนี้ถอยร่มมาที่อายุ 14 ปี อย่างที่เราเคยคุยกัน เด็กมีเพศสัมพันธุ์เร็วขึ้น
พิธีกร มีความเป็นไปได้ ต้องเรียนถามอาจารย์ในฐานะที่เป็นกุมารแพทย์ อาจารย์คิดว่า เรื่องของเด็กที่โตเป็นหนุ่มสาวเร็ว ภาพรวมตอนนี้เป็นยังไงครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ เราจะใช้อะไรดี ที่จะบอกว่าเขาโตเป็นหนุ่มสาวแล้วทางด้านร่างกาย เด็กผู้หญิงที่เข้าสู่วัยสาวเราดูที่เต้านมครับ ถ้าเริ่มมีเต้านมแสดงว่า เด็กเริ่มเป็นสาวแล้ว หลังจากมีเต้านมแล้วประมาณสองปี เขาจะเริ่มมีประจำเดือนครับ
พิธีกร คำที่กล่าวว่าเด็กไทยโตเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าปกติ จากการที่อาจารย์ได้ตรวจเด็กในทุกวันนี้เป็นจริงหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ต้องบอกว่าจริงครับ เพราะอย่างที่เรียนให้ทราบ เราอาศัยจากจุดสองจุดที่ว่า เราพบว่าช่วงอายุประมาณสิบปี เริ่มมีประจำเดือนมาสามสีคนแล้วครับ หลังจากนั้นประมาณสิบปีครึ่งมาแล้วประมาณหนึ่งในห้าของห้อง พอถึงสิบเอ็ดปีคราวนี้เกือบครึ่งห้องแล้วครับ และมีกันหมดเลยตอนประมาณสิบสองปี ซึ่งสมัยก่อนต้องไปถึงสิบสามหรือสิบสี่ปีถึงจะเริ่มรู้สึกว่าหมดห้องครับ
พิธีกร สมัยก่อนของอาจารย์สักประมาณกี่ปีครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ประมาณห้าหรือหกปีที่ผ่านมานี้เองครับ โดยเฉพาะถ้าเราย้อนกลับไปสักสิบปี เราจะเจอชัดเจนมากว่าจะเริ่มมีประจำเดือนตอนอายุสิบสี่สิบห้าปีครับ ซึ่งอันนี้เป็นข้อแตกต่างที่ค่อนข้างจะชัดเจนว่า ในเด็กรุ่นใหม่ๆ มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัดครับ
พิธีกร อีกหลายท่านคงยังไม่ทราบว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุทำให้เขาโตเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วก่อนวัยอันควร มีเหตุอะไรบ้างครับ ที่ทำให้เขาโตเร็ว
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ การเข้าสู่วัยหนุ่มสาว เรายังไม่ทราบ100%ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่เราทราบว่าตัวที่ค่อนข้างจะกระตุ้นมากๆ และนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยทั่วโลกมองกันมากก็คือเรื่องของแสง สี เสียง และโลกาภิวัฒน์ที่เปลี่ยนไป อีกอันที่ชัดเจนมากก็คือ เรื่องของความอ้วนครับ
พิธีกร อาจารย์กำลังจะบอกว่าเด็กที่หลงแสง สี เสียง จะทำให้เขาเป็นสาวเร็วขึ้น
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ อาจจะต้องบอกอย่างนั้นครับ เพราะในสัตว์ทดลองที่มีการกระตุ้นด้วยตัวเร้าเหล่านี้ พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่นได้เร็วขึ้นครับ
พิธีกร เราเอาคำตอบนี้มากจากการทดลอง การทดลองเป็นยังไงบ้างครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ใช่ครับ มีการกระตุ้นด้วยการให้แสง เสียงและสิ่งเร้าต่างๆ และดูว่าสัตว์ทดลองมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่น เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้นครับ อันนั้นถือว่าตัวกระตุ้นหรือสิ่งเร้าเหล่านี้น่าจะมีผลครับ
พิธีกร หมายถึงเราเปิดแสงเยอะๆให้เขา ถ้าเราเจอแดดแก่ๆ บ่อยๆ มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ แสงที่มีการกระตุ้นจะต้องมีการกระตุ้นในเชิงของความรู้สึกหรือกระตุ้นในเชิงที่มีสิ่งเร้าด้วยครับ
พิธีกร ดิสโก้เท็ค
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ คล้ายๆอย่างนั้นครับ มีการวูบวาบ ไม่ใช่แสงอาทิตย์ไม่อย่างนั้นที่นอร์เวย์คงจะลำบากแน่เลยครับ ความรู้ตรงนี้มีคนนำมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์หรือเลี้ยงอะไรได้แยะ เพื่อให้สัตว์มีการตกไข่เร็วขึ้น เจริญเติบโตเร็วขึ้น อันนั้นเป็นความรู้ที่เขานำมาใช้กันในทางปศุสัตว์ครับ แต่อีกตัวหนึ่งที่เราพบค่อนข้างจะชัดเจนมากก็คือ เรื่องของความอ้วน อันนี้ไปด้วยกันชัดเจนมากว่า เด็กที่อ้วนจะสมบูรณ์และเข้าสู่วัยรุ่นเร็วกว่าเด็กที่ผอม อันนี้ชัดเจนมากในกลุ่มของเด็กอ้วนกับเด็กผอมครับ
พิธีกร เด็กที่โตตอนอายุสิบสองปี เราถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ แต่มีกลุ่มของเด็กบางคนลงมาที่ตัวเลขไม่ถึงสิบขวบ อาจจะประมาณเจ็ดแปดขวบ ซึ่งอาจารย์กำลังศึกษาตรงนี้อยู่ด้วย อาจารย์เคยได้สัมภาษณ์เด็กคนหนึ่งที่อายุเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น ก็มีทุกอย่างเหมือนเด็กวัยรุ่นแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ เด็กกลุ่มนี้เราต้องถือว่าเป็นความผิดปกติครับ เด็กกลุ่มนี้เขาจะมีเต้านมเร็ว เราจะถือว่าเขาผิดปกติเมื่อเขาเริ่มมีเต้านมก่อนอายุแปดขวบ (เด็กผู้หญิง) การเป็นสาวเร็วจะพบบ่อยกว่าเป็นหนุ่มเร็ว อันนี้เป็นสิ่งที่เราเจอครับ
พิธีกร เพศชายเจอได้น้อยกว่าเพศหญิง เพราะฉะนั้นคำว่า เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่ากัน คำว่าสาวมักจะเจอบ่อยกว่า พอจะอธิบายได้หรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ เชื่อว่าส่วนหนึ่งในเรื่องของความเป็นสาวเร็ว เรายังไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน ว่าทำไมเด็กผู้หญิงถึงมีการกระตุ้นที่เร็วกว่า ส่วนหนึ่งที่ชัดๆก็คือ เด็กผู้หญิงสังเกตได้ง่ายกว่า เพราะดูจากเต้านม แต่เด็กผู้ชายดูยากครับ
พิธีกร เจ็ดขวบ เพิ่งจะป.2 เองครับ มีเต้านมแล้ว มันเกิดจากอะไรครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ สาเหตุจำนวนหนึ่งเราพบว่า อาจจะเป็นเนื้องอกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีเนื้องอกอยู่ในส่วนของสมอง โดยปกติแล้วการควบคุมการเข้าสู่วัยรุ่นจะต้องผ่านมาจากทางสมองก่อน แต่เด็กกลุ่มนี้มีจำนวนหนึ่งที่เขามีเนื้องอกอยู่ ทำให้มีการกระตุ้นของฮอร์โมนเยอะกว่าปกติ เขาก็เข้าสู่วัยรุ่นเร็ว อันนี้เป็นกลุ่มหนึ่งที่เราเจอ แต่มีจำนวนมากเลยครับ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ได้มีอายุน้อยๆ เราไม่พบอะไรชัดเจนมาก แต่เด็กลุ่มนี้เราจะพบว่าเขามักจะเป็นเด็กที่อ้วนกว่าปกติหน่อยนึง สมบูรณ์มาก กินอาหารที่ค่อนข้างจะดีกว่าในอีกกลุ่มหนึ่ง เขาจะเข้าสู่วัยรุ่นได้เร็ว จนกระทั่งมีคนเชื่อว่าเซลล์ไขมันน่าจะสร้างสารอะไรบางอย่าง ซึ่งกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน แล้วทำให้มากระตุ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเข้าสู่วัยรุ่น อันนี้น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนกำลังมองกันอยู่ครับ
พิธีกร ผู้ปกครองจะสังเกตได้ยังไงว่าลูก(ผู้หญิง)โตเป็นสาวเร็ว
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ที่สำคัญมากถ้าสังเกตดูที่เต้านมนั้นชัด โดยการคลำดูจะได้เป็นก้อนไตเล็กๆ แต่ตรงนี้พ่อแม่จะไม่ค่อยสังเกต โดยเฉพาะถ้าลูกค่อนข้างอ้วนก็จะดูยากครับ เพราะเด็กอ้วนจะมีลักษณะคล้ายๆเต้านมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องคลำดูจนกระทั่งได้ก้อนนูนๆ แต่ถ้าเราสังเกตต่ออีกนิด ในช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่น ความสูงของเด็กจะมากกว่าปกติครับ เขาจะเกิดภาวะเร่งความสูงอย่างรวดเร็ว ปกติก่อนหน้านั้นจะได้สี่ห้าเซนต่อปี แต่ในปีที่เขาเข้าวัยรุ่นเขาจะขึ้นเป็นหกถึงแปดเซนต่อปี
พิธีกร เร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ แสดงว่าเขาจะสูงล่วงหน้า เรียกว่ายืนแถวคนแรกของห้องเลย
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ มักจะเป็นอย่างนั้นครับ เขาจะสูงสุดหรืออยู่ในสามสี่คนที่สูงที่สุดของห้อง ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนสูงยิ่งต้องสงสัยครับ ว่าลูกเราเข้าวัยรุ่นก่อนหรือเปล่า ปัญหาของวัยรุ่นคือ เมื่อเขาเข้าวัยรุ่นเร็ว เขาจะมีประจำเดือนเร็ว กระดูกของเขาก็จะปิดเร็ว แล้วเขาก็จะลงเอยด้วยความเตี้ยครับ
พิธีกร ตอนแรกพ่อแม่ดีใจว่าลูกสูงกว่าคนอื่น แต่สุดท้ายผ่านไปอีกหลายๆปี ถ้าไม่ได้ดูแลเขาอย่างดี จะกลายเป็นว่าเขาจะเตี้ยที่สุดในห้อง
นพ.สุกมล เพื่อนๆจะสูงตามทัน
พิธีกร เพราะอะไรครับ ถ้าไม่ได้ดูแลดีๆจะเกิดอะไรขึ้นครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ในช่วงของการเจริญเติบโตที่มีการเพิ่มขึ้นของความสูงอย่างรวดเร็ว กระดูกมีการพัฒนาเร็วมาก เพราะฉะนั้นถ้าเด็กมีการเตรียมตัวให้ดีก็คือ การเตรียมตัวเพื่อให้ฮอร์โมนมีการหลั่งอย่างเต็มที่ขึ้นมากระตุ้นกระดูกให้สูงสุดเลย ซึ่งฮอร์โมนส่วนนั้นคือ growth hormone หรือฮอร์โมนที่ทำให้กระดูกสูง ฮอร์โมนตัวนี้จะออกต่อเมื่อเขาออกกำลังกายได้ดีมาก กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างดี ไม่กินหวาน ไม่กินมัน ไม่อ้วนเกินไป ไม่ผอมเกินไป นอนหลับพักผ่อนดี สุขภาพจิตดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อให้ฮอร์โมนมันเต็มที่และมีเวลาพอสมควรให้เขาค่อยๆยืดกระดูกออกไปด้วยฮอร์โมนเหล่านี้ แต่เมื่อเด็กมีฮอร์โมนทางเพศออกมาเร็ว ฮอร์โมนทางเพศจะกระตุ้นให้กระดูกโตอย่างรวดเร็ว ถ้าเด็กยังไม่ทันปฏิบัติตัวที่ดีกระดูกที่ถูกกระตุ้นก็จะปิดอย่างรวดเร็วครับ
พิธีกร เหมือนเป็นโอกาสทองที่มี ถ้าไม่รีบทำอะไร เขาก็จะคว้าตรงนั้นไม่ได้ มันก็จะปิดไปเลย
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ใช่ครับ แทนที่เขาจะได้ปีละหกเซนหรือแปดเซน เขาอาจจะเหลือแค่ปีละห้าหรือหกเซน ความสูงจะหายไปหนึ่งถึงสามเซนต่อปี เขาจะมีเวลาแค่สองสามปีที่จะโตในช่วงนี้เท่านั้นครับ
พิธีกร ความภูมิใจในตอนแรกกลับกลายเป็นความรู้สึกแย่ในช่วงหลังด้วย ซึ่งตรงนี้ทางด้านสุขภาพจิตมีปัญหาหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ต้องยอมรับว่าความสูงในปัจจุบันมีผลกับเด็กมากครับ ซึ่งทำให้เด็กรู้สึกว่า เมื่อเขาถึงจุดที่เขาเคยสูงที่สุดในห้อง สุดท้ายเพื่อนๆไล่ตามทันเขาหมด และเกินหน้าเขาไปโดยที่เขาไม่สูงอีกแล้ว ตอนนั้นเด็กจะเกิดความรู้สึกที่ค่อนข้างจะหดหู่และอายเพื่อนครับ เพราะเขาเคยเป็นคนที่อยู่ลำดับสูงๆ แล้วกลายมาเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง และในที่สุดอาจจะเตี้ยสุดด้วยซ้ำ ตรงนี้จะเป็นภาวะที่เขาท้อแท้และหดหู่มากครับ
พิธีกร ปัญหาทางด้านจิตใจจะเกิดอะไรขึ้นเด็กกลุ่มนี้ครับ
นพ.สุกมล ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เรื่องความเชื่อมั่นใจตัวเองจะลดลงครับ เพราะถ้าเขารู้สึกว่าในวัยรุ่นตอนต้นที่เขาโดดเด่น เขาจะเอาความภาคภูมิไปอยู่กับสรีระที่โดเด่นกว่าเพื่อนๆ แต่ตอนหลังมาพ่ายแพ้ ตรงนี้ความภาคภูมิใจจะลดลง ถ้าเขาไม่มีเรื่องอื่นที่จะมาชดเชยในส่วนตรงนี้ เช่น ถ้าเขาไม่ได้มีความโดดเด่นเรื่องหน้าตาสวย ถ้าไม่สูง ไม่สวยและยังไม่เก่งอีก
พิธีกร เด็กจะขาดความภูมิใจในตัวเอง
นพ.สุกมล แต่ถ้าเพื่อนๆสูงกว่าเขา เขาเป็นเด็กที่ตัวเล็กแต่เป็นเด็กที่ฉลาดเฉลียว เป็นคนที่กระตือรือร้น เป็นคนที่คล่องแคล่วว่องไว ถ้าอย่างนี้เขาจะมีสิ่งอื่นมาชดเชย ตรงนี้ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมากครับ
พิธีกร ถ้าเอาตัวเลขของเด็กเจ็ดปีที่มีความผิดปกติ ที่สูงขึ้นมาอย่างนี้ ตอนนั้นเป็นช่วงของป.2 เขายังเด็กมากๆเลย ที่ขาจะเป็นหนุ่มเป็นสาว เดี๋ยวก็จะมีหน้าอกแล้ว เดี๋ยวก็จะมีประจำเดือนแล้ว
นพ.สุกมล เด็กบางคนพอสูงจะพยามเดินตัวค่อมๆ เพราะว่าจะกลายเป็นคนที่โดดเด่น และหลายคนก็โดดเดี่ยวเหมือนกัน เพราะโดนเพื่อนล้อ ใครโดดเด่นจะโดนเพื่อนล้อ สังคมไทยแปลกอย่างหนึ่งครับ
พิธีกร เขาพยามเดิมค่อมเพื่อให้ตัวเองเข้ากับเพื่อนได้
นพ.สุกมล หรือพยามใส่เสื่อผ้าที่ไม่รัดรูป ทำให้คนอื่นไม่ต้องมาพูดถึงหน้าอกที่โตขึ้น และเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปคุยกับใคร เช่น ถ้ามีประจำเดือน เพื่อนๆก็ยังไม่มี เขาจะรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องผิดปกติหรือเปล่า ซึ่งถ้าเขาไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงนี้จากหมอ จากพ่อแม่ จากคุณครู เด็กกลุ่มนี้อาจจะคิดมากว่าตัวเราเองมีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นครับ
พิธีกร ถ้าอย่างนี้แล้ว ถ้ามีเรื่องของสรีระ มีประจำเดือนแล้ว เด็กจะมีความรู้สึกทางเพศตามมาด้วยหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ในช่วงแรกที่เขาเริ่มพัฒนาเรื่องนี้ เขาอาจจะมีความรู้สึกเล็กๆน้อยๆ ว่ามีบางครั้งวูบวาบบ้าง แต่เด็กจะไม่ค่อยทราบว่านั่นเป็นความรู้สึกอะไร เด็กจะยังเด็กมากครับ ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ เพียงแต่ด้วยรูปร่างของเขาซึ่งพัฒนาไปเหมือนกับวัยรุ่น ในขณะที่อายุหรือวุฒิภาวะยังต่ำมาก เขาจะถูกคนภายนอกมองว่า เขาเป็นสาวแล้ว เพราะฉะนั้นตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นปัญหา โดยที่เขาจะยังไม่เคยรับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้มากนัก แต่ได้ถูกมองไปเรียบร้อยแล้วว่าเป็นสาว และอาจจะเข้ามาในลักษณะที่คิดว่าเขาอายุสิบสามสิบสี่สิบห้าตรงนั้นครับ
พิธีกร หมายความว่าสรีระร่างกายของเขาเป็นสาว แต่พฤติกรรมหรืออะไรต่างของเขายังเป็นเด็กอยู่ เพราะฉะนั้นการที่จะไปวิ่งเล่น กอดกับเด็กผู้ชาย หรือกอดกับคุณพ่ออะไรต่างๆ ก็ตามแต่ก็ยังเหมือนกับเด็กอายุเจ็ดขวบอยู่เหมือนเดิม
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ใช่ครับ ธรรมดามากเลยครับ
พิธีกร แต่ปรากฎว่าคนที่ถูกเล่นด้วยกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น เป็นไปได้หรือไม่ครับ จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กในกลุ่มนี้หือไม่ครับ
นพ.สุกมล อาจจะมีปัญหา ก็คือเป็นเรื่องล่อตาล่อใจสำหรับผู้ใหญ่บางคนที่ดูแลเด็กๆ ตรงนี้เป็นการเปิดโอกาสเสี่ยงมากขึ้นครับ แต่โดยตัวเด็กเอง การเปลี่ยนแปลงทางกายจะเกิดขึ้นเยอะ เพราะเวลาที่ฮอร์โมนเพศหลั่งออกจากต่อมใต้สมอง แล้วมันไปกระตุ้นอัณฑะให้ผลิตฮอร์โมนเพศชาย ไปกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตฮอร์โมนเพศหญิง มันเปลี่ยนแปลงอยู่สามอย่างคือ อย่างแรกเปลี่ยนแปลงทางกาย จากเด็กผู้ชายก็โตเป็นหนุ่มเร็วขึ้น จากเด็กผู้หญิงก็โตเป็นสาวเร็วขึ้น ผมคิดว่าในกลุ่มตรงนี้จะเด่นชัดในเรื่องทางกายครับ ส่วนอีกสองอย่างอาจจะไม่ค่อยชัดเจนก็คือ 1.จะเริ่มสนใจเพศตรงข้าม 2.มีการตื่นตัวทางเพศ ตรงนี้จะไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก แต่สองอย่างนี้จะโดดเด่นมากสำหรับพวกที่อายุสิบสองสิบสามปีขึ้นไปครับ ชัดเจนเลยครับ เด็กผู้ญิงอาจจะปิ้งรุ่นพี่หนุ่มๆ ปิ้งอาจารย์หนุ่มๆ ผมพบว่าแถวๆมัธยมต้น สำหรับคนปกติทั่วไป เด็กผู้ชายจะเริ่มมีการตื่นตัวทางเพศ เขาจะเริ่มมองผู้หญิง ตอนนี้ลูกชายผมอยู่ในวัยสิบสอง เวลาผมไปเป็นวิทยากรต่างๆ ผมพาเขาไปสระว่ายน้ำ เวลาเห็นฝรั่งแม่ลูก เขาจะมองที่คุณแม่ ผมถามว่ามองอะไร เขาบอกว่ามองไฟหน้าไฟท้าย อันนี้คือเด็กอายุสิบสอง เพราะฮอร์โมนเพศชายเป็นฮอร์โมนแห่งเซ็กซ์และความต้องการทางเพศ เขาจะเริ่มเปิดUBC ช่องที่เป็นแฟชั่น เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขานี่คือปกติครับ แต่ในกลุ่มที่ทางกายโตเร็ว จะเด่นชัดในเรื่องของทางร่างกายมาก ตรงนี้อาจจะมีการตื่นตัวทางเพศขึ้นมาบ้างอย่างที่อาจารย์ได้เล่าให้ฟัง แต่มันยังไม่ชัดเจนครับ เพราะโดยทั่วๆไปจิตใจเขายังเป็นเด็กอยู่ครับ
พิธีกร เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะเข้ามาเป็นผู้ที่ปกป้อง เขาโตแต่กายใจยังเป็นเด็กอยู่
U-TIPS พ่อแม่ที่จำเป็นต้องแยกทางกัน จะทำยังไงถ้าลูกถามถึงในกรณีที่เกิดขึ้น เราจะตอบเขาได้อย่างไร?
– คำถามที่ว่า ถ้าพ่อแม่แยกทางกันหรือหย่ากัน อีกฝ่ายหนึ่งควรจะปฏิบัติกับลูกอย่างไร คำตอบไม่ใช่อีกฝ่ายหนึ่งควรปฏิบัติอย่างไร แต่เป็นว่าทั้งสองฝ่ายควรจะปฏิบัติกับลูกอย่างไร อันดับแรกคงต้องมีการเปิดเผยความจริงกับเด็ก แต่ลักษณะการพูดอาจจะต้องดูตามพัฒนาการของเด็กด้วย สิ่งที่สำคัญที่ต้องสื่อสารให้เด็กรับทราบ ว่าถึงแม้พ่อแม่จะเลิกรักกัน จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า พ่อแม่เลิกรักหนูด้วย ตรงนี้เป็นข้อความที่สำคัญมากที่ต้องสื่อให้ถึงกับเด็ก อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมากคือ การเลี้ยงลูก ควรที่จะใช้บรรทัดฐานหรือมาตรฐานในการเลี้ยงลูกอันเดียวกัน ในการฝึกวินัย พบได้บ่อยเหมือนกันในกรณีที่ว่า ฝ่ายที่ลูกอยู่ด้วยหรืออีกฝ่ายหนึ่งพยามที่จะซื้อใจลูก โดยการตามใจหรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกรักตัวเอง ซึ่งลงเอยด้วยวัตถุ ควรจะเลี้ยงลูกตามสิ่งที่ควรจะเป็นครับ ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปถามถูก และควรจะเป็นบรรทัดฐานเดียวกันครับ
พิธีกร เราได้เห็นภาพของเด็กที่สาวเกินตัวตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ และทำให้เขามีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างนี้ ซึ่งแน่นอนครับ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากตรงนี้ พ่อแม่ต้องคอยดูแล จากบทเรียนตรงนี้โยงมาถึงกลุ่มทั่วไปที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยู่ที่อายุสิบสองสิบสามปี ภาวะปกติที่พ่อแม่จะสังเกตได้มีอะไรบ้างครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว ผมเชื่อว่าเด็กของเราเป็นเด็กปกติ เราจะรู้ได้ยังไงว่า เขาเริ่มเป็นสาวแล้ว เราจะได้หาจังหวะช่วงเวลาที่สังเกตได้และให้คำปรึกษาได้ อะไรที่เราจะสังเกตได้ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ที่ชัดๆในผู้หญิงอย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่า เด็กจะเริ่มมีอาการของการเจ็บเต้านมนิดหน่อยในช่วงแรก เพราะฉะนั้นพ่อแม่อาจจะต้องลองคลำดูว่าเขามีก้อนเนื้ออะไรหรือไม่
พิธีกร เด็กอายุสิบสองปี เขาจะอายหรือยังครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ จริงๆคงจะอายครับ คงจะต้องให้คุณแม่ ซึ่งเป็นเพศหญิงเหมือนกันลองคลำดูว่ามีก้อนเนื้อหรือยัง
พิธีกร เขาจะเริ่มเจ็บด้วย คล้ายๆผู้ชายที่นมแตกพาน ผู้หญิงก็จะมีเจ็บด้วย
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ใช่ครับ แต่การเจ็บจะเป็นอยู่พักเดียว ถ้าเราลืมหรือไม่สนใจก็จะไม่รู้สึกแล้วครับ ก็จะหายเจ็บ หลังจากนั้นก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถึงจุดตรงนั้นแล้ว ตรงจุดนี้เองที่เป็นจุดเวลาเดียวกันกับเด็กที่จะเริ่มโตเร็วขึ้น ความสูงจะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเขาจะเริ่มมีความสูงที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วหกถึงแปดเซนต่อปีในบางราย หรือบางรายอาจจะถึงสิบเซนต่อปีครับ เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณสองปี แล้วเด็กจะเริ่มมีประจำเดือนครับ
พิธีกร แสดงว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้ดีกว่าคือ ความสูงที่กำลังจะขึ้น แต่กว่าจะเห็นได้มันตั้งเป็นปีถึงจะวัดได้ เราก็เจอเขาทุกวันๆ สังเกตไม่ค่อยจะออกอยู่แล้วครับ มีอะไรอย่างอื่นอีกหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ อย่างอื่นจะค่อนข้างยากแล้วครับ เพราะจุดที่เด็กจะเข้ามาหาเรามักจะเป็นช่วงซึ่งเขารู้สึกว่าเขาเจ็บเต้านม หรือเป็นช่วงที่เขารู้สึกว่าเขามีประจำเดือนแล้ว ตรงนี้มันจะสายไปแล้วครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ถึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลำบาก ต้องอาศัยความสังเกตหรือให้ความรู้ว่าจุดนี้เป็นจุดที่เด็กกำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องให้ความสนใจเด็กนิดหนึ่ง เพราะฮอร์โมนต่างๆกำลังจะเริ่มออกมาแล้วครับ
นพ.สุกมล วิธีการสังเกตที่ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง ตอนลูกสาวจะเริ่มเป็นสาว วิธีการกอดเขากับเราจะไม่เหมือนเดิม ตอนที่เขาเป็นเด็กๆ เวลากอดกับพ่อ เขาจะกอดแบบใกล้ชิดมาก แต่พอเริ่มเป็นสาว เขาจะเริ่มเอียงข้างหาเราครับ แน่นอนคุณพ่อคงไม่ไปคลำหน้าอกลูกสาว แต่เวลากอด ถ้าเราสังเกตเขาจะเอียงข้างให้ครับ
พิธีกร แสดงว่าเขาพยามจะปกป้องร่างกายเขา
นพ.สุกมล เขาอาจจะเอียงไหล่เข้ามา แค่ไหล่มาหนุนไหล่ แทนที่จะเป็นอกประทับอกเหมือนกับตอนวัยเด็กที่เขายังไร้เดียงสานี่คืออันที่ชัดเจนมากครับ
พิธีกร ซึ่งตรงนี้เราจะสังเกตได้ เป็นจากพฤติกรรม ถ้าคุ้นเคยกับการกอดกันอยู่นี่คือสิ่งที่สำคัญครับ อาจารย์ครับ แล้วฝ่ายชายมีเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ผู้ชายยากกว่าผู้หญิงเยอะเลยครับ ผู้ชายคงต้องอาศัยความสูงอย่างเดียวครับ เพราะว่าในทางการแพทย์สิ่งแรกที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่อัณฑะครับ ขนาดของอัณฑะจะใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้นยากมากที่จะมีใครไปคลำอัณฑะแล้วบอกว่ากำลังเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ไม่มีใครทำครับ แม้กระทั้งแพทย์ก็ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ ถึงจะคลำและทราบได้
พิธีกร เพราะอะไรครับ เขาเริ่มมีการเตรียมพร้อมที่จะผลิตสเปอร์มอย่างนั้นหรือเปล่าครับ มันถึงได้โตขึ้น
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ เป็นอย่างนั้นด้วยครับ และที่สำคัญก็คือฮอร์โมนเพศที่ออกมาจะกระตุ้นให้ขนาดของอัณฑะใหญ่ขึ้นครับ
พิธีกร มันเป็นภายในเหลือเกินครับ คงจะเห็นได้ยาก แต่สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นได้ก่อน เช่น มีหนวดเคราขึ้น มีลูกกระเดือกใหญ่ขึ้น หรือมีขนต่างๆ จะเห็นได้เร็วกว่าหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ตรงนี้อาจจะช้าไปแล้วครับ ถ้าเราย้อนกลับไปในผู้หญิง ผู้หญิงหลังจากที่มีประจำเดือนแล้วถึงจะเริ่มมีขนเพชร
พิธีกร หรือขนรักแร้
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ อันนั้นจะเป็นทีหลังครับ ซึ่งค่อนข้างช้าไปแล้ว ในผู้ชายก็เหมือนกันครับ จะช้าครับ ก่อนที่เราจะเจอว่าเขาเริ่มมีขน เริ่มมีหนวด หรือเริ่มมีสิว เขาจะเริ่มมีเสียงแตก เขาจะเริ่มรู้สึกว่าตัวเขาเองมีกล้ามเนื้อมากขึ้น หน้าอกใหญ่ขึ้น ตรงนั้นเป็นจุดซึ่งบอกว่า เริ่มเต็มที่แล้ว ถ้าเปรียบเทียบผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายที่เสียงแตกก็คล้ายๆผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาสักพักนึงแล้ว เขาถึงจะเริ่มมีหนวดเครา เริ่มมีสิว เพราะฉะนั้นถ้าถึงจุดนั้นแล้วมักจะบอกได้แล้วว่า ไปสักระดับหนึ่งแล้ว ใกล้จะจบแล้ว
พิธีกร ถ้าลูกอัณฑะดูไม่ได้ นมแตกพานจะเร็วกว่าเรื่องเสียงแตก หรืออย่างอื่นหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ นมแตกพานจะเร็วกว่าเสียงแตกหน่อย แต่ก็ยังเป็นช่วงซึ่งมาหลังๆแล้ว คือยังไงก็ตามอัณฑะไปก่อน ความสูงเริ่มพุ่งและเริ่มมีนมแตกพาน เสร็จแล้วก็มีเสียงแตก ซึ่งตรงจุดนี้แต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมาไม่ตามลำดับนี้ แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ แล้วถึงจะมาเริ่มมีหนวดเครา มีสิวอะไรต่างๆ อันนี้จะเป็นแบบนั้นครับ
พิธีกร ที่ผมถามละเอียดไม่ได้ต้องการให้โป๊ครับ เพื่อให้ได้ทราบว่า การที่เขามีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ตรงนี้เป็นโอกาสทอง ที่เราจะดูแลเขาในเรื่องการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย เช่นเดียวกันกับเด็กในวัยที่เขาโตก่อนวัยด้วยครับ เราก็ต้องให้เขามีอาหารการกินที่ดี มีการออกกำลังกายที่ดีในช่วงนี้ เพื่อให้ความสูงขึ้นมาด้วยหรือเปล่าครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ใช่ครับ ตรงนี้จะเป็นหลักสำคัญครับ ถ้าเด็กช่วงนี้เราดูแลเขาให้ดี เขาจะเข้าสู่วัยที่ค่อนข้างจะสูงได้เต็มที่ เพียงแต่เด็กวัยนี้เริ่มเป็นผู้ใหญ่หน่อยแล้ว เพราะฉะนั้นจะสอนได้ง่ายกว่า จะเข้าใจเรื่องของการออกกำลังกาย เรื่องการกินในลักษณะที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ไม่เหมือนเด็กเจ็ดขวบที่ตอนนั้นยังอยากวิ่งอยู่เลย ไม่สนใจอะไรมากมาย เพราะฉะนั้นเขาก็มีโอกาสที่จะสูงได้เต็มที่มากกว่าในเด็กวัยก่อนหน้านั้นครับ
พิธีกร ที่สำคัญที่สุดทางจิตใจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ทำให้เกิดความรู้สึกอะไรต่างๆด้วยหรือไม่ครับ
นพ.สุกมล ปัญหาที่ทำให้พฤติกรรมของเด็กล้ำหน้าเกินกว่าที่เราคาดหมาย สรุปง่ายๆขาดวัคซีนทางด้านจิตใจครับ ที่เราพูดเรื่องของฮอร์โมนมันจะอยู่ในสมอง ส่วนที่เป็นตำแหน่งของนิ้วหัวแม่มือส่วนที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบสมองเหมือนกำปั้น ตำแหน่งของเล็บหัวแม่มือที่อยู่ตรงกลางคือตำแหน่งของ sex center ที่เป็นบริเวณของต่อมใต้สมองที่ผลิตฮอร์โมนทางเพศ ในทางจิตใจถือว่าตรงนี้เป็นสมองส่วนอยาก เวลาที่เราเกิดความตื่นตัวทางเพศ เกิดความสนใจเพศตรงข้าม คือ สมองส่วนนิ้วโป้งทำงาน แต่ส่วนที่เป็นสมองหน้า ตรงนี้แหละครับที่มันขาดการพัฒนา มันจะพัฒนาได้ต้องเกิดจากการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่(นิ้วชี้) การศึกษาในโรงเรียน(นิ้วกลาง) วัฒนธรรมประเพณีและค่านิยม(นิ้วนาง) สิ่งที่เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ(นิ้วก้อย) เพราะฉะนั้นสมองส่วนคิดจะควบคุมสมองส่วนอยากได้หรือเปล่า ก็ต้องดูว่าสี่นิ้วนี้เข้มแข็งหรือเปล่า เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกอย่างไรครับ ที่ผ่านมาผมทำเรื่องเอดส์มานาน ในที่สุดมาลงเรื่องเพศ ทุกวันนี้เราทำเรื่องเพศศึกษา แต่ในที่สุดแล้วหมอทั้งหลายที่ทำเรื่องเพศศึกษาหรือหมอทั้งหลายที่ทำเรื่องยาเสพติดในวัยรุ่น จะค้นพบสิ่งหนึ่งที่ตรงกันก็คือ เด็กขาดเรื่องของวัคซีนทางใจอยู่สองอย่างก็คือ
1.ความภาคภูมิใจในตนเอง Self esteem ความรู้สึกตระหนักว่าตนเองมีคุณค่า อันนี้สำคัญมากครับ
2.วุฒิภาวะ ซึ่งสิ่งนี้ต้องพัฒนากันตั้งแต่ชั้นประถมแล้วครับ ไม่ว่าร่างกายเขาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ก็ตาม เด็กชั้นประถม เราต้องฝึกว่าเขามีอะไรดี อะไรที่เป็นลักษณะของเขา เพราะว่าปัจจุบันนี้เราก็ไม่ได้เชื่อว่าเด็กเกิดมาเป็นผ้าขาว เด็กเกิดมาเป็นผ้าสีที่สะอาด ลูกผมแต่ละคนเขาก็มีสีสันของเขาเอง แต่ละคนไม่เหมือนกัน เราต้องดูว่าลูกของเราเป็นแบบไหน เช่น เด็กบางคนเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น เขาไม่ชอบอยู่นิ่งๆ เขาชอบเป็นเด็กที่มีกิจกรรม เขาควรจะได้พัฒนาเป็นเด็กที่ได้ทำงานที่เป็นเรื่องของการมีกิจกรรมเยอะๆ เป็นนักกีฬาก็ได้ เด็กบางคนอาจจะพับเพียบเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย ชอบอยู่เงียบๆคนเดียว ไม่อยากจะสุงสิงกับใคร เขาอาจจะเป็นคนที่มีความสุขกับการอ่านหนังสือ เด็กพวกนี้อาจจะต้องพัฒนาไปเป็นเรื่องนักวิชาการ นี่คือการพัฒนาที่ตรงกับสิ่งที่ลูกของเราเป็น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงจะต้องค้นหาสีของลูกตัวเองให้ได้ แล้วการเลี้ยงดูเป็นการเติมแต่งลวดลายบนผ้าสีนั้น ผมคิดว่าปัญหาของการศึกษาทุกวันนี้ก็คือ เราพยามให้เด็กห้าสิบคนในห้องทำในสิ่งที่เป็นแบบเดียวกัน ทั้งๆที่เด็กทั้งห้าสิบคนนั้น มีความหลากหลายเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ผลสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นครับ เด็กที่สอบได้ที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ก็ได้รับคำชมจากคุณพ่อคุณแม่ หรืออย่างน้อยก็ต้องสอบได้เลขตัวเดียว ถ้าเด็กสอบได้ที่สามสิบห้า เขาจะเอาอะไรเป็นความภาคภูมิใจ ไม่มีใครชม กลับไปบ้านพ่อแม่ก็ไม่ชม วันหลังขยันหน่อยนะลูก มีแต่ความคาดหวังสูง คุณครูก็มองว่าเด็กกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มหลังห้อง กลายเป็นชื่นชมแต่คนเก่งๆ แต่เด็กเขามีอะไรบางอย่าง ที่ผมเชื่อว่าการศึกษาในการสอบไม่ได้วัดผล ซึ่งตรงนี้ครับ ที่เขาอาจจะต้องพัฒนาให้มากขึ้น
พิธีกร คงต้องให้ความรู้ในเชิงจิตวิทยาของเด็กวัยรุ่นด้วย เมื่อกี้มีความเจริญเติบโตทางด้านร่างกายที่เห็นความแตกต่าง ถ้าจะให้พ่อแม่สังเกตถึงเรื่องของทางด้านจิตใจของเด็กวัยรุ่นที่มีความแตกต่างไปจากเดิม เรื่องของความหงุดหงิด เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเองอะไรทั้งหลาย มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่ครับ
นพ.สุกมล ผมว่าเปลี่ยนแปลงครับ เพราะพ่อแม่ที่พาลูกวัยรุ่นมาปรึกษาปัญหานี้ ส่วนใหญ่จะบอกตรงกันว่า ตอนที่เขาอายุหกปี เจ็ดปี แปดปี เขาเป็นเด็กที่น่ารัก เขาเชื่อฟัง พอเขาเข้าสู่มัธยมต้น เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาดื้อ เขาไม่เชื่อฟัง เขาเริ่มโทรศัพท์นานขึ้น เขาเริ่มติดเพื่อน เขาเริ่มเล่นอินเทอร์เน็ตนานขึ้น เขาเริ่มพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่น้อยลง ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ามันเป็นพฤติกรรมของวัยรุ่นส่วนใหญ่ แล้วพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เพราะอะไรครับ เพราะคนไทยจะมีธรรมเนียมอย่างหนึ่งคือ ลูกจะต้องเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ แต่ผมบอกได้เลยครับ ในฐานะที่ผมเลี้ยงลูกด้วยตนเอง และในฐานะที่ผมเป็นจิตแพทย์คือ ตอนนั้นพ่อแม่จะต้องฟังลูกให้มากขึ้น ฟังว่าเขาคิดอะไร ฟังเขาก่อนครับ แล้วเราค่อยเสริม
พิธีกร เราเคยชินกับการที่เราสั่งสอนเด็ก พอถึงเวลาที่เขาเป็นวัยรุ่นแล้ว เราต้องฟังเขาด้วย มันกลับกันใช่ไหมครับ
นพ.สุกมล เขาคาดหวังว่า เขาอยากให้พ่อแม่ฟังเขาว่าเขามีความคิดเป็นของตัวเองอะไร พอเขาพูดอะไรออกมา พ่อแม่จะพูดว่าเดี๋ยวนี้หัดเถียงนะ ไม่เชื่อฟัง ผลสุดท้ายเด็กจะเริ่มกระบวนการเรียนรู้ว่าพ่อแม่คือคนที่เขาไม่อยากคุยด้วย แล้วใครคือคนที่เขาอยากคุยด้วยครับ เพื่อนๆไม่เคยตำหนิเขาในเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น เพื่อนๆไม่เคยซ้ำเติมเขาในเรื่องบางเรื่อง เพื่อนไม่เคยบอกว่าเธอจะต้องเชื่อฟังฉันนะ เพื่อนๆรับฟังเขาครับ เด็กเลยเฉไฉไปเลือกการคบเพื่อนครับ
พิธีกร ตอนนี้เราจะเห็นภาพเด็กออกไปจากอกเราแล้ว แทนที่จะกอดเราสนิทตรงนี้ เอียงข้างแล้ว ตอนหลังมาคือห่างออกไปเลย ไม่ให้เรากอดแล้ว
นพ.สุกมล ประเด็นเรื่องเพศชัดเจนมาก เด็กจะคุยกับพ่อแม่น้อยที่สุด แต่เด็กจะคุยกับเพื่อนมากที่สุดครับ ทำไมเขาไม่คุยกับพ่อแม่ครับ ทั้งๆที่เราแนะนำว่า ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องคุยกับพ่อแม่ เพราะในสถานการณ์ที่เป็นจริง เขาประเมินแล้วว่าโอกาสถูกด่ามีมากกว่าได้คำตอบ นั่นคือคนสุดท้ายที่เขาจะคุยด้วยครับ
พิธีกร นี่คือสิ่งที่เราต้องพยามรู้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ครับ รายการเราเป็นสื่อกลางที่อยากจะให้ท่านได้รู้ครับ ว่าจิตวิทยาของวัยรุ่นสำคัญมากๆ ถ้าพ่อแม่ไม่รู้แล้ว เราไม่สามารถจะได้เด็กที่ดีหรือผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตได้ครับ เพราะเราไม่สามารถจับใจของเขาได้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้
อินเทอร์เน็ต สำหรับเด็กที่มีปัญหาไม่ค่อยกล้าปรึกษาพ่อแม่จะทำยังไงดี
นพ.สุกมล ต้องหันมาดูพ่อแม่ว่า เรามีลักษณะอะไรที่ทำให้ลูกไม่อยากเข้ามาคุย เช่น ภาพของพ่อแม่ที่แสดงความเป็นผู้มีอำนาจ เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนจากผู้มีอำนาจมาเป็นผู้เป็นเพื่อนครับ
อินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จะส่งผลไปถึงอารมณ์ด้วยหรือเปล่าครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ ทางด้านร่างกายคงไม่เกี่ยวมาก แต่ทางด้านฮอร์โมนเกี่ยวครับ เพราะฮอร์โมนที่ออกมาเยอะจะมีผลโดยตรงกับความคิด ความรู้สึกของเขา ซึ่งจะกระตุ้นทำให้เกิดความรู้สึก ปัญหาและความก้าวร้าวต่างๆที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งในเด็กเล็กที่คลอดออกมาจากแม่ที่มีฮอร์โมนมาก จากการกินยาเข้าไปหรืออะไรต่างๆ ก็พบว่ามีผลต่อความรู้สึก นึกคิดของเขา ทำให้เป็นเด็กก้าวร้าวขึ้น เป็นเด็กที่ชอบจะเล่นปืนมากกว่าเล่นตุ๊กตาทั้งๆที่เป็นเด็กผู้หญิงก็มีครับ
พิธีกร ฮอร์โมนมีอิทธิพลต่อทางด้านจิตใจกับอารมณ์มากกว่า แล้วเด็กที่ไม่เคยสนใจต่อความโลดโผนหรือการเสี่ยงตาย ที่เราเห็นภาพบ่อยๆ คือ การขี่มอเตอร์ไซด์ซิ่ง หรือการเล่น x-games หรือกีฬาที่รุนแรงทั้งหลาย อันนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยหรือไม่ครับ
รศ.นพ.จิตติวัฒน์ เกี่ยวมากๆเลยครับ ผลของฮอร์โมนจริงๆไม่ได้มีลดลงนะครับ แต่สูงขึ้นในขณะที่เขายังไม่มีภูมิต้านทาน สูงขึ้นในขณะที่เขายังไม่ทราบว่าสิ่งที่ถูกคืออะไร เพราะฉะนั้นเขาอยากลองไปหมด เขาต้องการทราบว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
พิธีกร บันจี้จ้ำสูงจะตายแต่เขาก็ทำได้
นพ.สุกมล ถ้าแยกออกมาเป็นสองสาเหตุ สาเหตุทางฮอร์โมนชัดเจนว่า ผู้ชายจะมีพฤติกรรมเช่นนั้นมากกว่าผู้หญิง เพราะว่าฮอร์โมนเพศชายเป็นฮอร์โมนแห่งความก้าวร้าว ยกพวกตีกัน แข่งรถซิ่ง หรือชอบเล่นกีฬาที่โลดโผน ผจญภัย เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต ในขณะที่ผู้หญิงรักสวยรักงาม อาจจะมีเครื่องประดับ ชอบของชำร่วย ชอบของสวยๆงาม ในทางจิตใจผู้ชายต้องการเป็นที่ยอมรับของคนอื่น เพราะฉะนั้นถ้าเขามีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความภาคภูมิใจในตัวเองว่า เรามีความดี เรามีความสามารถอะไร เขาจะพอใจ แต่ถ้าเขาไม่มีตรงนี้ ไม่ได้รับคำชื่นชม เขาจะต้องแสวงหาพฤติกรรมอะไรสักอย่าง ที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อน แม้จะเป็นกลุ่มเล็ก เช่น แข่งรถชนะ เล่นเกมชนะ หรือสถาบันของข้าพเจ้า มันก็ไปลงตรงนี้ครับ เพราะฉะนั้นเด็กต้องค้นพบตัวเองครับ
อินเทอร์เน็ต วัยรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย จิตใจ และจะมีอารมณ์ทางเพศมากกว่าในทุกๆช่วงวัยใช่ไหมครับ
นพ.สุกมล วัยรุ่นต้องบอกว่า ฮอร์โมนเพศในทางจิตวิทยาถือว่าเป็นเชื้อเพลิงของชีวิต ไม่เหมือนชายวัยทอง หญิงวัยทองที่ฮอร์โมนลดลงแล้ว เหมือนกับคนที่ขาดพลังงาน ได้แต่อ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรง เพราะฉะนั้นเด็กวัยรุ่นควรจะต้องมีกิจกรรมเยอะ ตรงนี้เรียกว่าเป็นการแปรรูปพลังงานทางเพศไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ ในตอนนี้เรามีโครงการต่างๆ เช่น FRIEND CORNER หรือTO BE NUMBER ONE เพื่อให้เด็กมีกิจกรรมต่างๆเยอะ เวลาที่เขามีกิจกรรม เขาเรียกแปรรูปในแนวขวาง เช่น กิจกรรมที่เสียเหงื่อ เล่นกีฬาออกำลังกาย เด็กจะเหลือเรี่ยวแรงน้อยลงที่จะมาหมกมุ่นในเรื่องทางเพศ หรือการแปรรูปในแนวตั้ง เช่น ตั้งใจเรียน สนใจเรื่องศิลปะ ดนตรี ค้นหาความหมายของชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติ กิจกรรมอะไรก็ได้ครับ ที่พัฒนาในเรื่องความรู้ สติปัญญาและความสามารถ นี่คือแปรรูปพลังงานในแนวตั้ง เขาจะเป็นคนที่ไม่หมกมุ่นในเรื่องทางเพศครับ
พิธีกร นี่คือความรู้ที่เราได้ครับ และเป็นเรื่องที่ท่านผู้ชมต้องได้ด้วยครับ เพราะว่าเด็กรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้เป็นหนุ่มเป็นสาวเกินวัย แต่มีวิธีการที่จะเลี้ยงให้เขาเป็นผู้ใหญ่ได้ดีในวันข้างหน้า อันดับแรกท่านต้องสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของเด็กให้ได้ก่อน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ ซึ่งท่านได้ทราบจากกุมารแพทย์และจิตแพทย์แล้วนะครับ ถ้าดูแลทางด้านร่างกายควบรวมไปกับเรื่องของจิตใจ เราจะได้เด็กที่เป็นอนาคตที่ดีของประเทศเรา และโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีด้วยครับ ตรงนี้ต้องฝากกับทุกครอบครัวครับ ต้องขอขอบพระคุณวิทยากรรับเชิญทั้งสองท่านเป็นอย่างยิ่ง ที่ให้เกียรติกับรายการครับ
ที่มา www.thaimental.com