สูตรข้าวเกรียบปากหม้อ
ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
แป้งเท้ายายม่อม 1/ 4 ถ้วย
แป้งมัน 1/ 4 ถ้วย
น้ำ 4 ถ้วย
ส่วนผสมไส้
เนื้อหมูสับ 500 กรัม
หัวไชโป๊เค็มสับละเอียด 250 กรัม
หอมใหญ่หั่นชิ้นเล็ก ๆ 1/ 2 หัวใหญ่
ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ ๆ 1 ถ้วย
รากผักชีหั่นละเอียด 1 + 1/ 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 1/ 4 ถ้วย
พริกไทยเม็ด 10 เม็ด
น้ำตาลปีบ 1/ 2 ถ้วย
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 1/ 3 ถ้วย
วิธีทำ
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม แป้งมัน เข้าด้วยกัน ค่อย ๆใส่น้ำลงไปทีละน้อย คนให้เข้ากันดี ทำไปเรื่อย ๆ จนหมดน้ำ
2. โขลกรากผักชี กระเทียม(ที่เหลือ) และพริกไทยให้ละเอียด
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียมลงไป เจียวให้เหลือง (ระวังอย่าให้ไหม้) ตักใส่ถ้วยไว้ครึ่งหนึ่ง สำหรับพรมขนม
4. น้ำมันและกระเทียมเจียวที่เหลือในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เครื่องที่โขลกลงผัดให้หอม ใส่เนื้อหมู ผัดพอสุก ยีอย่าให้เป็นก้อน ใส่หอมใหญ่ หัวไชโป๊ ถั่วลิสง ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ใส่น้ำ ผัดให้เข้ากันจนเหนียว ชิมให้ออกรสหวาน เค็ม ปิดไฟ พักไว้สำหรับเป็นไส้
5. เตรียมหม้ออะลูมิเนียมคอคอด ขึงผ้าขาวให้ตึง เหลือช่องให้ไอน้ำออกเล็กน้อย ใส่น้ำลงไป 1/ 2 หม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใช้ทัพพีตักแป้งละเลงให้เป็นแผ่นกลม ปิดฝากะพอแป้งสุก เปิดฝา ตักไส้ใส่ตรงกลาง พับสี่ทบ ตักขึ้น พรมด้วยกระเทียมเจียว
6. จัดใส่จาน รับประทานกับผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนูสด
ข้าวเกรียบปากหม้อจะอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับ “ตัวไส้” ที่จะต้องมีรสชาติกลมกล่อม และจับตัวกันเหนียวแต่พอดี ไม่ใช่เหนียวหนึบหนับเสียจนติดเหงือกติดฟันเวลาเคี้ยว รสชาติของไส้ของข้าวเกรียบปากหม้อจะต้องออก หวานนำแล้วเค็มตาม
เวลาผัดไส้ต้องใจเย็น ๆ นะคะ ค่อย ๆ ผัดไปเรื่อย ๆ จนไส้จับตัวกันเหนียวดี หัวไชโป๊ที่นำมาใช้ ถ้าเค็มมากควรล้างน้ำก่อน เพื่อลดความเค็มแล้วจึงค่อยสับ ถั่วลิสงที่นำมาใช้จะต้องคั่วให้สุกหอมก่อนโขลก และจะต้องโขลกไม่ให้ละเอียดหรือหยาบเกินไป ถ้าเราโขลกถั่วละเอียดเกินไป เวลารับประทานจะไม่รู้สึกว่ามีถั่วผสมอยู่ นอกจากนี้ข้าวเกรียบปากหม้อควรจะต้องมีสัดส่วนของแป้งและไส้ที่สัมพันธ์กัน ไม่ใช่แป้งมากไส้น้อย หรือแป้งน้อยแต่ใส่ไส้มากจนแป้งทะลุ
เทคนิคในการทำข้าวเกรียบปากหม้อนั้น คือ ก่อนที่เราจะละเลงแป้งทุกครั้ง จะต้องคนแป้งให้เข้ากันก่อน เพราะเมื่อเราผสมแป้งทิ้งไว้ แป้งจะนอนก้น
อุปกรณ์ที่จะต้องใช้เวลาทำข้าวเกรียบปากหม้อ คือ หม้ออะลูมิเนียมคอคอด แบบที่เขาใช้นึ่งข้าวเหนียว นำมาขึงผ้าขาวให้ตึง ผ้าที่ใช้ควรเป็นผ้าดิบที่ฟอกแล้วหรือเป็นผ้าโทเรสีขาว ก็ได้ ควรนำผ้านั้นแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืนก่อนนำมาใช้ เพื่อเวลาเราละเลงแป้งแล้ว แป้งจะได้ไม่ติดผ้า เวลาขึงผ้ากับหม้อ อย่าลืมเว้นช่องเอาไว้ให้ไอน้ำออกสักหน่อย ด้วยนะคะ
ไส้ของข้าวเกรียบปากหม้อ นอกจากจะใช้ไส้หมูแล้ว เราอาจจะปรับเปลี่ยนไปใส่ไส้ได้หลายอย่าง อาจจะเป็นไส้ไก่ ไส้กุ้ง ไส้ปลา ไส้ผัก ฯลฯ ผักที่ใช้รับประทานคู่กันกับข้าวเกรียบปากหม้อก็คือ ผักกาดหอม ผักชี และ พริกขี้หนูสด ข้าวเกรียบปากหม้อบางที่เขาจะราดด้วยหัวกะทิแล้วรับประทานกับผักกระเฉด ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ