วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ
จอดรอ…ดับเครื่องดีกว่า
การอุ่นเครื่องหรือจอดรอเพียง 5 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน 300 ซีซีและเกิดไอเสียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
รู้ไหม? รถอุ่นเครื่องเองได้
การอุ่นเครื่องไม่จำเป็นสำหรับรถเมืองร้อนอย่างบ้านเรา และให้สิ้นเปลืองน้ำมันการออกรถและขับช้าๆ ใน 1-2 กม.แรก เครื่องยนต์จะอุ่นเอง
วางแผนเดินทาง…ก่อนสตาร์ทเครื่อง
วางแผนล่วงหน้าก่อนเดินทาง เลือกทางที่ใกล้ที่สุด หรือใช้เวลาที่น้อยที่สุด หรือใช้เวลาน้อยที่สุด ช่วยประหยัดน้ำมันและประหยัดเวลา
ติดฟิล์มกรองแสง เย็นขึ้น ประหยัดขึ้น
ช่วยลดความร้อนภายในรถ ช่วยลดภาวะของเครื่องปรับอากาศและลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน
ถนอมคลัตซ์ ถนอมรถ ถนอมน้ำมัน
ควรใช้เบรกหรือเบรกมือแทนการแช่คลัตซ์ เวลาหยุดรถควรเหยียบเบรกจนความเร็วลดลงต่ำและจึงเหยียบคลัตซ์ การเร่งเครื่องอย่างแรงขณะออกรถแต่ยังปล่อยคลัตซ์ไม่สุด หรือเมื่อเข้าเกียร์เสร็จแล้ว แต่ยังวางเท้าไว้บนแป้นคลัตซ์ จะทำให้คลัตซ์สึกหรอเร็วขึ้นและสิ้นเปลืองน้ำมัน
ใช้เกียร์ให้ถูกวิธี..ดีทั้งรถ…ทั้งคุณ
ควรใช้เกียร์ให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ ไม่ควรใช้เกียร์ต่ำ ( เกียร์1-2 ) ที่ความเร็วสูง หรือใช้เกียร์สูง ( เกียร์3-5 ) ที่ความเร็วต่ำ จะทำให้กำลังตกและสิ้นเปลืองน้ำมัน
ออกรถนิ่มๆ..เบรกนุ่มๆดีกว่า
ถ้าออกรถกระชากแรงๆเพียง 10 ครั้ง จะเสียน้ำมันฟรีๆ 100 ซีซี ซึ่งน้ำมันแค่นี้วิ่งได้ไกลถึง 700 เมตร และการออกรถด้วยความเร็วสูง เลี้ยวอย่างเร็ว
เบรกแรงกระทันหัน เบรกแรงกระทันหันหรือเบรกบ่อยๆ ทำให้เครื่องยนต์ เครื่องส่งกำลัง ผ้าเบรก และยางชำรุดสึกหรอเร็ว เร่งเครื่องเล่นๆ…เปลืองแย่
ไม่ควรเร่งเครื่องหรือบิดเบิ้ลเครื่องโดยไม่จำเป็นทั้งขณะจอดเฉยๆ เปลี่ยนเกียร์ หรือก่อนดับเครื่องยนต์ การเบิ้ลเครื่อง 10 ครั้งจะสูญเสียน้ำมันถึง 50 ซีซี ซึ่งน้ำมันขนาดนี้วิ่งได้ไกลถึง 350 เมตร
ขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ สบายใจ..สบายกระเป๋า
ควรขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ความเร็วที่ประหยัดน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 80 กม./ช.ม.
บรรทุกแค่สิ่งของจำเป็นดีกว่า…ประหยัดกว่า
ถ้าบรรทุกของไม่จำเป็นหนัก 25 ก.ก.และวิ่งไป 50 ก.ม.จะเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 20 ซีซี และยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรด้วย
ถนนแย่ๆ…นำมันก็แย่ด้วย
ถนนลาดยางที่มีผิวเสียหายสิ้นเปลืองน้ำมัน 15% ถนนลูกรังสิ้นเปลืองน้ำมัน 35% ถนนทรายแห้งสิ้นเปลืองน้ำมัน 45%
เบรกเสื่อม!
ตรวจสอบดูแลระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ หากผ้าเบรกเสียดสีจานล้อเสียงดังเอี๊อด จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 2%
ไส้กรองอากาศอุดตัน!
ควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งหรือทุก 1,000 ก.ม. สำหรับรถที่ใช้ในก.ท.ม. หรือทุก 3,000 ก.ม. สำหรับรถที่ใช้ในต่างจังหวัด
ไส้กรองอากาศที่อุดตันหรือสกปรก จะทำให้รถวิ่งได้ระยะทางน้อยลง
0.4 ก.ม./น้ำมัน 1 ลิตร
น้ำมันเครื่องหมดอายุ!
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามกำหนด และเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้ถูกต้องกับสภาพเครื่องยนต์ จะช่วยลดแรงเสียดทานภายในเครื่อง และช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ควันดำ เครื่องสั่น!
การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ทำให้รถมีควันดำ รอบเครื่องสูงกว่าปกติ เครื่องสั่น
เร่งไม่ขึ้น ควรนำรถไปปรับแต่งเครื่องยนต์ เพื่อให้รถวิ่งได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ
คาร์บูเรเตอร์สกปรก!
มั่นตรวจดูคาร์บูเรเตอร์ ถ้าคาร์บูเรเตอร์สกปรกจะทำให้ไอเสียที่ออกมามีกลิ่นเหม็นและรถวิ่งได้ระยะทางน้อยลงประมาณ 1.3 ก.ม./น้ำมัน 1 ลิตร
หัวเทียนบอด!
ถ้าหัวเทียนบอดหรือเสื่อมสภาพจะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ทำให้ไอเสียที่ออกมา มีกลิ่นน้ำมัน และรถวิ่งได้ระยะทางน้อยลงประมาณ 0.8 ก.ม./น้ำมัน 1 ลิตร
ยางอ่อน!
ตรวจเช็คและเติมลมยางให้เหมาะสม ถ้าลมยางแข็งเกินไปอาจทำให้ยางแตก และขับขี่ไม่นุ่มนวล ถ้าลมยางอ่อนกว่ากำหนดทุกๆ 1 ปอนด์/ตารางนิ้ว จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2%
น้ำมันรั่ว!
สังเกตจากพื้นถนนใต้รถที่จอดอยู่ หากพบว่ามีรอยเปียกของน้ำมันหรือได้กลิ่นน้ำมัน ควรนำรถไปตรวจซ่อมโดยเร็ว เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น
ความเร็วรอบสูง!
ควรปรับความเร็วรอบให้อยู่ในเกณฑ์มาตราฐานของผู้ผลิต หรือประมาณ 800 รอบ/นาที ถ้าความเร็วรอบสูงเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
Image by Free-Photos from Pixabay