นางเชอร์รี่ เศวตนันทน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) พุทธศักราช ๒๕๓๒
โดย นิติกร กรัยวิเชียร
ที่มา สกุลไทย
ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องของ คุณเชอร์รี่ เศวตนันทน์ ในฉบับนี้ มีเรื่องที่ท่านผู้รู้ทักท้วงมาว่า ผมได้ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดบางประการในฉบับที่ผมเขียนเล่าเรื่องราวของ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ในคอลัมน์นี้ และเมื่อผมได้ตรวจสอบดูแล้วก็ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดจริง กล่าวคือ ผมได้เขียนว่า คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นนักร้องท่านแรกที่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ซึ่งอันที่จริงต้องกล่าวว่าท่านเป็นนักร้องชายท่านแรกที่ได้รับเกียรตินี้ ส่วนนักร้องท่านแรกที่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติก็คือ คุณเชอร์รี่ เศวตนันทน์ หรือที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศในนาม “สวลี ผกาพันธุ์” ซึ่งได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเมื่อปี ๒๕๓๒ ส่วนคุณสุเทพนั้นได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติในปีถัดมาคือปี ๒๕๓๓ จึงขออภัยท่านผู้อ่านตลอดจนท่านผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้
คุณเชอร์รี่ เศวตนันทน์ หรือ คุณสวลี ผกาพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๔ ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอายุ ๗๐ ปี จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม เมื่อปี ๒๔๙๐ จากนั้นได้เรียนต่อเพิ่มเติมทางด้านชวเลข และพิมพ์ดีด เมื่อเรียนจบแล้ว ก็ได้เข้าทำงานเป็นเสมียนพิมพ์ดีดอยู่ที่เทศบาลนครกรุงเทพ และบริษัทสหไทยวัฒนา ตามลำดับ
ความสนใจทางด้านการขับร้องและดนตรีของคุณสวลีนั้นเริ่มมาตั้งแต่ครั้งที่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม และด้วยความที่เป็นผู้มีน้ำเสียงดี จึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำในการร้องเพลงชาติทุกวัน ต่อมาในปี ๒๔๙๑ ขณะที่อายุได้ ๑๗ ปี และกำลังทำงานอยู่ที่บริษัทสหไทยวัฒนานั้น คุณมยุรี จันทร์เรือง ซึ่งเป็นครูสอนวิชาขับร้องอยู่ที่โรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม ได้ชวนไปชมการฝึกซ้อมละครของคณะผกาวลี ซึ่งเป็นคณะละครของญาติท่าน ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับ ครูลัดดา สารตายน (ศิลปะบรรเลง) ซึ่งเป็นผู้ฝึกซ้อมและกำกับการแสดงละครของคณะนั้น ครูมยุรีได้เล่าให้ครูลัดดาฟังว่าคุณสวลีสามารถร้องเพลงได้ดี ซึ่งครูลัดดาก็เกิดความสนใจ จึงลองให้คุณสวลีร้องเพลงเพื่อทดสอบเสียงดู โดยให้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน ปรากฏว่าคุณสวลีได้แสดงความสามารถเป็นที่พอใจของครูลัดดา ครูลัดดาจึงได้ชักชวนให้มาร้องเพลงสลับฉากละครในตอนเย็นหลังเลิกงาน โดยเพลงที่คุณสวลีขึ้นเวทีร้องเป็นเพลงแรกในชีวิตมีชื่อว่าเพลง “หวานรื่น” ผลงานเพลงของครูประสิทธิ์ ศิลปะบรรเลง โดยร้องคู่กับคุณวลิต สนธิรัตน์ ในวันนั้น นอกจากจะเป็นวันที่เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักร้องแล้ว ยังเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง กล่าวคือ เป็นวันที่ครูลัดดาได้ตั้งชื่อให้ท่านใช้ในการแสดงว่า “สวลี “ อีกด้วย (ส่วนนามสกุล “ผกาพันธุ์” นั้น คุณสด กูรมะโรหิต เป็นผู้ตั้งให้ในเวลาต่อมา) จากนั้นมา คุณสวลีก็ได้มีโอกาสร้องเพลงสลับฉากเพิ่มขึ้น และยังได้เริ่มแสดงเป็นตัวประกอบในละครของคณะผกาวลีโดยมีบทพูดเล็กๆ น้อยๆ และร้องเพลงในเรื่องด้วย
เมื่องานการขับร้องเพลงและการแสดงละครมีมากขึ้น คุณสวลีจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาทำงานด้านการบันเทิงอย่างเต็มตัว และไม่นานต่อมา ท่านก็ได้รับบทนางเอกเป็นครั้งแรกในการแสดงละครเรื่อง “ความพยาบาท” ทำให้นาม สวลี ผกาพันธุ์ นี้ เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป จากนั้นมา ท่านก็ได้แสดงเป็นนางเอกละครอีกหลายเรื่องจนคณะผกาวลีเลิกกิจการลง จึงได้ย้ายไปแสดงอยู่กับคณะอัศวินการละคร โดยเริ่มงานด้วยการแสดงเป็นนางเอกเรื่อง “มโนราห์” ซึ่งมี คุณสุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ เป็นพระเอก และยังได้แสดงละครเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ละครเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือเรื่อง “บ้านทรายทอง” บทประพันธ์อมตะตลอดกาลของ ก.สุรางคนางค์ที่ต่อมาได้มีผู้นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์อีกหลายครั้ง โดยคุณสวลีนับเป็นผู้ที่ได้รับบทเป็น “พจมาน” คนแรก ในครั้งนั้น คุณสวลีได้ร้องเพลง “หากรู้สักนิด” ผลงานการประพันธ์ของหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ จนเป็นเพลงที่โด่งดัง และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากการแสดงกับคณะอัศวินการละครแล้ว คุณสวลียังได้ร่วมแสดงกับคณะเทพศิลป์ และคณะศิวารมย์เป็นครั้งคราวอีกด้วย
หลังจากที่ได้แสดงละครกับคณะละครต่างๆ มาแล้วหลายคณะ คุณสวลีจึงได้ร่วมกับ คุณอดีศักดิ์ เศวตนันทน์ ผู้สามี ตั้งคณะละครชื่อ “ชื่นชุมนุมศิลปิน” ขึ้นซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอันดี จนกระทั่งถึงยุคที่ละครเวทีซบเซาลงโดยมีภาพยนตร์เข้ามาแทนที่ ท่านจึงยุติการแสดงละครเวทีไปโดยปริยาย ต่อมาคุณ ส.อาสนจินดา ได้เริ่มสร้างภาพยนตร์ขึ้น โดยชักชวนสมัครพรรคพวกที่เคยร่วมงานละครเวทีกันมาก่อนรวมทั้งคุณสวลีด้วย มาแสดงภาพยนตร์ของท่าน ซึ่งคุณสวลีก็ได้รับบทเป็นนางเอกอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นก็ได้มีโอกาสพากย์ภาพยนตร์ด้วย และเมื่อว่างจากงานแสดงและงานพากย์ ท่านก็ได้เริ่มร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียง ผลงานการร้องเพลงที่ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในยุคนั้นของท่านได้แก่เพลงลมหวน โรครัก หน้าชื่นอกตรม และ รักมีกรรม เป็นต้น
ครั้นเมื่อมีการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง ๔ บางขุนพรหม อันเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทยขึ้นเมื่อปี ๒๔๙๘ คณะชื่นชุมนุมศิลปินก็ได้เข้ามาจัดรายการโทรทัศน์เป็นคณะแรก โดยเริ่มต้นด้วยการจัดรายการเพลง โดยมี ครูสมาน กาญจนผลิน เป็นผู้ควบคุมวง และมีนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายท่าน อาทิ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง คุณชรินทร์ นันทนาคร คุณนริศ อารีย์ คุณพูลศรี เจริญพงษ์ คุณอดิเรก จันทร์เรือง รวมทั้ง คุณสวลี ผกาพันธุ์ มาร่วมรายการด้วย และเมื่อคณะชื่นชุมนุมศิลปินเริ่มสร้างละครโทรทัศน์ขึ้น คุณสวลีก็ได้เป็นกำลังสำคัญท่านหนึ่งที่ได้ทำให้ละครโทรทัศน์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้พากย์ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์เป็นคนแรกคือเรื่องแลสซี่อีกด้วย ในขณะเดียวกัน คุณ
สวลีก็ยังมีงานขับร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงควบคู่ไปด้วย โดยมีทั้งเพลงที่ร้องเดี่ยว และร้องคู่ โดยเพลงที่ร้องคู่ส่วนใหญ่จะร้องคู่กับ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นหลัก ส่วนที่ร้องกับคนอื่นๆ ก็มี เช่น คุณชรินทร์ นันทนาคร คุณนริศ อารีย์ คุณชาญ เย็นแข และ หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เป็นต้น
คุณสวลี ผกาพันธุ์ มีผลงานการขับร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงมากมายกว่า ๑,๕๐๐ เพลง ในจำนวนนี้มีมากมายหลายเพลงที่ได้รับความสำเร็จสูงสุด และยังคงอยู่ในความนิยมมาตราบจนทุกวันนี้ อาทิ เพลงลมหวน เมื่อวานนี้ หนึ่งในร้อย ระฆังทอง ดวงใจ จำเลยรัก ฟ้ามิอาจกั้น ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า ใครหนอ หนีรัก เดือนดารา ฯลฯ และด้วยน้ำเสียงและความสามารถอันเป็นเลิศ ทำให้ท่านได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทานถึง ๔ ครั้ง อันนับเป็นนักร้องหญิงที่ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำมากที่สุด
นอกจากงานคุณภาพด้านต่างๆ อันมากมายที่ได้กล่าวมาแล้ว คุณสวลี ผกาพันธุ์ ยังได้ร่วมขับร้องเพลงเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมการกุศลขององค์กรต่างๆ ตลอดจนการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติราชการชายแดน ในยามที่บ้านเมืองประสบกับภัยคุกคามจากศัตรูของชาติตลอดมา จากเกียรติประวัติอันดีเด่นทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ท่านเป็นนักร้องคนแรกที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๒
หากท่านผู้อ่านสังเกตให้ดี ก็จะพบว่าการถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติของผมในระยะแรกๆ เกือบจะไม่มีภาพศิลปินที่เป็นนักร้องเลย แต่มาในช่วงหลังๆ นี้ จะเห็นภาพหลายท่านตั้งแต่ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง คุณชรินทร์ นันทนาคร คุณรวงทอง ทองลั่นธม คุณชินกร ไกรลาศ คุณไวพจน์ เพชรสุพรรณ และ คุณผ่องศรี วรนุช เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องมาจากเหตุผลสำคัญก็คือการถ่ายภาพศิลปินที่เป็นนักร้องนั้น ค่อนข้างที่จะยากแก่การถ่ายทอดออกมาเป็นภาพที่แสดงถึงวิชาชีพของแต่ละท่านอย่างชัดเจน ซึ่งต่างจากศิลปินแขนงอื่นๆ หลายแขนงที่มีผลงานเป็นรูปธรรมอันมองเห็นและจับต้องได้ เช่นจิตรกรก็มีผลงานภาพวาด ประติมากรก็มีผลงานเป็นรูปปั้น หรือมิเช่นนั้นก็อาจมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ประกอบ เช่น นักดนตรีที่มีเครื่องดนตรีอันหลากหลายตามความชำนาญของแต่ละท่านเป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงได้เลือกถ่ายภาพศิลปินท่านที่ผมคิดแนวทางของภาพที่จะถ่ายได้โดยสะดวกก่อน เพื่อให้งานในช่วงต้นดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด แต่เมื่อได้ทำงานที่ไม่ยากดังกล่าวผ่านไปจนเกือบหมดแล้ว ก็ต้องกลับมาคิดอ่านรูปแบบที่จะถ่ายภาพนักร้องหลายๆ ท่านอันเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผมในช่วงท้ายนี้ ทำให้การถ่ายภาพ คุณสวลี ผกาพันธุ์ ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ เนิ่นช้าออกมาถึงบัดนี้
เมื่อผมโทรศัพท์ไปเพื่อขอถ่ายภาพคุณสวลีนั้น เพียงผมได้แนะนำชื่อ และนามสกุลของผมให้ท่านทราบโดยยังไม่ได้เรียนถึงวัตถุประสงค์ที่โทร.มา คุณสวลีก็ได้กล่าวในทันทีว่าติดตามคอลัมน์คนในภาพถ่ายนี้มาโดยตลอด และได้พูดเป็นเชิงตัดพ้อเล่นๆ ว่า คิดว่าจะไม่มาถ่ายเสียแล้ว เพราะเห็นว่าผมได้ถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติมากมายหลายท่านจนถึงรุ่นปีหลังๆ นี้แล้ว ผมจึงได้เรียนถึงเหตุผลดังกล่าวข้างต้นให้ท่านทราบ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ติดใจแต่ประการใด และกรุณานัดวันให้ผมในทันทีโดยท่านกล่าวว่าสะดวกที่จะมาถ่ายภาพที่สตูดิโอของผมมากกว่าจะให้ไปถ่ายที่บ้าน เนื่องจากกำลังมีการก่อสร้างต่อเติมบ้านอยู่ในขณะนั้น
สำหรับการถ่ายภาพนี้ ผมตั้งใจที่จะแสดงถึงบุคลิกภาพอันสง่างามของนักร้องและนักแสดงคนสำคัญของชาติท่านนี้ ให้เห็นว่าแม้ท่านจะมีอายุถึง ๗๐ ปีแล้ว ก็ยังคงความสง่างามไม่สร่างซา ผมถ่ายภาพคุณสวลีในระยะค่อนข้างใกล้ และจัดให้หันด้านข้างประมาณ ๔๕ องศา มีผ้าบางๆ สีน้ำเงินเข้ม จัดให้ดูพลิ้วเพื่อเป็นฉากหลัง ในส่วนของการจัดแสงก็เป็นลักษณะแสงที่นุ่มนวล และใส่ซอฟท์เลนส์ช่วยทำให้ภาพไม่คมชัดเกินไป และก็เหมือนครั้งอื่นๆ ตามปกติที่ผมถ่ายภาพ คือจะให้ผู้ที่เป็นแบบค่อยๆ หันหน้าเปลี่ยนทิศทางไปทีละนิด แล้วถ่ายเก็บไว้ทุกมุมเพื่อที่จะนำมาเลือกมุมที่ดีที่สุด จนได้เป็นภาพนี้ออกมาให้ชมกันนี่แหละครับ
ท่านผู้อ่านคงเห็นด้วยกับผมนะครับว่าประสบการณ์ในการทำงานของ คุณสวลี ผกาพันธุ์ นั้น มีมากมายหลายด้าน และผลงานในวงการบันเทิงแต่ละด้านของท่านก็ล้วนแต่ดีเด่นและได้รับความนิยมอย่างสูงโดยทั่วไป จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าเหตุใดท่านจึงเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จถึงขีดสุดจนเป็นหนึ่งในทำเนียบแห่งศิลปินแห่งชาติของประเทศไทยเรานี้
ขอขอบคุณ
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เอื้อเฟื้อข้อมูล
บริษัทโกดัก (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพ
คุณบันลือ อุตสาหจิต แห่งบริษัทศรีสยามพริ้นท์แอนด์แพคก์ จำกัด อุปถัมภ์โครงการ