ผู้หญิงทุกคนย่อมปรารถนา รูปร่างที่สวยงาม หุ่นผอมเพรียว มีสุขภาพดีและแข็งแรง แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีรูปร่างอย่างนั้นได้ ด้วยกรรมพันธุ์ การกินอยู่ และวิถีชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกวันนี้มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยมีปัญหากับความอ้วน และพยายามหาวิธีลดน้ำหนักด้วยวิธีการต่างๆ บ้างก็สนใจอุปกรณ์ลดน้ำหนักที่โฆษณาทางโทรทัศน์ บ้างก็หันไปพึ่งยาลดความอ้วน ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพมากมาย บางคนกินแล้วใจสั่น หงุดหงิดอารมณ์ฉุนเฉียว สมองเสื่อม และบางคนกินยาจนเสียชีวิตไปเลยก็มี
“ลดน้ำหนักอย่างไร ไม่ให้สมองเสื่อม“
ผู้หญิงหลายคนเคยลดความอ้วนมาหลายวิธี ตั้งแต่อดอาหาร ล้วงคอให้อาเจียน ไปจนถึงกินยาลดความอ้วน เมื่อกินแล้วก็เกิดอาการใจสั่น เพราะยาลดความอ้วนจะกระตุ้นประสาท ไม่อยากทานข้าว หงุดหงิด กระวนกระวาย จำอะไรไม่ได้ คอแห้งหิวน้ำตลอดเวลา การกินยาลดความอ้วน มีผลข้างเคียงต่อหัวใจและร่างกาย ที่อันตรายมาก และอาจส่งผลร้ายต่อระบบประสาท ประสาทหลอน หรือถึงขั้นเกิดสมองเสื่อมได้เลยทีเดียว
การลดความอ้วนที่ถูกต้องนั้น จึงต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยวิธีการเคลื่อนกล้ามเนื้อใหญ่ ให้แขน ขาได้เคลื่อนไหว อย่างการเต้นแอโรบิค วิ่งเบา ๆ เดิน หรือเข้าฟิตเนส ทำอย่างต่ำวันละประมาณ 30 นาที การออกกำลังกายทุกวันจะมีผลดีต่อร่างกายทำให้มีกลูโคสไปเลี้ยงสมองมากขึ้น สมองจะกระปรี้กระเปร่า จะรู้สึกสดชื่น หายอ่อนเพลีย
ส่วนการรับประทานอาหารนั้น เราต้องควบคุมอาหารให้ได้ทุกวัน โดยรับประทานเท่าที่จำเป็นแต่พอเพียง ขอแนะนำตัวอย่างให้ไปปฏิบัติตามกันได้เลย ดังนี้ค่ะ
– มื้อเช้าควรเป็นข้าวต้ม โจ๊ก หรือ เกาเหลา
– มื้อกลางวันเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ ทุกมื้อต้องจำกัดปริมาณ 1 ชามต่อมื้อเท่านั้น
– มื้อเย็นก็เป็นข้าวหนึ่งทัพพีพร้อมกับข้าวที่ไขมันต่ำ เช่น น้ำพริก ผักนึ่ง ผัดผักไร้น้ำมัน ปลานึ่ง และควรทานเนื้อสัตว์ให้ครบทุกมื้อเพื่อเสริมโปรตีน
– ก่อนนอนบางคนอาจจะหิว ก็ควรเป็นพวกผลไม้ที่ไม่หวาน หรือสลัดผัก หรือนมขาดมันเนย ไม่ควรเป็นนมพร่องมันเนย เพราะนมพร่องมันเนยจะมีไขมัน 2 เปอร์เซ็นต์ และควรทานนมวันละ 2 แก้ว เพื่อจะได้รับแคลเซียม เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงนะคะ
การลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ เป็นสูตรง่าย ๆ และถูกต้อง ให้ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน จะได้ไม่ต้องหลงเข้าใจผิดไปกับวิธีการลดความอ้วนแบบผิด ๆ และห่างไกลจากโรคสมองเสื่อมค่ะ
Image by fabioeliasp1 from Pixabay