คุณนักดื่มคอเหล็ก คอทอแดง ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดู อาจเคยถามตัวเองบ่อยๆ ว่าเมื่อคืนดื่มหนักไปหรือเปล่า ผมเชื่อว่ามีหลายคนตั้งใจ ว่าต่อไปจะดื่มให้น้อยลง แต่ก็เชื่อเถอะครับ ว่าพอถึเวลามีงานปาร์ตี้สังสรรค์ทีไร เอาเข้าจริงๆ คุณก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่อยู่ดี ตั้งใจไว้ 2 แก้ว ก็เผลอกระดกเข้าปากเกิน 5 ทุกทีซิน่า
จริงอยู่ที่ข่าวการวิจัยของบรรดาแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบัน ยืนยันว่าคนที่ดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และมีโอกาสอยู่ในโลกได้ยาวนานกว่าคนที่ไม่ดื่มเหล้าด้วยซ้ำ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พอจะทำให้นักดื่มยิ้มออกกันได้บ้าง ที่สำคัญ มันกลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้คุณไม่ยอมเลิกดื่มเสียที โดยหารู้ไม่ว่าขอบเขตของมันมีแค่ไหน จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่คนส่วนใหญ่ยังข้องใจสงสัยอยู่ว่า ดื่มแค่ไหนจึงจะเรียกว่าดีต่อสุขภาพ อย่างที่นักวิทยาศาตร์เขาวิจัยกัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดเมา หรือว่าเก่าระดับชาติ ทั้งที่คิดจะเลิกและไม่เคยคิดจะเลิก ถ้าไม่อยากตายผ่อนส่ง ก็คงต้องลดดีกรีความถี่ในแต่ละวันลงบ้าง กฏข้อบังคับเรื่องนี้มีไม่กี่อย่าง แต่นี่คือความจริงที่นักดื่มอย่างคุณต้องรู้….
หมายเหตุ…. 1 แก้วในที่นี้ หมายถึงเบียร์ขนาด 12 ออนซ์ ไวน์ 4-6 ออนซ์ ส่วนอย่างอื่นที่แรงกว่าก็ประมาณ 1.5 ออนซ์ แต่อย่าลืมว่า ไลท์เบียร์จะเบากว่าเบียร์ทั่วไปนิดหน่อย ส่วนเบียร์อิมพอร์ตบางยี่ห้อ ก็อาจจะหนักกว่าเล็กน้อย คนที่นิยมดื่มประเภทมิกซ์อย่าง ไฮบอลล์, มาร์ตินี่ ก็อาจจะดื่มได้มากเป็น 2-3 เท่า
ดื่มวันละ 1-2 แก้ว
ใครที่ดื่มวันละ 1-2 แก้วเป็นประจำทุกวัน คงยิ้มได้อย่างหน้าชื่นตาบาน เพราะหลังจากการวิเคราะห์วิจัยมานานนับ 10 ปี ผู้เชี่ยวชาญจึงรู้ว่า มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
ข้อดีมีอยู่ว่า สุขภาพร่างกายของคนดื่มเหล้าเป็นประจำประมาณนี้ คือ 1-2 แก้ว จะสมบูรณ์แข็งแรงกว่าคนที่ไม่ดื่มเลย แถมอัตราเสี่ยงตายจากโรคภัยไข้เจ็บอย่างโรคหัวใจ, เส้นเลือดอุดตัน ยังน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มเหล้าถึง 20-40 เปอร์เซ็นต์
ถึงข้อเสียจะไม่มี แต่ควรจำไว้อย่างหนึ่งว่า ปกติถ้าคุณไม่ดื่มเหล้าอยู่แล้ว ก็อย่าริไปลองลิ้มรสมันเลย ถ้าอยากมีสุขภาพดีจริงๆ หันไปหากีฬาหรือกินอาหารที่มีประโยชน์จะดีกว่าครับ
สูตรสำเร็จหาปริมาณการดื่มให้พอดี มักจะคิดคำนวณจากน้ำหนักตัวเป็นหลัก โดยทั่วๆ ไป ร่างกายจะเจือจางแอลกอฮอล์แก้วหนึ่งก็ประมาณ 1 ชั่วโมง คนที่หนัก 180 ปอนด์ที่ดื่มเหล้าไป 2 แก้วใน 2 ชั่วโมง จะมีแอลกฮอล์อยู่ในเลือดประมาณ 0.016 ฤทธิ์แอลกอฮอล์แค่นี้ ยังไม่แรงพอที่จะทำให้อารมณ์ความรู้สึกของคุณเปลี่ยนแปลง เรียกง่ายๆ ว่าอาการยังไม่ออกนั่นเอง
แต่ถ้าชั่วโมงละ 2 แก้ว ปริมาณจะเพิ่มเป็น 0.03 ดีกรีสูงขึ้นมาอีกหน่อย ร่างกายของคุณก็จะเริ่มสตาร์ทเครื่องแค่อุ่นๆ รีแล็กซ์และเป็นกันเองมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งร่าเริงหยิบแก้วต่อไป เพราะถ้าปริมาณแฮกอฮอล์ถึง 0.03 เมื่อไหร่ คุณจะตกที่นั่งลำบากเวลาขับรถกลับบ้าน เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรทานอาหารหรือน้ำสักแก้วเพื่อเป็นการสตาร์ทเครื่อง
ดื่มวันละ 2-3 แก้ว
คนที่ดื่มเหล้าวันละ 2-3 แก้ว คงใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง เพราะอย่างน้อยแอลกอร์ฮอล์ที่ซึมเข้าไปในร่างกาย ก็ไม่ได้ให้โทษทำลายอย่างเดียว ไวน์สัก 2-3 แก้ว ถึงกับช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานได้
จากการศึกษาวิจัยผู้ชายวัย 40 ขึ้นไป พบว่าคนที่กินเหล้าวันละ 2-4 แก้ว ยังไงก็มีสิทธิเป็นโรคเบาหวานน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่ม นั่นเป็นเพราะการดื่มเหล้าเป็นประจำ ทำให้ร่างกายใช้อินซูลิน (ฮอร์โมนที่ควบคุมน้ำตาลในเลือด) ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนี่เอง ที่ช่วยลดอัตราการเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานให้คุณได้
แต่ขณะเดียวกัน มันก็คงยังมีโทษเป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่ดี ถ้าคุณยังยืนยันเจตนารมณ์เดิม กิน 2-3 แก้วเป็นประจำ ผลร้ายก็ตกอยู่ที่กระดูก เพราะแอลกอร์ฮอล์นั้น เป็นตัวทำลายเซลล์สร้างกระดูก ถ้าลดปริมาณการดื่มลงเหลือ 1-2 แก้วต่อวัน ก็จะลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งที่ลำไส้ได้เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมะเร็งที่กระเพาะอาหารด้วย
การดื่มเหล้าชั่วโมงละ 3 แก้วแบบนี้ ปริมาณแอลกอร์ฮอล์ในเลือดจะเพิ่มเป็น 0.056 ถึงตอนนี้คุณจะมีอาการมีนหัวเล็กน้อย มือใหม่สมัครเล่นบางคนถึงกับมีปัญหาเรื่องการทรงตัวและเรื่องสายตาเลยทีเดียว
ดื่มวันละ 3-4 แก้ว
ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับขี้เมา ที่กระดกซดเหล้าวันละ 3-4 แก้วต่อไป นั่นหมายความว่ามีแต่ข้อเสียอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งก็มากจนสาธยายไม่หมด ถ้าคุณกินเหล้าวันละ 4 แก้ว แสดงว่าคุณดื่มหนักเกินไป ที่สำคัญมันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณเอาเสียเลย แต่ถ้าร่างกายและสุขภาพของคุณยังไม่ทรุดโทรม เราหวังว่าคุณควรจะรู้ถึงอันตรายต่อร่างกายเอาไว้
ผู้ชาย 4 ใน 10 คนที่กินเหล้าวันละ 4 แก้วหรือมากกว่า จะต้องทนทุกข์ทรมานกับเจ้าโรคตับอักเสบ เพราะว่าแอลกอร์ฮอล์เป็นตัวทำลายเซลล์ในตับ ถ้าคุณดื่มติดต่อกันนาน 15-20 ปี รับรองว่าคุณหนีไม่พ้นโรคตับแข็งแน่นอน บางรายก็ถึงขั้นมะเร็งในปอดกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ คุณยังจะหนีโรคหัวใจไม่พ้นอีกด้วย แน่ละ…แอลกอร์ฮอล์เพียงเล็กน้อยสามารถป้องกันโรคหัวใจคุณได้ แต่การดื่มทุกวันก็ใช่ว่าเป็นเรื่องดี อย่าลืมว่าคุณดื่มมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นอันตรายต่อการเต้นของหัวใจและกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้นเท่านั้น
โรคฮิตติดอันดับ อันเนื่องมาจากแฮลกอร์ฮอล์อีกโรค ก็คือโรคความดันโลหิตสูงนั่นเอง การดื่มเหล้ามากกว่า 3 แก้วต่อวัน อาจทำให้ฮอร์โมนซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดตีบตันได้ง่าย ระดับความดันของเลือดสูง เป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายอีกท่าตัว
ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบถึงสมอง ตรงส่วนซีรีเบลลัม อันเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมความรู้สึก การเคลื่อนไหว ความคิด และเหตุผลต่างๆ คนที่กินเหล้าน้อยกว่า 3 แก้วต่อวัน จะมีเซลล์ส่วนนี้มากกว่าคนที่กิน 3-6 แก้วทุกวัน อันตรายเหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณรู้สึกห่วงสุขภาพตัวเองขึ้นบ้าง และอาจช่วยให้คุณพยายามลดปริมาณการดื่มลงเหลือวันละ 1-2 แก้วก็น่าจะพอ
ถ้าดื่มเหล้า 4 แก้วภายใน 2 ชั่วโมง ค่าแอลแอร์ฮอล์ในเลือดจะเพิ่มเป็น 0.064 ฤทธิ์แอลกอร์ฮอล์ระดับนี้ แรงพอที่จะทำร้ายสมองบางส่วน และสร้างปัญหาให้คุณมาก โดยเฉพาะเรื่องของการตัดสินใจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาขับรถ
ดื่มมากกว่าวันละ 4 แก้ว
คุณอาจจะเมาเกลือกกลิ้งอยู่ในปาร์ตี้เมื่อปีที่แล้วได้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เป็นแขกรับเชิญมากอีกในปีต่อๆ ไป การดื่มหนักๆ วันละ 5 แก้วทุกวันนั้น ถือว่าหนักเข้าขั้นระดับชาติเลยทีเดียว แต่ถ้านานๆ ครั้ง ก็ถือว่าคุณยังพอมีสติขับรถถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าติดจนเป็นนิสัย ขาดไม่ได้ บอกได้เลยว่าเสียใจ ถ้าจะให้ดีวันละ 2 แก้วกำลังสวย
6 แก้วภายใน 4 ชั่วโมงสำหรับคนที่หนัก 180 ปอนด์ ปริมาณแอกอฮอล์จะสูงถึง 0.08 ถึงขั้นนี้แล้ว คุณก็อย่าหวังเลยว่าระบบการทำงานของร่างกายจะเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับรู้ การตัดสินใจ และความทรงจำต่างๆ ระบบการทำงานของกล้ามเนื้อจะช้าลง เลือดหมุนเวียนไม่ทั่ว คุณจะรู้สึกหน้าชามากขึ้น แถมยังทำให้โลกทั้งโลกแกว่งไปมาจนคุณรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
ถึงตอนนี้ เชื่อว่านักดื่มระดับคุณ คงจะถามตัวเองได้แล้ว ว่าคืนนี้คุณจะดื่มกี่แก้วดีครับ จึงจะได้รับผลดีต่อสุขภาพของคุณ
Image by Free-Photos from Pixabay