คาร์ซีท

คาร์ซีท เพื่อลูกน้อยปลอดภัยในรถยนต์

จากสถิติของเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่ได้รับอุบัติเหตุในรถยนต์ มีทั้งหมด 500 – 600 คนต่อ 1 ปี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่พ่อแม่นำลูกมาไว้กับตัว โดยคิดว่าวิธีนี้เด็กจะปลอดภัยที่สุด คิดว่าอย่างไรสัญชาติญาณของพ่อและแม่จะคุ้มครองลูกน้อยในอกได้นั้น เป็นความเข้าใจผิดมหันต์

เนื่องจากผู้ปกครองที่มีลูกเล็กและมีรถยนตร์ส่วนตัวใช้ ส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่า การอุ้มทารกไว้กับตัวในขณะนั่งรถยนต์นั้นปลอดภัยที่สุด ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายกาจทีเดียว เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ปลอดภัยแล้ว ยังก่อให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ น้ำหนักตัวของเด็กจะกลายเป็นความแรงมหาศาลที่ผู้ใหญ่ไม่สามารถโอบอุ้มไว้ได้ อันทำให้ทารกน้อยหลุดลอยไปกระทบกับสิ่งกีดขวางจนบาดเจ็บหนักหรือเสียชีวิตได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้เด็กนั่งเบาะหลังต่างหาก และนั่งหรือนอนบนที่นั่งอันออกแบบมาสำหรับเด็กเด็ก ซึ่งจะกระชับตัว พร้อมมีเข็มขัดยึดเหนี่ยวให้เด็กติดกับที่นั่ง ช่วยป้องกันการกระทบกระเทือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้

ที่นั่งพิเศษในรถยนต์ออกแบบมาเฉพาะเด็กนั้น มีให้เลือกทั้งหมด 4 ประเภทตามความเหมาะสมของน้ำหนักและอายุ อันได้แก่
1. เปลเด็กอ่อนสำหรับรถยนต์ เพื่อเด็กที่คลอกก่อนกำหนด
2. ที่นั่งเด็กชนิดนั่งหันไปทางหลังรถ สำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด – 1 ปี
3. ที่นั่งเด็กที่หันไปทางหน้ารถ เหมาะกับอายุตั้งแต่ 1 – 5 ปี และ
4. ที่นั่งเสริม สำหรับเด็กโตอายุ 5 – 10 ปี

โดยที่นั่งประเภทนี้ทุกชนิดจะช่วยให้เด็กคาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้พอดีตัวยิ่งขึ้น

ที่นั่งพิเศษในรถยนต์ออกแบบมาเฉพาะเด็ก
การให้ความสำคัญกับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีในเรื่องยานยนต์ ถือว่าเป็นมิติใหม่สำหรับคนไทย ซึ่งยังไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไร เพราะส่วนใหญ่จะมองว่าระบบความปลอดภัยต่างๆ ในรถเพียงพอแล้ว แต่ทว่าระบบเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ใหญ่ แต่ไม่เหมาะสมและไม่สามารถป้องกันเด็กหรือทารกจากอุบัติเหตุได้เลย ทั้งนี้จากสถิติของเด็กที่ได้รับอุบัติเหตุในแต่ละปี มีถึง 500 – 600 คน แต่ถ้าใช้เก้าอี้นั่งในรถที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 10 ปี ก็จะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ 2 เท่าหรือประมาณ 200 – 300 คน ”

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย สมควรซื้อหาเบาะนั่งพิเศษสำหรับเด็กนี้ให้เขานั่งไปด้วยจะดีกว่า แต่ถ้าหากหาซื้อไม่ได้หรืองบประมาณไม่เพียงพอล่ะก็ขอให้แก้ขัด โดยการนำเด็กไปนั่งเบาะหลังและหาใครที่ไว้ใจได้นั่งกับเด็กด้วยจะดีที่สุด เผื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุคุณจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จนกลายเป็นอุบัติเหตุลุกลามใหญ่โต.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.