ความสำเร็จในการเรียนรู้ มาจากการเรียนรู้ให้เข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ เข้าใจถึงความเข้มแข็ง แรงกดดัน ความสำคัญของตนเอง และการปฏิบัติงานที่ดีที่สุดได้อย่างไร
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นนโปเลียน ดาวินซี หรือโมซาร์ด ล้วนมาจากการบริหารตนเองทั้งสิ้น สิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ คือการบริหารตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ที่มีคุณสมบัติของความทันสมัย แวดล้อมด้วยเทคโนโลยี ที่ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นอุปกรณ์เครื่องมือ หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตก็เป็นได้ แต่ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาก้าวนำหน้าไปไกลเท่าไหร่ เราก็มักจะมองข้ามพลังที่มีอยู่ภายในตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น น่าจะถึงเวลาที่จะมองกลับมาที่ตนเอง เรียนรู้ถึงการบริหารตนเอง เรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อสร้างแรงสนับสนุนภายในที่แกร่งกล้า ให้ช่วงชีวิตการทำงานหลายสิบปีต่อจากนี้ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จด้วยตนเองอย่างมั่นใจ ด้วยการค้นหาพลังที่แท้จริงภายในตนเอง
จากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า มนุษย์เราใช้พลังที่มีอยู่ภายในเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ยังมีพลังงานเหลือเฟือ ที่ยังไม่ถูกกลั่นกรองนำออกมาใช้อย่างเต็มที่ คุณเองสามารถเพิ่มศักยภาพในตนเองได้อีกเยอะครับ
เมื่อค้นพบพลังที่แท้จริงภายในตนเอง ก่อให้เกิดพลังแห่งความเชื่อมั่น เกิดพลังที่จะนำไปสู่ความชำนาญ และสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงไปได้ นั่นหมายถึงประสิทธิภาพในการทำงานย่อมจะมีมากขึ้นด้วย
การค้นหาพลังที่แท้จริงภายในตัวตนทำได้ไม่ยาก และยังมีหลายวิธีอีกต่างหาก ดังเช่นวิธีการที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้
การตรวจสอบผลจากการกระทำ หรือที่เรียกกันว่า Feedback Analysis… กระบวนการนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณค้นพบความแข็งแกร่งและศักยภาพที่แฝงอยู่ ทั้งยังไม่เคยถูกนำออกมาใช้
วิธีการปฎิบัติก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องตัดสินใจ หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เขียนแผนการลงในบันทึกตั้งแต่ขั้นตอนทางความคิด ถึงการปฏิบัติงาน และผลที่คาดว่าจะได้รับจากงานชิ้นนั้นๆ หลังจากงานเสร็จสิ้นลง ให้นำบันทึกกลับมาทบทวนและตรวจสอบหาข้อผิดพลาดจากงานที่ทำไปแล้ว เมื่อคุณทำเช่นนี้ทุกครั้งกับงานทุกชิ้นที่ได้รับมอบหมาย ให้นำมาเปรียบเทียบกัน ประสิทธิภาพในการบริหารตนเองจะมีมากขึ้น เนื่องจากได้ตรวจสอบตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ผลงาน คืออีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะทำให้คุณได้ปรับปรุงและพัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ เป็นเพราะงานแต่ละชิ้นจะแสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไข ความสามารถที่จะนำมาพัฒนาเป็นความเชียวชาญได้ รวมถึงการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดจากปัญหาในงานแต่ละชิ้น ผลงานยังเป็นตัวบ่งถึงขีดความรู้ของผู้ทำด้วย เหมือนเป็นการตอกย้ำให้เกิดการเรียนรู้เพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อพัฒนาให้งานมีคุณภาพสูงขึ้นนั่นเอง
อีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะดึงความสามารถแฝงภายในออกมาใช้ได้ นั่นคือ การลดทิฐิลง เปิดใจให้กว้าง และยอมรับความคิดเห็น เพื่อนำมาพิจารณาและวิเคราะห์ เพื่อนำมาพัฒนาสู่แนวคิดใหม่ที่มีผลดีต่อตนเองมากขึ้น ไม่มีใครจะรอบรู้ไปซะทุกเรื่อง บางคนอาจเห็นว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทุกเรื่อง อีกต่างหาก
แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่า โลกยังหมุนไม่เคยหยุดนิ่ง เทคโนโลยียังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คลื่นลูกใหม่ย่อมมีแนวคิดใหม่ๆ แต่คลื่นลูกเก่าก็มีประสบการณ์ที่เปี่ยมคุณค่า ซึ่งคนรุ่นใหม่ไม่มี ดังนั้น การค้นหาความสามารถภายในตนเอง หมายถึงการณ์เพิ่มประสบการณ์และความรอบรู้ให้ตนเองด้วย
ข้อแนะนำเหล่านี้ เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่คิดว่า น่าจะช่วยให้พวกเราทั้งหลาย ได้เรียนรู้และรู้จักตัวเองมากขึ้น เพื่ออะไรนะหรือครับ ก็เพื่อจะได้ปรับตัวเองให้ไปสู่ทิศทางที่ต้องการ ก่อนที่จะสายเกินแก้นะซิครับ