การทำความสะอาดพื้นที่ถูกวิธี มีอยู่ 2 แบบ คือ การถูแห้ง ซึ่งคล้ายกับการกวาดพื้น และการถูเปียก เพื่อเช็ดหรือล้างพื้น
การถูแห้ง หัวไม้ถูพื้นที่เหมาะกับการถูพื้นแบบนี้ควรเป็นหัวไม้ที่ทำจากขนสัตว์ หรือวัสดุสังเคราะห์ เนื่องจากมีคุณสมบัติ “ไฟฟ้าสถิต” ของวัสดุประเภทนี้จะดูดฝุ่นละอองไว้ บางชนิดเคลือบหรืออาบด้วยน้ำมันจึงช่วยขัดและรักษาพื้นไม้พร้อมกับดูดฝุ่นไปด้วย อย่างไรก็ตามวัสดุประเภทนี้มักทำให้ขี้ผึ้งขัดพื้นเหนียวเป็นยาง จึงควรใช้กับพื้นที่ไม่ได้ขัดมันเท่านั้น
เมื่อถูแห้งอย่ายกไม้ถูพื้นขึ้นสูงเพราะฝุ่นจะฟุ้ง ให้ถูผ่านกลางห้อง ลากผงฝุ่นต่างๆ ตามไปด้วย แล้วเขย่าฝุ่นลงในถุงขยะควรใช้วิธีถูแห้งในกรณีที่ฝุ่นไม่มากนัก
ถ้าไม้ถูพื้นสกปรกมาก ให้ซักล้างด้วยน้ำผสมผงซักฟอกเจือจาง แล้วตั้งหัวไม้ถูพื้นขั้นผึ่งให้แห้ง
การถูเปียก ไม้ถูพื้นด้ามยาวหัวฟองน้ำเหมาะกับพื้นกระเบื้องหรือพื้นกระเบื้ยงยางหัวไม้ถูพื้นชนิดนี้ถอดเปลี่ยนได้และมีคันพับหัวฟองน้ำเพื่อรีดน้ำออก บางทีก็เป็นผ้าหุ้มเกลียวด้านในที่สามารถบิดน้ำออกได้
ก่อนถูเปียก ให้ถูแบบแห้ง ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูด หรือใช้ไม้กวาดกวาดผงและเศษดิน ทรายให้หมดก่อน จากนั้นจุ่มไม้ถูพื้นลงในถังน้ำสะอาด บิดน้ำส่วนเกินออก แล้วแบ่งพื้นที่ถู เสร็จแล้วล้างหัวไม้ถูพื้นแล้วบิดให้หมาด นำมาเช็ดพื้นอีก แล้วปล่อยให้แห้ง
ถ้าพื้นเปื้อนมาก ให้ใช้ผงหรือน้ำยาทำสะอาดพื้นราดให้ทั่ว (ให้ดูฉลากว่าควรใช้แบบเข้มข้นหรือเจือจาง) ทิ้งไว้สักครู่ แล้วถูกำจัดคราบสกปรกออก จากนั้นล้างฟองน้ำแล้วบิดให้หมาด เช็ดพื้น แล้วปล่อยให้แห้ง
ผงขัดและน้ำยาทำสะอาดที่เป็นด่าง อาจทำให้กระเบื้องยางและวัสดุปูพื้นอื่นๆ เสียหายได้ ดังนั้นเวลาเลือกซื้อน้ำยาชนิดนี้ต้องอ่านฉลากให้แน่ใจว่าน้ำยานั้นใช้กับพื้นบ้านของคุณได้
ห้ามราดน้ำบนกระเบื้องยางหรือแผ่นปูพื้นที่มีรอยต่อ เพราะน้ำจะซึมเข้าไปในรอยต่อและทำให้กาวหรือปูนยาเสื่อมสภาพ
หลังใช้ไม้ถูพื้นแล้ว ต้องล้างน้ำ แล้วนำออกไปสะบัดนอกบ้าน ส่วนหัวไม้ถูพื้น (ไม่ว่าชนิดใด) ให้ล้างด้วยน้ำผสมผงซักฟอกให้สะอาด บิดให้หมาด แล้ววางตั้งขึ้นผึ่งให้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราและมีกลิ่นเหม็น