หลังจากที่คุณรู้ว่าจะมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นที่ครอบครัว คุณคงจะตื่นเต้นและสนุกกับการได้จัดห้อง เตรียมข้าวของให้เจ้าตัวน้อย ที่ลืมไม่ได้คงเป็นห้องนอนของเจ้าตัวน้อย ว่าเราควรเตรียมอะไรบ้าง
ก่อนที่เราจะจัดห้องเราต้องดูขนาดของห้องว่ามีขนาดเท่าไร คุณควรวางแผนการจัดห้องให้ดี เพราะเด็กจะต้องอยู่ในห้องนี้อีกนาน การจัดห้องให้ลูกมีอิทธิพลมากต่อพัฒนาการของเด็ก เช่นการเลือกสีห้อง การเลือกวอลล์เปเปอร์ หรือการติดรูปภาพในห้อง
ห้องนอนเด็กแรกเกิดควรมีคือโต๊ะ ควรมีขนาดไม่เล็กมากนัก เพื่อที่จะวางข้าวของๆ เด็ก หรือเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก
ตรวจดูปลั๊กไฟ ว่าอยู่ในจุดที่อันตรายหรือไม่ เพราะหากเด็กคลานหรือเดินได้ เด็กอาจจะเอานิ้วแหย่เข้าไปได้ แต่ก็ไม่ใข่ว่ามีน้อยจนเกินเหตุ ต้องคำนึงถึงในอนาคตด้วยว่า ลูกของคุณจะต้องอยู่ในห้องนี้จนโต ห้องลูกอาจต้องมีคอมพิวเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์
ยิ่งถ้าคุณรู้ว่าลูกคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง การจัดห้องก็จะง่ายขึ้นเยอะเลย หวังว่าว่าที่คุณพ่อคุณแม่คงจะมีความสุขกับการจัดห้องให้ลูกน้อยนะคะ
ทาสีหรือติดวอลเปเปอร์ดี?
คุณพ่อคุณแม่คนใหม่คงกำลังคิดอยู่ว่า ห้องนอนของคุณลูกจะทาสีหรือติดวอลล์เปเปอร์ดี ทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การทาสีคุณต้องคำนึงว่าเป็นสีประเภทใด เป็นสีน้ำ สีน้ำมัน หรือสีพลาสติก หากเป็นสีน้ำ คุณจะทำความสะอาดค่อนข้างลำบาก ในเวลาที่ลูกคุณเอาสีมาป้าย หรือเอาสติกเกอร์มาติด สีน้ำมันจะทำความสะออกง่ายกว่าแต่กลิ่นของสีรุนแรงกว่า ถ้าคุณต้องการจะทาสี ขอให้เลือกสีน้ำมันกึ่งด้าน โทนสีปานกลาง เช่น น้ำตาลอ่อน เทา หรือสีเนื้อซึ่งจะช่วยพรางรอยคราบสกปรกได้ดี ซึ่งเมื่อเด็กโตขึ้น คุณสามารถทาสีห้องให้เค้าใหม่ก็ได้ หากคุณเลือกที่จะติดวอลล์เปเปอร์คุณควรคำนึงถึงคุณภาพของวอลล์เปเปอร์ ถึงแม้ว่าราคาวอลล์เปเปอร์ในปัจจุบันบาง ประเภทจะมีราคาใกล้เคียงกับการทาสี แต่มักจะเป็นกระดาษที่ผิวหน้าลอกหลุดได้ง่าย สกปรกง่าย ทำความสะอาดไม่ได้ หรือไม่กันน้ำ แต่ถ้าเราจะใช้วอลล์เปเปอร์อย่างดีก็จะมีราคาค่อนข้างสูง ในปัจจุบันมีแบบวอลล์เปเปอร์มากมาย อาทิลายการ์ตูนที่เด็กชอบ หรือลายดอกไม้ที่คุณแม่โปรดปราน ถ้าคุณต้องการความเรียบร้อยสวยงามและประหยัด เราสามารถใช้ทั้งงานทาสีและติดวอลล์เปเปอร์ได้พร้อมกัน ปัจจุบันมีสีพ่นทำเป็นขรุขระ ผิวหยาบ เลียนแบบวัสดุธรรมชาติพวกหินหยาบ หินแกรนิต หินล้าง ทรายล้าง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าติดวอลล์เปเปอร์ แต่ยังคงไม่เหมาะกับเด็กเล็ก เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
วิธีเลือกซื้อเตียงให้ลูก
“การที่จะซื้อเตียงให้เด็กๆ เราต้องเลือกให้ดีๆนะคะ ไม่ใช่คิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญให้นอนที่ไหนก็ได้ เตียงเด็กที่ดีควรมีลูกกรงล้อมรอบกันเด็กตก ให้สูงกว่าไหล่ของเด็กเมื่อจับยืนบนที่นอน และน่าจะให้มีช่องระหว่างซี่ลูกกรงที่ห่างพอให้กำปั้นผู้ใหญ่ลอดได้ เพราะถ้ากว้างกว่านี้ เด็กอาจเอาหัวลอดออกมาแล้วค้างอยู่เป็นอันตรายได้ แต่ถ้าแคบกว่านั้นเวลาเด็กเอาเท้าลอดออกมาแล้วหกล้ม เท้าขัดอยู่เกิดเท้าแพลงได้อีกเช่นกัน เตียงเด็กที่ดีควรจะทำด้วยไม้ เพราะถ้าเกิดหกล้มแล้วเอาหัวไปโขกเข้าจะได้ไม่ถึงกับหัวแตก ส่วนความสูงของเตียงก็ไม่ควรสูงจากพื้นมากนัก เพราะเมื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่ค่อยอันตราย แต่ถ้าเตี้ยเกินไปคุณแม่ก็จะต้องก้มมากทำให้เมื่อย และพยายามหลีกเลี่ยงเตียงที่ทาสี เพราะอาจจะมีสารตะกั่วผสมอยู่และเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ถ้าเด็กเกิดไปอมหรือกัดเล่น“
เก้าอี้สำหรับเด็กเล็ก
เมื่อเด็กสามารถนั่งได้แล้ว และต้องรับประทานอาหารพร้อมคุณ หรือต้องทำกิจกรรมต่างๆ บนโต๊ะ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เก้าอี้ที่คุณมีอยู่ในบ้านอาจเตี้ยเกินไปหรือไม่เหมาะสมสำหรับเค้า เรามาดูวิธีในการเลือกซื้อเก้าอี้เด็ก หรือ highchair สำหรับเด็กกันดีกว่าค่ะ
สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อคือคุณควรเลือกเก้าอี้ที่มีน้ำหนักเบา เพื่อเคลื่อนย้ายได้สะดวก ขนาดและความแข็งแรงเหมาะสมกับตัวเด็ก และต้องให้เด็กนั่งสบาย
ส่วนประกอบของเก้าอี้เด็กมีหลายอย่าง
1. ความสูงของเก้าอี้จะต้องเหมาะสมกับโต๊ะที่คุณมีอยู่ แต่หากเก้าอี้ที่คุณซื้อมามีโต๊ะติดมาด้วยก็ตัดข้อนี้ไป
2. พนักพิง ต้องไม่เอน หรือตั้งจนเกินไป หรือคุณซื้อแบบที่มีเบาะนิ่มๆก็ได้ หากเก้าอี้นั้นปรับความเอนได้ก็จะดีค่ะ
3. ที่วางเท้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ เพราะหากสูงหรือต่ำจนเกินไปเด็กก็จะเมื่อย คุณอาจเลือกแบบที่เลื่อนความสูงของที่วางเท้าได้ เพื่ออนาคตคุณมีลูกคนใหม่ หรือให้ญาติพี่น้อง จะได้ไม่เสียประโยชน์เปล่าค่ะ
4. ล้อเลื่อน เป็นส่วนประกอบที่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ แต่เป็นส่วนที่จะเพิ่มความสะดวกสำหรับคุณในการเคลื่อนย้าย
5. เข็มขัดรัดตัวเด็ก ส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนประกอบที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก กันการพลัดตกจากเก้าอี้ค่ะ