วิธีการเลือกซื้อรถมือสอง

วิธีการเลือกซื้อรถมือสอง ตอนที่ 1 ราคาและเลือกรถที่ต้องการซื้อ

วิธีการเลือกซื้อรถมือสอง
ขั้นตอนที่ 1  ราคาไหนที่คุณสามารถรับได้

การกำหนดว่าคุณสามารถซื้อได้ราคาเท่าไหร่ หรือราคาไหนที่คุณซื้อไม่ได้นั้นเป็นขั้นตอนที่จำเป็นขั้นตอนหนึ่งใน วิธีการเลือกซื้อรถมือสอง สักคัน บริษัทผู้จำหน่ายรถมือสองหรือผู้ขายรถมือสองส่วนตัวมักจะอยากให้คุณซื้อรถในราคาที่สูงสุดเท่าที่คุณจะสามารถจ่ายได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่คำแนะนำเดียวกับที่นักเศรษฐศาสตร์ต้องการแนะให้คุณ คนส่วนใหญ่จะซื้อรถมือสองเพราะว่าพวกเขาต้องการประหยัดเงิน หรือไม่ก็เพราะว่าต้องการยี่ห้อหรือรุ่นที่พวกเขาไม่สามารถหาซื้อได้จากรถยี่ห้อใหม่ๆ ได้ แต่ก็เหมือนกับการซื้อรถใหม่

การศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นใน วิธีการเลือกซื้อรถมือสอง เช่นกัน อันดับแรก ลองคำนวณรายได้ประจำเดือนของคุณก่อน ทางที่ดีคือใช้รายได้สุทธิ เพื่อที่คุณจะได้ทราบว่ารายได้ที่เข้ามาและที่จ่ายไปนั้นมาจากอะไรบ้าง จากนั้นก็คำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือน รวมทั้งหนี้สิน, เงินกู้หรือค่าเช่า, ประกัน, ของใช้จิปาถะ, เงินค่ากินใช้ในแต่ละวัน, เสื้อผ้า และอื่นๆ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยคุณคำนวณว่าคุณจะสามารถส่งรถได้เท่าไหร่เท่านั้น แต่มันยังทำให้คุณเห็นว่าเงินของคุณหมดกับไปค่าใช้จ่ายอะไรบ้างด้วย และรถคันหนึ่งก็ควรมีราคาต่ำกว่าเงินกู้บ้านหรือเช่าบ้านในแต่ละเดือนด้วย

หลักง่ายๆ ก็คือการจ่ายเงินกู้รถมือสองในแต่ละเดือนของคุณควรจะเป็นเงินประมาณ 15% ของรายได้ในแต่ละเดือน มันสำคัญมากที่จะต้องรู้งบประมาณของตนเอง การเตรียมตัวการมีความรู้คืออาวุธที่สำคัญที่สุดที่ผู้บริโภคต้องมี ดังนั้น อย่าเดินเข้าไปในร้านโดยที่ไม่มีการนั่งลงคำนวณการเงินของคุณก่อน ขอย้ำอีกครั้งว่า

สิ่งที่คุณต้องทราบคือ
– คุณสามารถจ่ายค่างวดรถได้มากเท่าไหร่
– คุณต้องวางเงินดาวน์เท่าไหร่
– คุณมีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนมากเท่าไหร่

การทราบข้อจำกัดทั้งสามข้อนี้สำคัญมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเดินเข้าไปเจรจาในร้านโดยที่คุณทราบเพียงว่าในแต่ละเดือนคุณส่งได้ เท่าไหร่ แผนการเงินก็จะพยายามขยายช่วงเวลาในการจ่ายเงินให้ยาวออกไปและเพิ่มดอกเบี้ย ให้สูงขึ้น คุณจะเดินออกจากร้านอย่างมีความสุข ถ้าคุณคำนวณมาแล้วว่าในความเป็นจริงแล้ว ในแต่ละเดือนตัวคุณเองต้องการส่งเท่าไหร่ สิ่งอื่นที่จะต้องพิจารณาเมื่อคำนวณเรื่องราคารถแล้วก็คือเรื่องค่าน้ำมัน, ใบทะเบียนรถ, ค่าจดทะเบียน, และค่าประกันรถ

หลังจากที่คุณเจอรถสัก 2-3 คันที่คุณสนใจแล้ว ให้โทรไปยังบริษัทประกันเพื่อระบุค่าประกันในแต่ละเดือนของรถแต่ละคันว่ามี จำนวนเท่าไหร่ การประกัน, ค่าธรรมเนียมและค่าทะเบียนรถสำหรับรถมือสองนั้นมักจะถูกกว่ารถใหม่ ถ้าคุณกำลังมองหารุ่นที่อยากได้ จำไว้เสมอว่า บริษัทประกันภัยบางบริษัทอาจจะให้ส่วนลดสำหรับรถที่มีลักษณะพิเศษต่างๆ เหล่านี้ได้ เช่น มีถุงลมนิรภัยหน้าและด้านข้าง มีระบบเบรก ABS มีไฟส่องกลางวัน เป็นต้น

แต่ในทางตรงกันข้าม อัตราที่ว่านี้อาจจะสูงได้สำหรับผู้ซื้อที่เป็นวัยรุ่น, ไม่มีประสบการณ์หรือคนที่มีประวัติการขับรถที่ไม่ดี หรือรถที่ไม่มีถุงลมนิรภัย เป็นต้น ถ้าคุณตั้งใจที่จะซื้อรถสักคันด้วยเงินสด คุณก็ควรดูงบประมาณด้วย กำหนดและจดไว้ว่าคุณต้องการจ่ายเงินเท่าไหร่ หรือราคาที่คุณตั้งไว้นั้นคือเท่าไหร่ และกำหนดราคาสูงสุดที่คุณคิดว่าจ่ายได้ ให้มั่นใจว่าคุณทำตามนี้ก่อนที่คุณจะเริ่มไปซื้อรถ ทำไมการซื้อรถมือสอง (โดยปกติ) ถึงประหยัดเงิน

มีคนจำนวนมากที่จริงๆ แล้วสามารถที่จะซื้อรถที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงและเป็นรถใหม่ได้ แต่ที่สุดก็เลือกซื้อรถมือสองแทน แต่ก่อนที่จะเรียกพวกนี้ว่าพวกงี่เง่าแล้วหล่ะก็ จริงๆ แล้วเราสามารถเรียนรู้อะไรบางอย่างจากพวกเขาได้ ทำไมคนที่ฉลาด มีรายได้สูงจึงเลือกที่จะซื้อรถมือสองแทนรถใหม่กัน? ลองมาพิจารณาดูว่า ราคาของรถใหม่สักคันนั้นมักจะตกครั้งละหลายพันดอลล่าร์เมื่อมันถูกมาขายเป็น ครั้งที่สอง

โดยส่วนใหญ่แล้ว รถใหม่จะมีราคาสูงกันก็เนื่องจาก มันจะมีค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าขนส่งของโรงงาน, ค่ารักษาความสะอาด, ค่าพื้นที่เก็บในคลังสินค้า, ค่านายหน้า, และกำไรในส่วนของบริษัทผู้จำหน่ายรายย่อย นอกจากนั้น รถคันหนึ่งก็มักจะมีราคาตกถึงหนึ่งในสามจากราคาในตอนแรกแล้วหลังจากนั้น เพียงสามปี แต่มันก็อาจจะวิ่งได้ต่อไปอีก 8-9 ปี หรือมากกว่านั้น ภาษี, ค่าประกันและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของรถมือสองก็มักจะถูกกว่าด้วย ซึ่งทำให้การซื้อรถมือสองสักคันเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจสำหรับคนที่คำนึงเรื่อง ราคา นั่นเอง

หลุมพรางของการซื้อรถมือสอง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของการซื้อรถมือสองก็คือการไม่มีประกันภัย ผู้ขายส่วนตัวส่วนใหญ่มักจะไม่มีประกันภัยใดเลยให้กับรถที่พวกเขาขาย ส่วนการซื้อรถมือสองจากบริษัทอาจจะมีการให้ประกันภัยฟรี หรือคิดเงินก็ได้แล้วแต่ โดยอาจจะให้ประกันภัยบุคคลที่สาม ซึ่งคุณก็อาจจะได้รับโดยที่ไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากบริษัทก็ได้หลังจาก ที่คุณซื้อรถสักคัน

หลุมพรางอื่นๆ ของการซื้อรถมือสองก็คือ รถอาจจะมีประวัติที่ไม่ดี กล่าวคือ เมื่อบริษัทได้ซื้อรถมือสองมาจากการประมูลหรือผู้ที่นำมาขายส่วนตัวแล้ว โดยปกติบริษัทก็มักจะไม่ทราบเกี่ยวกับประวัติการใช้บริการที่ศูนย์ หรือประวัติเกี่ยวกับประวัติอุบัติเหตุแต่อย่างใด ทันทีที่บริษัทประกันภัยประกาศว่ารถคันใดคันหนึ่งเป็นรถที่พังทั้งหมด มันก็จะถูกระบุว่าเป็นรถ “salvage” แต่ถึงอย่างไรก็ตาม รถคันใดที่ไม่ได้พังทั้งหมดมันก็จะไม่โดนระบุเช่นนี้ ดังนั้น การรู้ถึงประวัติรถด้วยจึงเป็นสิ่งที่ดีเสมอ รถใดที่ถูกชนจนหมดสภาพแล้ว และนำมาซ่อมใหม่ทั้งคันนั้น น่าจะมีราคาต่ำกว่าในตลาดสัก 50% หรือมากกว่านั้น ดังนั้น การมีความรู้เรื่องนี้ก็สามารถประหยัดเงินของคุณได้เช่นกัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลุมพรางต่างๆ เหล่านี้นั้นสามารถที่จะเอาชนะได้ด้วยข้อระมัดระวัง ดังนี้

  • ถ้าคุณกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือของรถมือสองสักคัน ก็ให้หาซื้อประกันภัยเพิ่มเติม โดยพยายามหาราคาของรถมือสองของหลายๆ ที่และหลายๆ รุ่น ประกันภัยต่ออายุที่มีราคาที่ถูกกว่าคือตัวที่บอกว่ารถคันนั้นมีความน่า เชื่อถือมากกว่า – พยายามหลีกเลี่ยงรถที่มีกิโลเมตรบอกระยะทางสูง (มากกว่า 20000 กิโลเมตรต่อปี และไม่มีประวัติการใช้บริการตรวจเช็คที่ศูนย์ หรือรถที่มีประวัติการใช้บริการที่ไม่ดีก็ตาม
  • ให้เลือกซื้อรถรุ่นที่มีอายุสัก 3-4 ปี ณ ตอนนี้ – เมื่อพบรถที่คุณชอบแล้ว ให้เช็ครถที่คุณกำลังจะซื้อนั้นเป็นรถที่เคยถูกซ่อม หรือประเภท ชนจนหมดสภาพหรือไม่

 

ขั้นตอนที่ 2 การตัดสินใจเลือกรถที่จะซื้อ

ขั้นตอนต่อไปของการซื้อรถก็คือกำหนดว่ารถคันไหนที่คุณจะซื้อ รถคันไหนที่เหมาะกับคุณ และคุณพบรถมือสองรุ่นต่างๆ ได้จากที่ไหนบ้าง นี้คือกลยุทธ์หนึ่งเนื่องจากการมีตัวเลือกของรถมือสองนั้นจะต้องมากกวารถใหม่ถึงสามเท่า และข้อมูลก็มักจะหายากกว่า

เริ่มแรก ลองคำนวณก่อนเลยว่าลักษณะที่คุณต้องการ ยกตัวอย่างเช่น บางคนที่ซื้อรถเพื่อภาพลักษณ์ก็จะมีความต้องการที่ต่างไปจากคนที่ต้องการซื้อเพื่อการเดินทางระหว่างบ้านกับที่ทำงานเพียง 2 ชั่วโมง ให้คิดถึงวิถีชีวิตประจำวันของคุณมากกว่าเรื่องภาพลักษณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น รถที่เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณ สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือเลือกประเภทของรถที่เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการรับส่งเด็กๆ ด้วย รถขับเคลื่อนสองที่นั่งก็ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเท่าใด

การที่มีจำนวนรถมือสองมากมายก่ายกองในร้าน การเลือกรถสักคันจึงอาจเป็นเรื่องที่สับสนและกินเวลาได้ และต่อไปนี้ก็คือ คำถามบางคำถามที่อาจจะช่วยคุณตัดสินใจให้เบื้องต้นได้
– คุณชอบรถเกียร์มือหรือเกียร์อัตโนมัติ? รถที่เป็นเกียร์มือมักจะถูกกว่ารถที่มีเกียร์อัตโนมัติ
– ต้องการรถสองประตูหรือสี่ประตู?

รถแบบไหนที่เหมาะสมกับความจำเป็นของคุณมากที่สุด
– คุณต้องการรถขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ สถานที่คือองค์ประกอบตัวแรกในการตัดสินใจ ถ้าคุณไม่ได้ต้องเข้าป่าล่าสัตว์ หรือออกค่าย คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเสียเงินสูงขึ้น และเปลืองค่าน้ำมันซึ่งมักจะมาจากรถขับเคลื่อนสี่ล้อแต่อย่างใด
– ความปลอดภัยนั้นสำคัญอย่างไร? ให้เช็คอัตราความปลอดภัยของรถที่ต้องการ รวมทั้งการใช้งานของถุงลมนิรภัยทั้งของคนขับและผู้โดยสาร
– มีจำนวนผู้โดยสารมากเท่าไหร่ที่คุณต้องบรรทุกโดยปกติ?
– คุณต้องการพื้นที่เก็บสิ่งของมากหรือเปล่า?
– คุณต้องออกเดินทางบ่อยหรือไม่?
– ระยะทางของการเดินทางในแต่ละวันมากเท่าไหร่?
– คุณต้องการเบรคแอนตี้ล็อก หรือตัวควบคุมล้อหรือไม่?
– ต้องการเครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่? ถ้าคุณเคยขับรถแปดจังหวะ เครื่อง 4 จังหวะจะช้าสำหรับคุณหรือเปล่า หรือถ้าคุณเคยขับรถ 4 จังหวะ การเปลี่ยนมาขับ 8 จังหวะจะทำให้คุณเปลืองน้ำมันหรือไม่?
– หรือมีลักษณะพิเศษอื่นๆ หรือไม่ที่คุณจำเป็นต้องมี? เช่น ถ้าคุณมีหลังที่ไม่ดี ตัวดันหลังก็อาจจะเหมาะกับคุณ หรือบางทีคุณอาจจะเตี้ยมากก็ต้องมีตัวปรับที่นั่ง ซึ่งจะทำให้คุณยกที่นั่งให้สูงขึ้นได้ ถ้ามันมีลักษณะพิเศษที่คุณต้องการแล้วหล่ะก็ ก็ให้จดเอาไว้เพื่อที่ว่ามันจะได้ช่วยตัดตัวเลือกที่ไม่เหมาะกับคุณออกไปได้

ในขณะที่ การซื้อรถที่เหมาะกับความจำเป็นทั้งในปัจจุบันและอนาคตของคุณนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่พวกเราก็ไม่ลืมว่าคนทั่วไปก็มักจะคลั่งไคล้รถของพวกเขาด้วย รถคันหนึ่งสามารถบ่งบอกถึงภาพลักษณ์ของเจ้าของได้ แต่ในขณะที่รถสปอร์ตใช้งานอาจจะเป็นรถในฝันของคุณที่บังเอิญทำงานในด้านการขาย แต่มันก็อาจจะไม่ใช่รถที่ดีที่สุดในการไปรับลูกค้า หรือบรรทุกสัมภาระจำนวนมาก ซึ่งก็เช่นเดียวกับคนที่เป็นผู้ปกครองตามบ้าน ซึ่งอาจจะมองเห็นถึงประโยชน์ของการซื้อรถมินิแวน แต่ก็คงไม่ชอบพวกรอยแปดเปื้อนเล็กๆ น้อยตามรถ แต่การประนีประนอมดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

สำหรับคนที่เป็นนักธุรกิจก็ควรเป็นรถซีดาน เกียร์มือและเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ก็ควรเป็นรถที่ใช้งานได้มาก หรือรถวาก้อน แต่ต้องให้มั่นใจก่อนว่าได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณอาจจะเลิกใช้รถคันเดียวกันในอีก 6-7 ปีข้างหน้าก็ได้ ดังนั้น พยายามนึกถึงความจำเป็นในอนาคตและการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตด้วย มันมีรถหลายระดับในตลาด คำว่าระดับในที่นี้ก็คือ รถสปอร์ตใช้งาน, รถตู้, รถสองประตู, รถซีดาน, คูเป้, กระบะ, สเตชั่นวาก้อน, และอื่นๆ เป็นต้น การตัดสินใจเลือกรถสักประเภทก็หมายถึง คำว่า “เงิน” ด้วย ให้ตรองดูว่าคุณต้องการจ่ายเงินเท่าไหร่, คุณต้องการวางเงินดาวน์เท่าไหร่, และในแต่ละเดือนคุณส่งได้เท่าไหร่ อย่ารอจนกระทั่งคุณตกหลุมรักรถคันใดคันหนึ่งไปแล้ว

ให้พยายามลองประเมินตามนี้ ทันทีที่คุณได้ตัดสินใจเลือกประเภทรถได้แล้ว ให้ดูที่รูปแบบส่วนตัว อย่างเช่น ผู้ที่ซื้อรถซีดานขนาดกลาง ก็ควรศึกษารถซีดานหลายๆ คันก่อนที่จะลดตัวเลือกให้น้อยลง และคนที่ซื้อรถสปอร์ตใช้งานก็ควรเก็บข้อมูลของรถหลายๆ คัน อาจจะจากเว็บต่างๆ, หนังสือ, นิตยสาร เป็นต้น การลดตัวเลือกของรถมือสองลงมันยากกว่ารถใหม่เล็กน้อย เนื่องจากมันมีรถมือสองให้เลือกจำนวนมาก ให้ลองคุยกับเพื่อนหรือคนที่รู้จักที่ขับรถที่คุณชอบดูก่อน คำพูดของคนก็มักจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของรถบางคันได้ แบบไหนที่เรียกว่าเก่าเกินไป?

รถมือสองในฝันคือรถที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี ระยะทางน้อยกว่า 70,000 กิโลเมตร กฎนี้ถือว่าสำคัญเนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆ ที่ใช้นานๆ มันหมายถึงอายุ รวมทั้งการใช้งานที่มากเกินไป นั่นเอง ระยะทางอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอนุโลมได้บ้างเล็กน้อยสำหรับรถบางคันที่ เป็นที่รู้กันดีว่ามีความน่าเชื่อถือเป็นเลิศ ยกตัวอย่างเช่น รถบางคันที่มีระยะทาง 70,000 กิโลเมตรขึ้นยังคงมีระยะการใช้งานที่ยาวนาน ถ้ารถคันดังกล่าวได้รับการเอาใจใส่อย่างดีตลอดมา เมื่อมองหารถที่มีระยะทางน้อย หลักทั่วไปก็คือประมาณ 15,000 – 20,000 กิโลเมตรต่อปี ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเป็นรถใหม่คันหนึ่ง บางคนอาจจะมองว่า 15,000 กิโลเมตรต่อปีเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำแล้วได้ หรือบางคนก็อาจจะมองว่า 20,000 กิโลเมตรต่อปีก็เป็นไปได้ เช่นกัน รถคันใดก็ตามที่ถูกขับขี่มามากกว่า 20,000 กิโลเมตรต่อปีนั้นสมควรที่คุณจะเลี่ยง ให้มองรถที่มีตัวเลข 15,000 กิโลเมตรต่อปีไว้เป็นหลัก แต่ก็ให้ยืดหยุ่นนิดหน่อยได้ ถ้ารถคันนั้นได้รับการดูแลรักษาอย่างดีตลอดมา

แต่จงจำไว้ด้วยว่าตัวเลชดังกล่าวนั้นจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้ารถคันนั้นเคยชนมาก่อน รถบางคันอาจจะเสียหายได้ในระยะทางเพียงไม่กี่พันกิโลเมตร ดังนั้น อย่าเหมาเอาเพียงว่าเพราะรถคันนั้นมีตัวเลขไมล์ที่ต่ำแล้วจะดีเสมอไป ตัวอ่านระยะทางก็สามารถที่จะตีกลับได้ และกลลวงนี้ก็ได้ถูกใช้โดยพวกขายรถส่วนตัวมานักต่อนักแล้ว ซึ่งผลของมันจะเห็นได้ชัดคือ รถที่มีระยะระยะทางสูงกลับกลายเป็นรถที่มีระยะทางต่ำ เพื่อทำให้รถดูมีราคาสูงขึ้นนั่นเอง เพื่อเป็นการเลี่ยงการโกงระยะทางนั้น ให้นำรถคันนั้นไปเช็คไมล์โดยการทำ VIN (vehicle Identification number) ถ้ารถคันนั้นเคยถูกซื้อมาก่อนหน้านี้ ระยะทางของมันก็จะถูกบันทึกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าระยะทางที่ถูกบันทึกเอาไว้มันมีตัวเลขสูงกว่าที่ตัวอ่านระยะทาง ณ ปัจจุบัน ให้โทรแจ้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้แจ้งคนขายว่าเขาโกงระยะทางได้

วิธีที่ง่ายอีกวิธีหนึ่งซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจก็คือ การตรวจสอบระดับความน่าเชื่อถือของรถมือสองหลายๆ คัน แต่ให้จำไว้ว่า ความน่าเชื่อถือไม่ได้บอกว่าราคาขายครั้งที่สองจะสูงเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น Benz ซึ่งไม่มีตัววัดความน่าเชื่อถือแต่อย่างใด แต่มันก็จะมีค่าสูงเสมอ ทั้งนี้มันก็มีแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของรถมือสองจำนวนมากทั้ง บนอินเตอร์เนต และตามหนังสือ ก็ให้ลองสละเวลาในการดูสิ่งเหล่านี้ด้วย เพื่อที่ว่าจะได้ประหยัดเงินในระยะยาวของคุณได ้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.